บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1094

อะซี่จ้องมองตามเงาแผ่นหลังของนางอย่างเย็นชา แทบจะอดใจไม่ไหว อยากจะเข้าไปลากตัวนางมาทุบตีโหด ๆ สักยก แล้วเค้นถามนางถึงร่องรอยของใต้เท้าทัง

แต่เมื่อคิดถึงคำตักเตือนของพี่หยวน นางก็ทำได้แค่จ้องมองอีกฝ่ายหมุนตัวเดินเข้าบ้านไปตาปริบ ๆ เท่านั้น

อะซี่นั่งลงพลางคิดเกี่ยวกับสิ่งที่นางพูดเมื่อครู่ แม้ว่านางจะบอกฮูหยินทังว่าตัวเองเชื่อใจฮูหยินเหยาโดยไม่คิดสงสัย แต่ในใจลึก ๆ กลับมีความเคลือบแคลง เพราะก่อนหน้านี้ฮูหยินเหยาก็เคยเป็นปฏิปักษ์กับพี่หยวนมาก่อน ในเวลานี้ผู้คนที่อยู่ข้างกาย คนไหนคือคน คนไหนคือผี นางแยกไม่ออกแล้วจริง ๆ อย่างไรก็ควรระวังไว้ให้มากที่สุดถึงจะดี

นางมอบหมายให้คนจับตามองฮูหยินทังต่อ แล้วไปหาหรงเยว่ที่จวนอ๋องหวย นางไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้พี่หยวนฟังมาก่อน เพราะพี่หยวนเชื่อใจฮูหยินเหยาโดยไม่คิดสงสัยเลยแม้แต่น้อย อย่างไรก็ไม่มีวันเชื่อคำพูดของฮูหยินทังแน่

แต่หรงเยว่เป็นคนของสำนักเหลิ่งหลัง คุ้นเคยกับการได้เห็นความซับซ้อนมากเล่ห์ในใจคน บางทีนางอาจแยกแยะความจริงจากความเท็จได้

หรงเยว่กำลังใช้โกฐจุฬาลัมพาอุ่นท้องอยู่ในจวน หลังจากฟังคำพูดของอะซี่ นางก็ขมวดคิ้วขึ้นช้า ๆ " ตอนนี้เราอย่าเพิ่งสนใจว่าฮูหยินเหยาจะน่าสงสัยหรือไม่ก่อน แต่ฮูหยินทังต้องกำลังจับตามองฮูหยินเหยาอยู่แน่ ๆ"

“ทำไมเจ้าถึงพูดอย่างนี้ล่ะ?” อะซี่เป็นคนที่มีความคิดเรียบง่าย นางคิดไม่ถึงว่าหรงเยว่จะพูดอะไรที่มันซับซ้อนขึ้นไปถึงขั้นนี้

“ทำไมอยู่ ๆ นางก็พูดถึงฮูหยินเหยาโดยไม่มีเหตุผลล่ะ? เรื่องพวกนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับฮูหยินเหยาเลยสักนิด อีกทั้งฮูหยินเหยาก็ถอนตัวออกจากจวนอ๋องจี้ไปตั้งนานแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนไม่เกี่ยวข้องอะไรกับนางอีก การที่จู่ ๆ นางก็พูดถึงคนที่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องโดยเจตนา นั่นหมายความว่านางต้องมีแผนการบางอย่างแน่"

“ขอฟังรายละเอียดมากกว่านี้ได้หรือไม่!” อะซี่รีบนั่งลงเป็นพัลวัน

หรงเยว่เอากระเป๋าที่ห่อโกฐจุฬาลัมพาออก แล้วใช้มือตัวเองลูบที่ท้องช้า ๆ แล้วพูดว่า “คาดว่านางคงมีสองเป้าหมาย ถ้าไม่คิดจะทำให้ฮูหยินเหยากับพระชายารัชทายาทเกิดขุ่นเคืองใจกัน ก็ต้องมีเป้าหมายให้ฮูหยินเหยามาทะเลาะโต้เถียงกับนาง นางลงมือกับฮูหยินเหยา แต่ไม่ฆ่าฮูหยินเหยา นั่นเป็นเพราะว่าการฆ่าฮูหยินเหยาไม่มีประโยชน์อะไรกับนางแม้แต่น้อย

เป็นไปได้ว่านางอาจมีความคิดที่จะจับตัวฮูหยินเหยา เพื่อให้ตัวเองมีตัวประกันเป็นยันต์คุ้มกายมากขึ้นอีกชั้น การทำแบบนี้ ยังสะท้อนให้เห็นว่าบางทีใต้เท้าทังอาจกำลังตกอยู่ในอันตราย ดังนั้นนางจึงต้องจับตัวคนที่สามารถทำให้รัชทายาท กับพระชายารัชทายาทเคลื่อนไหวได้ อีกทั้งคนคนนั้นต้องไม่รู้วรยุทธ์ เจ้าลองคิดดูดี ๆ สิว่า ในหมู่มวลคนมากมายในจวนอ๋องฉู่ ไม่ใช่ว่าฮูหยินเหยาเป็นคนที่ลงมือได้ง่ายที่สุดแล้วหรอกรึ? "

อะซี่เริ่มไม่เข้าใจขึ้นมาอีกแล้ว “เจ้าบอกว่าเป้าหมายแรกของนางคือต้องการแยกตัวฮูหยินเหยาออกมาให้อยู่ลำพัง เพราะอะไรล่ะ? การแยกฮูหยินเหยาออกมาจะมีประโยชน์อะไรกับนางรึ?”

หรงเยว่กลอกตามองบนใส่นาง "ยัยเด็กโง่คนนี้นี่หนอ ทำไมเจ้าช่างไม่รู้วิธีเชื่อมโยงสิ่งต่าง ๆ ก่อนหลังเอาเสียเลยนะ? ตอนที่ฮูหยินเหยายังเป็นพระชายาจี้อยู่ นางกุมความลับมากมายของพวกขุนนางไว้ในมือ ตอนนี้นางไม่ได้ใช้คนเหล่านี้ แต่ถ้านางต้องการจะใช้จริง ๆ คนเหล่านี้จะไม่ฟังนางหรือ? เมื่อไหร่ที่ฮูหยินเหยามีเรื่องเคืองใจกับพระชายารัชทายาท จนแยกนางออกไปตามลำพัง ฮูหยินเหยาย่อมเกิดความโกรธแค้น ที่นี้พวกนางก็จะมีโอกาสแล้วไม่ใช่รึ? "

อะซี่สูดลมหายใจเฮือก "จิตใจชั่วร้ายนัก!"

“ นี่ไม่นับว่าชั่วร้ายอะไรนักหรอกนะ แต่เป็นแผนการที่ดีที่สุดต่างหาก สิ่งที่เรากำลังเล่นอยู่ตอนนี้คือการวางแผนสู้กัน ถ้าฮูหยินเหยารู้วรยุทธ์ เราก็สามารถใช้กลยุทธ์แผนซ้อนแผนเพื่อสืบหาที่อยู่ของใต้เท้าทังได้ แต่ในเมื่อนางไม่รู้วรยุทธ์ ดังนั้นจึงใช้แผนนี้ไม่ได้ มันอันตรายเกินไป” หรงเยว่อธิบาย

หลังจากพูดจบ คิ้วของนางก็ขมวดมุ่นขึ้นอีกครั้ง “กลัวก็แต่ว่า ใต้เท้าทังจะกำลังตกอยู่ในอันตราย ไม่อย่างนั้น การที่นางจับใต้เท้าทังได้แค่คนเดียว ก็เพียงพอที่จะใช้เป็นโล่กำบังเพื่อล่าถอยไปได้แล้ว”

“เจ้าว่าทำไมนางถึงไม่หนีไปล่ะ? ในเมื่อตอนนี้นางมีใต้เท้าทังอยู่ในกำมือ ต่อให้นางหนีไป พวกเราก็ไม่กล้าทำอะไรรุนแรงกับนางอยู่แล้ว”

“ไม่มีที่ไหนที่จะไปได้ เมื่อไหร่ที่นางหนีไปก็จำเป็นต้องหาที่กบดาน ในทางตรงกันข้าม มันอาจจะเป็นการเปิดเผยตัวตนคนของนางก็ได้ หรือไม่การที่ได้อยู่ใกล้ ๆ จวนอ๋องฉู่คงมีประโยชน์กับนาง ทำให้รู้เรื่องราวภายในจวนอ๋องฉู่ได้ตลอดเวลา”

อะซี่นับว่าเข้าใจมากขึ้นแล้ว แต่พอได้ยินว่าใต้เท้าทังอาจตกอยู่ในอันตราย นางก็กังวลใจมาก "แล้วจะทำอย่างไรกันดีล่ะ? หรือพวกเราไม่มีหนทางที่จะช่วยใต้เท้าทังได้เลยจริง ๆ น่ะรึ?"

“ ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีหนทางหรอก ถ้าฮูหยินเหยาจงใจให้นางจับตัวไป พวกเราก็สามารถสะกดรอยตามไปได้ แต่เรื่องนี้จะบอกให้พระชายารัชทายาทรู้ไม่ได้.....” หรงเยว่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ลืมมันไปเสียเถอะ เรื่องนี้เราอย่าทำอย่างนี้เลยดีกว่า หลีกเลี่ยงอันตรายที่อาจจะเกิดกับฮูหยินเหยา”

อะซี่พูดว่า: "ทำไมไม่ลองถามฮูหยินเหยาดูก่อนล่ะ? อย่างไรเสียพวกเราก็จะแอบส่งคนตามไปด้วยอยู่แล้ว ไม่น่าต้องกลัวอะไรหรอก"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน