บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1095

อะซี่ไม่ได้ไปเชิญหยวนชิงหลิงมาด้วยตัวเอง แต่ส่งคนไปเชิญแทน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ฮูหยินเหยาคิดว่าตอนที่นางไปเชิญ นางจะระบายโทสะเป็นการส่วนตัว

หยวนชิงหลิงให้อาหารตอเป่าอยู่ ตอเป่าออกไปตามหามาเกือบครึ่งวันแล้ว ก็ยังไม่มีเงื่อนงำอะไร กำลังคิดว่าช่วงเย็น ๆ จะออกไปตามหาที่ไกล ๆ กว่านี้อีกสักหน่อย ก็ได้ยินว่าฮูหยินเหยาขอเชิญนางไปพบ จึงพูดกับตอเป่าไปสองสามคำ ให้ตอเป่าไปพักผ่อนก่อน

เมื่อมาถึงลานบ้านของฮูหยินเหยา ก็เห็นว่าอะซี่อยู่ที่นั่นด้วย ทั้งสองคนดูมีสีหน้าค่อนข้างเคร่งเครียดหนักอึ้ง จึงถามว่า "เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นรึ?"

อะซี่ขอให้นางนั่งลงก่อน ค่อยบอกต่อคำพูดของฮูหยินทังให้หยวนชิงหลิงฟัง หยวนชิงหลิงไม่รอให้นางพูดจบ ก็พูดตัดบทอย่างโกรธเคืองว่า "ไร้สาระ! นางคิดจะยุยงให้พวกเราเกิดความขัดแย้งกันเอง อย่าไปเชื่อคำพูดของนาง!"

อะซี่พูดว่า: “พวกเราก็ไม่เชื่อหรอก แต่พระชายาหวยบอกว่าเรื่องนี้มีแผนการซ่อนอยู่ บางทีอาจจะช่วยใต้เท้าทังได้”

เมื่อได้ยินว่ามีแผน หยวนชิงหลิงจึงถามอย่างเร่งรีบ “แผนอะไร? รีบพูดมาเร็วเข้า”

อะซี่ถ่ายทอดคำพูดทั้งหมดของหรงเยว่ให้นางฟัง ไม่มีผิดพลาดตกหล่นแม้แต่คำเดียว แม้ว่าสมองจะไม่ค่อยดี แต่ความทรงจำของนางกลับดีมาก

ใบหน้าของหยวนชิงหลิงเปลี่ยนเป็นสีดำคล้ำเมื่อได้ยิน ไม่รอให้พูดจบ นางก็ส่ายหน้าแล้วพูดอย่างเข้มงวดว่า "ไม่ได้ นี่เป็นเรื่องที่มีแต่เสียเปรียบจริง ๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าเป็นการเอาหนึ่งชีวิตไปแลกกับอีกหนึ่งชีวิต ถ้าเราใช้แผนนี้ ก็เท่ากับว่าเราต้องสูญเสียถึงสองชีวิตติด ๆ กันในมือของนาง ฮูหยินเหยาก็ไม่รู้วรยุทธ์ด้วย เมื่อไหร่ที่นางตกอยู่ในกำมือของฮูหยินทัง อาจถูกทรมานอย่างรุนแรง นางจะสามารถทนรับความทรมานขนาดนั้นได้รึ? ถ้าไม่สามารถทนรับได้ แต่ต้องไปทำตามแผนการที่คนอื่นอยากให้ทำแบบนี้ ไม่เท่ากับว่าเอาเนื้อไปส่งเข้าปากเสือหรือไร? ไม่ได้เด็ดขาด!"

“ แต่พระชายาหวยบอกว่า ขอแค่ฮูหยินทังจับตัวฮูหยินเหยาไปได้ นางก็สามารถตามแกะรอยไปได้ตลอดทาง ถ้าพวกนั้นเกิดคิดร้ายกับฮูหยินเหยาขึ้นมาจริง ๆ อย่างน้อยพวกเขาก็สามารถช่วยฮูหยินเหยาออกมาได้ทันที”

หยวนชิงหลิงโกรธจนหัวเราะเลยทีเดียว "อะซี่ นี่จะไม่ไปสะกิดให้ศัตรูสนใจรึ? การสะกดรอยตามที่ว่านี้ ต้องตามไปในระยะไกล ๆ ใช่หรือไม่? การจะฆ่าคนน่ะ แค่ยกมีดขึ้นมาแล้วจ้วงลงไปทีเดียว จะช่วยทันได้อย่างไรล่ะ? ต่อให้บินเข้าไปก็ทำได้แค่ไปเก็บศพเท่านั้นแล้ว เรื่องนี้ทำไม่ได้เด็ดขาด ปัดตกความคิดนี้ไปได้เลย”

นางหันหน้าไปเตือนฮูหยินเหยาว่า “เจ้าคงรู้ดีว่าสถานการณ์ของตัวเองเป็นอย่างไร เจ้าไม่รู้วรยุทธ์ ทั้งยังต้องเลี้ยงลูกสาวอีกสองคน เจ้าไม่ควรเข้ามารับความเสี่ยงง่าย ๆ ถ้ามีอะไรผิดพลาดขึ้นมาจริง ๆ ข้าคงไม่มีหนทางอธิบายให้จวิ้นจู่เข้าใจได้หรอกนะ ”

ฮูหยินเหยายิ้ม พลางพูดอย่างหยอกเย้าว่า "ถ้าอย่างนั้น เจ้าช่วยดูแลพวกนางแทนข้าหน่อยจะได้หรือไม่? ตอนนี้พวกนางชอบแค่ท่านน้าเท่านั้น แม้แต่แม่แท้ ๆ ก็ยังไม่อยากได้แล้วล่ะ"

“เจ้าน่ะหุบปากไปเลย!” หยวนชิงหลิงพูดอย่างไม่สบอารมณ์ เดิมทีคิดว่าที่ให้นางมาที่นี่เพราะมีเรื่องสำคัญ คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเรื่องแบบนี้ จากนั้นก็เตือนอย่างเข้มงวดไปอีกประโยคว่า “เรื่องของใต้เท้าทัง ข้าให้ตอเป่าออกไปค้นหาแล้ว เจ้าห้าก็ไปหาหงเย่แล้วด้วย แผนการแนว ๆ นี้หงเย่คุ้นเคยกับมันมากกว่า น่าจะได้พบเบาะแสอะไรจากเขาบ้าง”

ฮูหยินเหยาตกใจจนผงะ “เจ้าห้าเต็มใจไปหาหงเย่เองเลยรึ?”

“ ไม่ใช่ความแค้นที่สั่งสมกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษเสียหน่อย ทำไมจะไปหาไม่ได้ล่ะ? อย่างไรก็ตาม ห้ามทำอะไรที่คิดว่าตัวเองฉลาดเชียวล่ะ” หลังจากหยวนชิงหลิงสาธยายเสร็จ ก็เดินกลับไปด้วยท่าทางดุดัน ดวงตาของเจ้าแฝดยังแดงก่ำอยู่เลย นางต้องไปหยอดยาหยอดตาให้ลูก ๆก่อน

อะซี่ก็พูดด้วยว่า “ในเมื่อไม่อนุญาตให้ทำ อย่างนั้นพวกเราก็ไม่ทำดีกว่า ข้าไปล่ะ”

ฮูหยินเหยากลับเป็นฝ่ายเอื้อมมือออกไปจับแขนนางไว้ แววตาลึกล้ำ “ไม่ พวกเราต้องทำ”

“หา?” อะซี่ตกใจจนผงะ “แต่ตอนนี้พี่หยวนรู้แล้วนะ นางไม่อนุญาต เราทำไม่ได้หรอก”

ฮูหยินเหยาหัวเราะช้า ๆ “อะซี่เด็กโง่ เจ้าไม่รู้จักต่อหน้าแสร้งทำเป็นเชื่อฟัง พอลับหลังกลับต่อต้านเลยรึ? เจ้าฟังสิ่งที่นางพูดสิ ให้ตอเป่าออกไปตามหา ให้เจ้าห้าไปพบหงเย่ นี่มันคือทางออกแบบไหนกัน? ถ้าจะมีหนทางจริง ๆ ไม่สู้ให้พวกเราใช้วิธีนี้ดีกว่า นางเองก็รู้ดีแต่นางแค่ไม่เต็มใจเสี่ยง เพราะกลัวว่าข้าจะตกอยู่ในอันตรายเท่านั้นล่ะ”

หลังจากที่ฮูหยินเหยาพูดจบ ก็รู้สึกว่าขอบตาร้อนผ่าวขึ้นมาเล็กน้อย “ อย่างน้อย ก็ยังมีคนที่ห่วงใยข้าจากใจจริงอยู่บ้างสินะ”

แต่จู่ ๆ ก็มีใบหน้าของคน ๆ หนึ่งผุดขึ้นมาในใจ หัวใจของนางพลันเต้นรัวกระหน่ำ อยู่ ๆ ก็เกิดความรู้สึกที่อยากจะบอกเขาเหลือเกินว่า เรื่องในครั้งนั้น นางไม่เคยนึกเสียใจเลยแม้แต่น้อย!

นางลุกขึ้นยืนทันที “ก่อนจะทำเรื่องนี้ ข้าอยากกลับบ้านของข้าสักครั้ง”

“ถ้าอย่างนั้น ข้าจะไปกับเจ้าเอง” อะซี่ขันอาสา

ตอนนี้ฮูหยินเหยาอยู่ในสายตาของคนอื่นแล้ว นางจึงต้องจับตามองอย่างระมัดระวัง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดลูกไม้ที่เหนือคาด หรือเหตุการณ์แผลง ๆ อะไรขึ้นมาอีก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน