ทังหยางตัวเย็นเฉียบไปหมด ถีบประตูเปิดออกพรวด เห็นนางสัมผัสกำแพงล้มอยู่กับพื้น หน้าผากมีเลือดสดไหลออกมา การกระแทกครั้งนี้นางทำด้วยความคิดที่ต้องตายให้ได้ ไม่เหลือทางรอดให้ตัวเอง
ทังหยางอุ้มนางขึ้น ตะโกนเรียกด้วยความร้อนใจ “หลี่ฉวน หลี่ฉวน”
เลือดฮูหยินทังไหลนองหน้า ยกแขนที่อ่อนแรงขึ้น แต่กลับไม่สามารถสัมผัสใบหน้าเขาได้ ก่อนที่มุมปากจะมีเลือดไหลออกมาได้ปรากฏรอยยิ้มหนึ่ง “ขอโทษ...ตอนนั้นข้า ไม่มีทางอื่นแล้วจึงได้ทำลายบุพเพของเจ้า”
หัวใจทังหยางมีความเศร้าที่พูดไม่ออก “เจ้าอย่าเพิ่งพูด ข้าจะพาเจ้าไปหาพระชายารัชทายาท”
เขาอุ้มนานวิ่งออกไปข้างนอก โซซัดโซเซตะโกนเรียกพระชายารัชทายาทตลอดทางกระทั่งถึงตำหนักเซี่ยวเยว่
พอหยวนชิงหลิงเห็นเขาอุ้มคนที่มีเลือดออกเต็มศีรษะเข้ามาก็ตกใจ พอมองชัดว่าเป็นฮูหยินทังแล้วก็หันไปเอากล่องยามาทันที สั่งให้ทังหยางวางนางไว้ที่เก้าอี้นอนอย่างหนักแน่น
ทังหยางวางนางลง เนื้อตัวเริ่มเหม่อลอย ยืนอยู่ตรงนั้น ภาพที่อยู่ตรงหน้าเป็นรูปแบบสีแดงเลือดสะท้อนเข้าม่านตา
เลือดสดที่ศีรษะห้ามได้แล้ว แต่นางฝืนใช้กำลังภายในกระแทกเข้าไป นอกจากหน้าผากที่มีเลือดออก กะโหลกก็มีเลือดออกรุนแรงเหมือนกัน เลือดออกที่สมองทำให้แรงดันภายในกะโหลดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เลือดจะเริ่มออกมาทางช่องหู ลมหายใจกับการเต้นของหัวใจจะแผ่วเบาลงมาก
หยวนชิงหลิงกู้ชีพไปพักหนึ่ง แล้วเงยหน้าขึ้น ส่ายหน้ากับทังหยางอย่าจนใจ
ทังหยางหาเก้าอี้มานั่งช้าๆ ไม่อาจปรับลมหายใจได้ ประเดี๋ยวเร็ว ประเดี๋ยวกลั้นลมหายใจ สีหน้าขาวซีดหนัก
หยวนชิงหลิงตบบ่าเขาเบาๆ ไม่รู้จะพูดอะไรดี พาคนออกไปให้พวกเขาได้อยู่ด้วยกันตามลำพังครู่หนึ่ง
ริมฝีปากฮูหยินทังขยับเล็กน้อย แต่ไม่ได้พูดไม่ออกสักคำ ได้แต่มองทังหยางอยู่อย่างนั้น น้ำตากลิ้งไหลจากดวงตา ชีวิตนี้ จะเลวจะอนาถก็ถึงตอนท้ายแล้ว กลับผ่อนคลายดั่งยกภูเขาออกจากอก
ทังหยางนั่งอยู่ข้างนาง กุมมือนาง ไม่พูดสักคำ อยู่เป็นเพื่อนนางจนวินาทีสุดท้าย
ครั้นหยู่เหวินเห้ารู้ว่าฮูหยินทังเสียแล้วก็เสียดายนัก กว่านางจะยอมปริปาก เดิมยังถามเรื่องวัตถุดิบยาได้อีก ตอนนี้เรื่องนี้สำคัญอย่างยิ่งยวด
เรื่องงานศพของฮูหยินทัง เป็นทังหยางจัดการให้นางด้วยตนเอง เคลื่อนศพออกบ้านของพวกเขาแล้ว แต่เรื่องเลือกสุสานเขาให้สวีอีช่วย พอสวีอีให้ซินแซดูฮวงจุ้ยเลือกให้แล้วก็ถามเขา “จะให้คนสลักป้าย บนแผ่นป้ายจะเขียนว่าอะไร?”
ทังหยางนิ่งงันอยู่นานแล้วถึงส่ายหน้าเบาๆ “ไม่ต้องตั้งแผ่นป้ายแล้ว”
สวีอีตะลึง ยืนนิ่ง
ทังหยางเงยหน้า “ทำไมล่ะ? ยังมีอะไรอีกหรือ?”
“ข้านึกว่า...เจ้าดูเสียใจขนาดนี้ คงจะตั้งแผ่นป้ายให้นาง” สวีอีก็ไม่ใช่คนที่เก็บคำพูดอยู่ ดังนั้นจึงโพล่งปากออกไป
ดวงตาทังหยางมีอารมณ์คลุมเครือปกคลุมอยู่ ความหนักอึ้งและเจ็บปวดค่อยๆ ทวีขึ้น “ข้าเคยตั้งแผ่นป้ายแล้ว จะไม่ตั้งให้ผู้หญิงอื่นอีก ที่ข้าเสียใจเพราะนางเป็นคนที่ข้ารู้จักมาแต่เด็ก อยู่กับข้ามาหลายปี แต่ถึงหลายปีมานี้เป็นเรื่องจอมปลอม เป็นคำโกหก แต่นางก็เป็นคนที่เคยอยู่ข้างกายข้าจริงๆ มีเพียงเท่านี้”
สวีอีฟังจนเหงื่อตก อะไรคือตั้งแผ่นป้ายแล้วจะไม่ตั้งให้หญิงอื่นอีก? และมิตรภาพอะไรเป็นสิ่งจอมปลอม? สวีอีคิดแล้วก็ไม่เข้าใจ ช่างเถอะ เขาบอกไม่ตั้งแผ่นป้ายก็ไม่ตั้ง ผู้หญิงคนนี้ก็ทำจนพวกเขาแย่กันหมด หลายปีมานี้ก็ไม่รู้ว่าปล่อยข่าวออกไปมากน้อยแค่ไหนแล้ว แถมนางยังจับใต้เท้าทังไป ทำจนใต้เท้าทังซึมกะทือ ขืนยังตั้งแผ่นป้ายให้นางอีก มิต้องคิดว่าจวนอ๋องรังแกง่ายอย่างนั้นหรือ?
เมื่อจัดการงานศพของฮูหยินทังเสร็จ ในเมืองหลวงก็เริ่มเป็นหวัดกันหนักจริงๆ ในจวนอ๋องฉู่ก็มีหลายคนที่ไม่สบาย โดยเฉพาะอะซี่ สองสามวันนี้เอาแต่ไอ แถมยังตัวร้อนด้วย หยวนชิงหลิงตรวจอาการนางแล้ว ไม่เหมือนกับไข้หวัดธรรมดา สงสัยว่าจะเป็นไข้หวัดใหญ่
หมอที่นี่ไม่แยกระหว่างไข้หวัดใหญ่กับไข้หวัดธรรมดา ในความเข้าใจของหยวนชิงหลิง ไข้หวัดหมายถึงหวัดธรรมดา ความเป็นเอกเทศค่อนข้างน้อย การแพร่กระจายไม่มาก คนที่ภูมิคุ้มกันดีต่อให้ไม่กินยาก็หายเองได้
แต่ไข้หวัดใหญ่เป็นการแพร่เชื้อของไวรัส ทั้งยังเปลี่ยนแปลงได้ง่าย จะแพร่กระจายเป็นบริเวณกว้าง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...