อ๋องฉีมองเขาอย่างขมขื่นเล็กน้อย “ท่านพี่ห้า ผ่านมาหลายราชวงศ์แล้ว แต่จะมีใครที่เหมือนกับเสด็จอาได้อีก ที่จะได้รับความสำคัญจากเสด็จพ่อ?”
หยู่เหวินเห้าเส้นเลือดแทบปูดขึ้นหัว “เจ้าเจ็ดเจ้าพูดให้ชัดเจน”
อ๋องฉีตกใจเพราะความโกรธของเขา พลางพูดขึ้น “ข้าแค่พูดไปก็เท่านั้น”
“เรื่องแบบนี้มันพูดออกมาพล่อยๆ ได้เหรอ?มีใครบอกเจ้าใช่ไหม?” หยู่เหวินเห้าจ้องพลางถามเขา
“เปล่า!” อ๋องฉีโบกไม้โบกมือ ก่อนจะ ทำเหมือนมีอะไรจะพูดแต่ก็เงียบไป แล้วก็ยืนขึ้นแทน “ถือเสียว่าข้าพูดอะไรบ้าๆ ออกไป ท่านพี่ห้าอย่าสนใจเลย ข้าไปก่อนล่ะ”
หยู่เหวินเห้าตบโต๊ะ ก่อนจะพูดด้วยความโกรธ “เจ้าพูดให้รู้เรื่องก่อนค่อยไป”
อ๋องฉีหยุดไปสักพัก ก่อนจะเงยหน้ามองเขาทันใด และหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะพูด “ก็เป็นแบบนี้แหละ เจ้าเจ็ดหรือยัง?ตอนนี้เจ้าเป็นถึงรัชทายาทสูงส่ง หลังจากที่ปกครองแทนเสด็จพ่อ เจ้าก็ไม่เหมือนกับเมื่อก่อนแล้ว เจ้าไม่มีทางพูดกับข้าแบบนี้ได้แล้ว พูดอะไรก็เหมือนจะเป็นคำสั่งไปหมด ไม่ว่าจะเป็นในกรมการพระนคร หรือว่าในจวนส่วนพระองค์ เจ้าก็เป็นเจ้าผู้สูงส่ง ข้าเป็นเพียงข้าราชบริพาร ข้าไม่รู้ว่าจะพูดจนเจ้าไม่พอใจเข้าเมื่อไหร่ ถึงกับต้องสะอึกไปเพราะเจ้า แล้วจะพูดกับเจ้าแบบเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว ขนาดท่านพี่รองว่าเจ้าแบบนี้ บอกว่าตอนนี้เจ้าเย่อหยิ่งเป็นอย่างมาก พูดอะไรเรื่อยเปื่อยนิดหน่อยก็ไม่ได้ พูดอะไรจบแล้วก็ไป ไม่ดื่มชาสักแก้วเดียว ครั้งก่อนที่เจ้าไปหาท่านพี่รอง ท่านพี่รองอยากจะกินข้าวกับเจ้าก่อน แต่เมื่อท่านพี่รองพูดออกไป เจ้ากลับบอกท่านพี่รองว่านี่มันกี่โมงแล้วยังจะกินข้าวอะไรอีก?เจ้ารังเกียจท่านพี่รองงั้นเหรอ?เจ้ายังไม่ได้เป็นจักรพรรดิเลยด้วยซ้ำ”
เมื่อเขาพูดจบ เสียงก็กระอักกระอ่วน จากนั้นก็เดินจากไป
หยู่เหวินเห้าอึ้งไปนาน ก่อนจะมองไปทางที่อ๋องฉีเดินออก ในใจก็เริ่มมีความโศกไร้เรี่ยวแรง เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะวางมาดต่อหน้าพวกเขาแบบนี้ ขนาดที่ไปหาท่านพี่รองครั้งนั้น เขาก็คิดไม่ค่อยออกแล้ว ว่ามันคือเมื่อไหร่กัน?
หยวนชิงหลิงเดินเข้ามา เมื่อครู่ตอนที่อ๋องฉีระเบิดอารมณ์ใส่เขานั้น นางอยู่ด้านนอกพอดี เลยได้ยินทุกอย่าง ตอนแรกอยากจะมาหยุดอ๋องฉีไว้ แต่เขาเดินพรวดออกไป นางเลยไม่ได้ขวางไว้
“ยายหยวน!” หยู่เหวินเห้าชายตามอง ในแววตาก็มีความจนปัญญาอยู่ “ข้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ เหรอ?”
หยวนชิงหลิงมองเขา ก่อนจะรู้สึกสงสารจับใจ “ไม่ เจ้าแค่ยุ่งเท่านั้นเอง เลยต้องรีบจัดการงานให้เสร็จ ดังนั้นเจ้าเลยมีความวิตกกังวล บวกกับใบหน้าตึงเครียดคนอื่นเลยคิดว่าเจ้าเข้มงวด และไม่สนใจอะไร เดี๋ยวข้าจะไปอธิบายกับท่านพี่รองเอง”
หยู่เหวินเห้าค่อยๆ คิดขึ้นได้ ก่อนจะพูด “ที่ครั้งก่อนข้ามีปัญหากับท่านพี่รอง น่าจะเป็นเพราะเรื่องของวัดฮู่กว๋อ ความรับผิดชอบของศาสหงหรูนั้นเป็นความดูแลวัดในเมืองโดยเฉพาะ วัดฮู่กว๋อที่เป็นวัดของราชวงศ์ในตอนแรก ก่อนฮุ่ยทงจะมารายงานว่าจะเปิดสู่โลกภายนอก เขาดันตอบตกลง ข้าเลยไปหาเขาเพื่อเรื่องนี้ ตอนนั้นข้าโมโหจริงๆ พูดอะไรหุนหันไปหน่อย ข้าคิดไม่ถึงว่าท่านพี่รองจะใส่ใจด้วย”
“ท่านพี่รองจะต้องเข้าใจแน่” หยวนชิงหลิงไม่รู้จะปลอบเขาอย่างไร เพราะเรื่องนี้ ท่านพี่รองทำผิดไป หรือว่าต้องปลอบเขาจนหายงั้นเหรอ?แม้เจ้าห้าจะเป็นน้อง แต่ก็เป็นเจียนกั๋วไท่จื่อ การไปหาเขาอย่างส่วนตัวนั้นถือว่าไว้หน้ามากแล้ว ทำไมเขาต้องโกรธเจ้าห้าด้วยนะ?
หยวนชิงหลิงคิดแบบนี้ แต่กลับคิดว่ามันแปลก ท่านพี่รองนั้นไม่ได้ใจแคบขนาดนั้น ทำไมถึงต้องพูดให้ร้ายเจ้าห้ากับเจ้าเจ็ด เพียงเพราะเรื่องเล็กๆ เท่านี้?
มันไม่ปกติเท่าไหร่แล้ว
นางคิดว่าพรุ่งนี้ต้องไปหาพระชายาซุนหน่อยว่าช่วงนี้ท่านพี่รองสนิทสนมกับใครเป็นพิเศษหรือเปล่า แน่นอน ว่าต้องไปถามหยวนหย่งอี้ด้วย
หยู่เหวินเห้ายิ้มให้นางเบาๆ “ข้าไม่เป็นไร ท่านไม่ต้องเป็นห่วงไป”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...