บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1137

เดิมคิดว่าอ๋องอานสองสามีภรรยาจะไปจากเมืองหลวงแบบนี้แล้ว กลับคิดไม่ถึงว่าเมื่อถึงตอนกลางคืน หยวนชิงหลิงสองสามีภรรยาต่างนอนลงแล้ว กลับได้ยินว่าอ๋องอานมา

หยวนชิงหลิงประหลาดใจ ตอนนี้ก็ใกล้เที่ยงคืนแล้ว อ๋องอานยังไม่ไปหรือ? พระชายาอานไปแต่เช้าแล้วนะ

“หรือว่าเกิดเรื่องขึ้นแล้ว?” หยวนชิงหลิงพูดขึ้น

หยู่เหวินเห้าลุกขึ้นมาสวมเสื้อผ้า พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าไปพบเขา เจ้านอนเถอะ”

“ได้” หยวนชิงหลิงตอบรับ

สวีอีกลับไปนอนแล้ว ดังนั้นหยู่เหวินเห้าจึงถือโคมไฟออกมาด้วยตนเอง คนเฝ้าประตูได้เชิญอ๋องอานเข้ามาแล้ว

อ๋องอานไม่ได้มาคนเดียว ยังพาผู้ติดตามมาด้วยหนึ่งคน ยังเป็นผู้ติดตามที่หยู่เหวินเห้าไม่เคยเห็นมาก่อน ดูแปลกหน้าอย่างมาก เขายืนอยู่ด้านข้างอ๋องอาน ท่าทางนอบน้อม แต่หยู่เหวินเห้ากลับรู้สึกว่าไม่ธรรมดา

เป็นยอดฝีมือคนหนึ่ง ฟังจากเสียงลมหายใจก็รู้แล้ว ต่อให้ปิดซ่อนไว้อย่างลึกล้ำ

ท่าทีอ๋องอานค่อนข้างเหม่อลอย นั่งอยู่บนเก้าอี้ ริมฝีปากสั่นเทาเล็กน้อย นั่งยืดหลังตรง มึงทั้งคู่วางบนที่วางมือ ยังคงมีท่าทีเคร่งขรึม แต่หยู่เหวินเห้ามองก็รู้ว่าเขาผิดปกติ

“พี่สี่ไปจากเมืองหลวงวันนี้ไม่ใช่หรือ?” หลังจากหยู่เหวินเห้าเข้าไปแล้ว ก็ถามขึ้นก่อน

อ๋องอานมองดูเขา สายตาที่สว่างไสวดับลง แต่น้ำเสียงที่พูดออกมากลับเยือกเย็น ว่า “หยู่เหวินเห้า เจ้าอยากที่จะให้ข้าจากไปมาก ใช่ไหม?”

หยู่เหวินเห้าหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าไปหรือไม่ไป ไม่ส่งผลกระทบอะไรกับข้าเลยแม้เพียงนิด”

“คืนนี้ข้าตั้งใจที่จะมาบอกเจ้า ข้าจะไม่จากไป ไม่เพียงไม่จากไป ยังจะแย่งชิงกับเจ้าด้วย” อ๋องอานพูดขึ้นด้วยเสียงเย็นชา

หยู่เหวินเห้ามองดูเขา สายตาฉายแววสงสัย พร้อมพูดขึ้นว่า “แย่งชิง? แย่งชิงอะไร? ตำแหน่งองค์ชายรัชทายาทหรือ? ข้าเป็นองค์ชายรัชทายาทแล้ว”

“เกรงว่าจะได้เป็นอย่างไม่มั่นคง” อ๋องอานพูดเยาะเย้ย สายตาจ้องมองดูเขาเหมือนดั่งไฟ พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้ายังจำครั้งแรกตอนที่เจ้าไปสู้รบไหม ข้าเคยพูดอะไรกับเจ้า?”

หยู่เหวินเห้าจำไม่ได้ ครั้งแรกที่ไปสู้รบนั้น เขาตื่นเต้นมาก มีคนพูดกับเขามากมาย แต่ล้วนเป็นคำพูดให้กำลังใจ พูดคล้ายๆกัน จึงจำไม่ได้ว่าเขาเคยพูดอะไร

อ๋องอานพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “ข้าเคยพูดว่า เจ้าเป็นเศษสวะ เจ้าขี้ขลาดตาขาว เจ้าไร้ความสามารถ วันนี้เวลานี้ ต่อให้เจ้าเป็นถึงองค์ชายรัชทายาท แต่ข้าก็ยังคิดกับเจ้าเช่นนี้” เขาลุกขึ้นมา จ้องมองหยู่เหวินเห้า พูดออกมาทีละคำทีละประโยคว่า “เจ้าเป็นเศษสวะ เจ้าขี้ขลาดตาขาว เจ้าไร้ความสามารถ”

หยู่เหวินเห้าจ้องมองดูเขาสักพัก สายตาก็ประกายความโกรธ พร้อมพูดขึ้นว่า “ใช่หรือ? แต่ตอนนี้เวลานี้ ใครขี้ขลาดตาขาวไร้ความสามารถ? เจ้าไม่รู้ดีแก่ใจหรือ? เจ้าคิดว่าการบริจาคยาแล้วจะได้ความชื่นชมจริงหรือ? ได้ใจประชาชนหรือ?”

“อย่างน้อย ในใจประชาชนตอนนี้ ข้าเหมาะสมที่จะเป็นองค์ชายรัชทายาทมากกว่า” ”อ๋องอานพูดขึ้นอย่างเย็นชา

หยู่เหวินเห้าหัวเราะขึ้นมา ท่าที่เต็มไปด้วยความดูถูก พร้อมพูดขึ้นว่า “ดี งั้นเจ้าก็ไปทำเถอะ”

อ๋องอานลุกพรวดขึ้นมาในทันใด พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้ารอดูละกัน”

พูดเสร็จ แล้วเขาก็หันไปพูดกับผู้ติดตามว่า “เราไปกันเถอะ”

ผู้ติดตามของเขาคนนั้นดูไม่กล้ามีปากเสียง เดินตามเขาไป หยู่เหวินเห้าจ้องมองดูฝีเท้าของเขา ถึงแม้เขาจะปกปิดไว้อย่างดีที่สุด แต่ก็มองเห็นได้จากฝีเท้าที่เบาและส้นเท้าแทบไม่เตะฝุ่นที่เดินตามออกไป สามารถดูว่าคนคนนี้ไม่ใช่มีฝีมือสูงส่งเท่านั้น ยังมีวิชาตัวเบาที่สูงส่ง

เขาพูดสั่งขึ้นด้วยเสียงเข้ม เรียกคนเข้ามา พร้อมพูดขึ้นว่า “ไปปลุกสวีอีตื่นขึ้นมา ให้เขารีบมาด่วนที่สุด”

สวีอีเพิ่งจะนอนลง ได้ยินว่าองค์ชายรัชทายาทเรียกเขา กระโดดดิ้นขึ้นมาจากเตียงเหมือนดั่งปลา รีบใส่เสื้อผ้าโดยเร็วแล้วก็ออกไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน