ทั้งสองคนพูดคุยกันในห้องอยู่เป็นเวลานาน จึงได้ยินเสียงลูกๆดังขึ้น หยู่เหวินเห้าอมยิ้มและพูดว่า “พวกเขาตื่นแล้ว”
เขายืนขึ้นมา จูงมือหยวนชิงหลิงเดินออกไปพร้อมกัน
เห็นท่านพ่อมา พวกลูกๆต่างก็ดีใจมาก พวกลูกๆโถมตัวเข้ามากอดเขาเอาไว้ ปากก็ร้องเรียกท่านพ่อ ได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นเช่นนี้ หยู่เหวินเห้าไม่อยากจะเชื่อจริงๆว่าตัวเองจะได้รับการต้อนรับถึงเพียงนี้
หยวนชิงหลิงยิ้มและเฉลยว่า “พวกเขาเล่นอยู่ในนี้มาหลายวันแล้ว เบื่อกันแล้ว คงคิดว่าท่านจะมาพาพวกเขากลับไปแน่ ”
หยู่เหวินเห้าอุ้มข้าวเหนียวน้อยขึ้นมา “อีกไม่กี่วัน อีกไม่กี่วันพ่อจะมารับพวกเจ้ากลับบ้าน ”
ทั้งสามต่างก็รู้สึกผิดหวัง เดิมคิดว่าจะได้กลับบ้านแล้ว อยากจะออกไปเที่ยวมาก แต่ว่าท่านแม่บอกว่าไม่อนุญาตให้ออกไป
ข้าวเหนียวน้อยถามขึ้นว่า “กี่วัน”
“สี่ห้าวันกระมัง”หยู่เหวินเห้าพูดยิ้มๆ
“ท่านพ่ออย่าโกหกนะ ”ข้าวเหนียวน้อยเอานิ้วมือขึ้นมานับ“หนึ่งสองสามสี่ เช่นนั้นก็เร็วมาก”
ทังหยวนกับเปาจื่อต่างก็ขอร้องให้อุ้ม วันนี้หยู่เหวินเห้านั้นต้องตอบสนองทุกการวิงวอน ไม่เพียงแต่อุ้มพวกเขา ยังเล่นกับพวกเขาอยู่ครู่ใหญ่ ให้รำกระบี่ก็รำกระบี่ ให้เตะลูกบอลก็เตะลูกบอล ให้เล่นซ่อนแอบก็เล่นซ่อนแอบ
เล่นกันอย่างสนุกสนานเพลิดเพลินจนลืมตัวไปชั่วขณะ เปาจื่อถึงกับให้หยู่เหวินเห้าคลานกับพื้นเป็นม้าให้เขาได้ขี่ หยู่เหวินเห้าคว้าตัวเขามาฟาดลงไปที่ก้นสองที สีหน้าเปลี่ยนไปพร้อมกับตวาดเสียงหนึ่ง “บังอาจ”
เปาจื่อตกใจ ได้ยินเสียงดุราวกับฟ้าผ่าขึ้นมาอย่างกะทันหัน รู้สึกอายแต่ก็ไม่กล้าร้องไห้ แต่กลับไม่รู้ว่าจะรับมืออย่างไรอยู่บ้าง พยายามแสดงออกว่าไม่เป็นไรและมองไปทางหยวนชิงหลิง ยังฉีกปากยิ้มกว้าง แต่ในดวงตากลับแดงก่ำขึ้นมาทันที
น้ำตารื้นอยู่เต็มดวงตา ลักษณะเช่นนั้น เป็นความน่าสงสารและน้อยใจที่พูดไม่ออก
เปาจื่อไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน แม้ว่าก่อนหน้านี้จะเคยมีเวลาที่มีความสุขสุดขีดจนนำไปสู่ความทุกข์มาแล้ว แต่เขาไม่ร้องไห้ งอแงทุบตีไม่กี่เสียง ก็กลับมามีชีวิตชีวาได้อีกครั้งแล้ว
หยู่เหวินเห้าเห็นท่าทีของเขา ก็รู้สึกเสียใจขึ้นมา เดินเข้าไปอยากจะลูบที่หน้าผากของเขา เปาจื่อถอยหลังไปหนึ่งก้าว พยายามยิ้มออกมา “ข้าจะไปเล่นกันหมาป่าหิมะ”
ตอนที่เขาหมุนตัวไปได้ร้องไห้ออกมา ร้องไห้ตลอดทางที่วิ่งออกไป
หยู่เหวินเห้ามองเขาอย่างนิ่งอึ้ง ทันใดนั้นก็รู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจขึ้นมา อดไม่ได้ที่จะตบหน้าตัวเองสักหนึ่งที เอ่ยอย่างหงุดหงิดโมโหว่า “ข้า นี่ข้าเป็นอะไรไป”
หยวนชิงหลิงมองเขาอย่างสงสารเจ็บปวดใจ พูดเบาๆว่า “ไม่เป็นไร ข้าจะไปดูเขาสักหน่อย ท่านเล่นกับทังหยวนและข้าวเหนียวหน่อยก่อน ข้าจะรีบกลับมา ”
นางพูดจบ ก็วิ่งไล่ตามไป ขวางเปาจื่อเอาไว้ที่ลานด้านหน้า ยื่นมือออกจะไปอุ้มเขา
เปาจื่อถอยหลังเช็ดน้ำตา ยืนขึ้นอย่างดื้อรั้น ไม่ยอมให้หยวนชิงหลิงอุ้มเขา
“เปาจื่อเด็กดี ”หยวนชิงหลิงนั่งลง จูงมือน้อยๆของเขาเอาไว้ “แม่ขอโทษแทนพ่อของเจ้า เจ้าให้อภัยท่านพ่อ ได้หรือไม่”
เปาจื่อไม่คุ้นเคยกับการเผยให้เห็นสีหน้าที่กำลังร้องไห้ พยายามเช็ดดวงตาอย่างเต็มที่ “ข้าไม่ได้ถือสาท่านพ่อเสียหน่อย ข้าไม่ได้โกรธด้วย เป็นท่านพ่อที่โกรธข้า”
หยวนชิงหลิงจูงมือของเขาเดินไปนั่งลงในศาลา เอาผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดหน้าให้เขา ใบหน้าเล็กหล่อเหลานี้ แดงก่ำไปหมด น้ำตายังคงเกาะอยู่บนขนตาที่งอนยาวดำขลับ นางรู้สึกสงสารจับใจ
ลูกถูกตี พ่อแม่ย่อมรู้สึกสงสารและปวดใจที่สุด
นางพูดเบาๆว่า “ครั้งนี้ท่านพ่อทำผิดไปแล้ว เขาไม่ควรตีเจ้า ประเดี๋ยวแม่จะให้เขาขอโทษเจ้าด้วยตนเอง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...