บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1171

เก็บของแล้วกลับเมืองหลวง

เมืองหลวงค่อยๆ กลับสู่ความปกติ อ๋องฉีเข้ารับตำแหน่งเจ้ากรมการพระนครอย่างเป็นทางการ ส่วนเจ้าหกอ๋องหวยก็ไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเช่นกัน เข้ารับตำแหน่งแทนที่เจ้าเจ็ด เป็นผู้ช่วยเจ้ากรมการพระนคร

ก่อนที่หงเล่จะก่อจลาจล ราชสำนักก็ทำการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่แล้ว สนับสนุนคนใหม่ที่มีอุดมการณ์ หยู่เหวินเห้าเชื่อว่าคนใหม่ที่สนับสนุนจะนำภาพชีวิตชีวามาให้เป่ยถัง

ส่วนเขาเมื่อออกจากกรมการพระนครแล้ว ราชสำนักเล็กในตำหนักบูรพาก็ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ เขายังคงรับตำแหน่งเลขานุการกรมทหาร ควบคุมอำนาจทหารเหมือนเดิม

ชายแดนมีฎีกาส่งมา เป่ยโม่กำลังซ่องสุม แต่เป่ยถังเตรียมตัวพร้อมแล้ว หากเป่ยโม่กล้ารุกล้ำชายแดนก็จะโจมตีหนักกับพวกเขา

ช่วงก่อนหยู่เหวินเห้าจึงส่งสารไปถึงต้าโจว แม่ทัพเฉินจิ้งถิงของต้าโจวนำรถรบจำนวนหนึ่งมุ่งมาที่ชายแดนส่งมอบให้อ๋องเว่ยด้วยตนเอง

ขณะเดียวกันแม่ทัพใหญ่ฮู่ก็รีบไปทางหนานเจียง ช่วยอ๋องชุนกับอ๋องหนานเจียงสยบความวุ่นวายภายใน การรวมหนานเจียงเป็นหนึ่งก็ใกล้สำเร็จในอีกไม่ช้าแล้ว

หลังจากอ๋องอานบาดเจ็บก็ขอราชโองการออกจากเมืองหลวง ก่อนจากพระชายาอานได้จัดงานเลี้ยงในจวน เชิญทุกคนมาร่วม ความโศกเศร้าที่ลาจากย่อมขาดไม่ได้ แต่ดีที่สภาพจิตใจยังเป็นปกติ ดังนั้นจึงจากกันแบบที่วันหน้าค่อยพบกันใหม่

จิ้งเหอจวิ้นจู่ไม่ได้จากไป และก็ไม่ได้พักที่ตระกูลชุยด้วย แต่ซื้อบ้านอีกหลังหนึ่ง ซื้อสาวใช้สองคน พักอยู่ตามลำพัง

ในวังมีข่าวแพร่ออกมาว่าฮู่เฟยตั้งครรภ์

ฮ่องเต้หมิงหยวนดีใจอย่างมาก ก่อนหน้านี้มักคิดว่าเจ้าสิบเป็นลูกคนสุดท้ายแล้ว คิดไม่ถึงว่าฮู่เฟยจะมีให้เขาอีกคน

ฮ่องเต้หมิงหยวนตื่นเต้นกับครรภ์นี้ของฮู่เฟยมาก ให้หยวนชิงหลิงผู้เป็นสะใภ้หากมีเวลาว่างก็เข้าวังมาเยี่ยมเยียนฮู่เฟย

หยวนชิงหลิงทำตามที่สั่งอยู่แล้ว อย่างไรก็เป็นเรื่องน่ายินดี

ครรภ์ของฮู่เฟยอยู่ตัวดี หมอหลวงบอกว่าอาจเป็นโอรสอีก ฮู่เฟยหดหู่ใจมาก นางบอกหยวนชิงหลิงว่านางอยากได้ลูกสาว เพราะลูกสาวรู้ใจ เห็นลูกสาวของพระชายาฉีกับพระชายาอานแล้วก็อิจฉาเหลือเกิน

หยวนชิงหลิงหัวเราะพลางเอ่ย “นี่เป็นเรื่องที่ฝืนกันไม่ได้เพคะ สวรรค์ประทานวาสนามา ลูกชายก็ดี ลูกสาวก็ช่าง ยังไงก็เป็นลูกของตัวเองนะเพคะ”

ฮู่เฟยคิดแล้วก็เห็นด้วย แต่อย่างไรก็หวังให้เป็นลูกสาว ถึงขนาดว่าแขวนภาพหญิงสาวไว้ในห้อง บอกว่าแบบนี้จะได้ผล

สนทนากับฮู่เฟยไปพักหนึ่งก็ได้ยินคนในตำหนักหวงกุ้ยเฟยมาส่งข่าว บอกว่าระยะนี้หวงกุ้ยเฟยไม่ค่อยสบาย เวียนศีรษะบ่อยๆ ขอให้พระชายารัชทายาทไปดูสักหน่อย

สุขภาพหวงกุ้ยเฟยไม่ค่อยดีมาหลายปีแล้ว สองสามปีนี้กินยาที่หยวนชิงหลิงจ่ายให้ถึงดีขึ้น ตอนนี้เป็นช่วงผลัดเปลี่ยนฤดูใบไม้ร่วง พอไม่ทันระวังก็ป่วยง่าย

ดังนั้นหยวนชิงหลิงจึงไปสักหน่อย หวงกุ้ยเฟยป่วยนอนซมอยู่บนเก้าอี้กุ้ยเฟย หน้านิ่วคิ้วขมวด พอเห็นหยวนชิงหลิงก็ฝืนตัวลุกขึ้นนั่ง “มาแล้วหรือ? ไม่ต้องมากพิธี”

พอหยวนชิงหลิงเห็นสีหน้านางแปลกๆ จึงยื่นมือออกไปอังที่หน้าผากนาง ไม่มีไข้ ทั้งยังเย็นอยู่หน่อย จึงถาม “ทำไมจู่ๆ ก็ประชวรล่ะเพคะ? เริ่มเวียนศีรษะตั้งแต่เมื่อไร? แล้วนอกจากเวียนศีรษะแล้วยังมีอาการอื่นอีกไหมเพคะ?”

หวงกุ้ยเฟยถอนหายใจ “เพิ่งเริ่มเวียนหัวเมื่อสองสามวันมานี้ ก่อนหน้านี้ตะกละไปหน่อย กินต้มถั่วเขียวมากไปสองชาม คืนวันนั้นก็ท้องเสีย วิ่งเข้าห้องน้ำไปหลายรอบ เช้าอีกวันพอตื่นก็อาเจียนไปสองครั้ง กินไม่ค่อยลง ตอนนี้ยังคลื่นไส้หนักอยู่เลย”

“อากาศเช่นนี้เสวยซุปของหวานได้ยังไงเพคะ? ถั่วเขียวมีฤทธิ์เย็น บอกท่านแล้วว่าอย่าเสวยมาก” แม่นมเฟิงพูดอยู่ข้างๆ นาง สองสามวันนี้แม่นมเฟิงเป็นห่วงมาก นางมองหยวนชิงหลิงพลางเอ่ย “พระชายารัชทายาทเพคะ ท่านต้องตักเตือนท่านหญิงหน่อย ตอนนี้เพิ่งจะดีขึ้นหน่อย ไม่ทรงเห็นความสำคัญของร่างกายตัวเองเลย”

หวงกุ้ยเฟยรู้ตัวว่าสู้ด้วยเหตุผลไม่ได้ จึงหัวเราะพลางเอ่ย “เอาเถอะ ข้ารู้แล้ว ต่อไปจะจำไว้”

หยวนชิงหลิงเอ่ยถาม “เชิญหมอหลวงมาแล้วหรือ?”

“หมอหลวงหวูกลับบ้านเกิด นี่ไง ได้ยินว่าท่านอยู่ กุ้ยเฟยจึงอยากเชิญท่านมาให้ได้” แม่นมเฟิงกล่าว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน