บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1190

หมู่นี้อะซี่เจริญอาหารเป็นอย่างมาก หลังจากผ่านช่วงเวลาแพ้ท้องแล้ว ก็อ้วนขึ้นในบัดดล นางรู้สึกหิวทั้งวัน หินจนทนไม่ได้ ก่อนหน้านี้ไม่ชอบกินผัก ตอนนี้ยัดเข้าปากลูกเดียว โดยเฉพาะชอบกินเนื้อติดมันเป็นอย่างมาก หนึ่งชิ้นหนึ่งคำ เหมือนกินขนมเช่นนั้น ทำให้สวีอีรู้สึกเป็นห่วงจนแทบไม่ไหว ปริมาณการกินอาหารทำให้คนตกใจจริงๆ กลัวว่าจะกินจนป่วยขึ้นมา

ไม่มีทางเลือก ขอความช่วยเหลือจากหยวนชิงหลิงที่อยู่ข้างกาย หยวนชิงหลิงก็กำหนดรายการอาหารให้อะซี่ ให้นางกินอาหารตามรายการอาหารอย่างเคร่งครัด วันละห้ามื้อ แต่ทุกมื้อก็ไม่อนุญาตให้นางกินจนจุก

อะซี่ร้องทุกข์คร่ำครวญทุกวัน ระบายอารมณ์กับหยวนชิงหลิงไม่ได้ ทำได้เพียงระบายอารมณ์กับสวีอี บอกว่าเขาปากสว่างไปพูดจาไร้สาระกับพี่หยวน ทำจนนางแม้แต่จะกินให้อิ่มก็กินไม่ได้

สวีอีล้วนรับไว้ ปล่อยให้นางดุด่าทุบตี ซื้อขนมมาเล็กน้อย ให้นางกินสักสองสามคำเวลาหิว

ตรงกันข้ามกับอะซี่คือหรงเยว่ หมู่นี้หรงเยว่ไม่อยากกินอาหาร อะไรก็ล้วนไม่ชอบกิน อ่อนล้าอยากนอนทั้งวัน

ตั้งแต่ที่นางล้มเลิกการตั้งครรภ์แล้ว จึงได้สั่งให้หมอในจวนเหล่านั้นออกไป นางก็ไม่ไปหาหมอแล้ว สองสามปีนั้นที่รีบร้อนจะตั้งครรภ์ นางกินยาขมมากมายมากมายนัก ตอนนี้นึกถึงกลิ่นนั้นขึ้นมาก็อยากจะอ้วก ด้วยเหตุนี้ อ๋องหวยบอกว่าต้องการไปหาหมอมาตรวจให้นาง นางก็ไม่ยินยอม คิดว่าน่าจะเป็นเพราะก่อนหน้านี้ตัวเองยุ่งอยู่กับงาน เหนื่อยเกินไป พักผ่อนแล้วก็ไม่เป็นไร

ในใจของนางอดเศร้าโศกไม่ได้ เมื่อก่อนนางมีกำลังวังชาเต็มเปี่ยมมาก อย่าว่าแต่ยุ่งกับงานระยะหนึ่งเลย ขนาดไม่ได้นอนสามวันสามคืน วันรุ่งขึ้นก็ยังคงกระปรี้กระเปร่าเหมือนเดิม นางแก่แล้วจริงๆหรือ?

หญิงชราล้วนไม่สามารถอดนอนได้

ฝืนมองดูใบหน้าอันซีดเซียวของตัวเองในกระจก ยิ่งเห็นยิ่งไม่สบอารมณ์ตัวเองมากขึ้น หันกลับไปมองดูอ๋องหวย “ข้าแก่แล้ว ไม่น่ามองแล้ว ท่านยังจะรักข้าอีกหรือไม่?”

วันนี้อ๋องหวยที่พักผ่อนแล้วหยิบเสื้อผ้าชิ้นหนึ่งมาคลุมให้นาง กล่าวด้วยความรักความลุ่มหลงว่า “ไม่ว่าเจ้าจะเปลี่ยนเป็นอย่างไร เพียงแค่เจ้ายังเป็นหรงเยว่ ข้าก็รัก อย่าคิดฟุ้งซ่าน วันนี้ไปเดินเล่นที่พี่ห้าทางนั่นเป็นเพื่อนเจ้า ผ่อนคลายจิตใจ เจ้านอนมาหลายวันแล้ว อย่ากลัดกลุ้มจนป่วยขึ้นมาจริงๆเชียว”

หรงเยว่ส่ายหน้า “ไม่ไป ท่านอย่าคิดว่าข้าจะไม่รู้ว่าท่านคิดจะทําอะไร เพราะอยากให้พระชายารัชทายาทตรวจดูอาการให้ข้า ตอนนี้ข้าไม่ไปหาหมอแล้วเพคะ”

อ๋องหวยจับมือของนาง หัวคิ้วเป็นความกังวลอย่างจริงจัง “อย่าทำให้ข้าเป็นห่วงได้หรือไม่? ไปให้พี่สะใภ้ห้าตรวจดู อีกทั้งยาของพี่สะใภ้ห้าไม่ขม เหมือนลูกอมเช่นนั้น”

หรงเยว่ไม่ค่อยอยากไปนัก อะซี่มักจะแบกท้องใหญ่ๆเดินไปเดินมาอยู่ตลอด แม้ว่าท้องนั่นจะไม่สอดคล้องกับเดือน แต่ท่าทางการเดินเท้าสะเอวของนางก็ยังทิ่มแทงดวงตาของนางให้เจ็บปวด

แต่เห็นเขาเป็นห่วงจริงๆ นางก็ทำได้เพียงแอบซ่อนการตำหนิเล็กๆน้อยๆที่มีต่ออะซี่ เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกจากบ้านไปพร้อมกันกับเขา

โดยปกติแล้วนางออกจากบ้านล้วนจะขี่ม้า นั่งรถม้าน้อยมาก ตอนนี้นั่งบนรถม้า โยกจนข้าวต้มที่นางกินไปในตอนเช้าวันนี้แทบจะอาเจียนออกมาแล้ว นางถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “คนอื่นอยากอาเจียนก็เพราะว่าตั้งครรภ์ ข้าอยากอาเจียนเพราะเมารถม้า หรงเยว่เอ๊ยหรงเยว่ เจ้าจริงๆ......”

นางสบถคำหยาบออกมาในใจประโยคหนึ่ง

อ๋องหวยหัวเราะแล้วกล่าว “ไม่ใช่พูดกันไว้ดีแล้วหรือว่าต่อจากนี้จะไม่เอ่ยถึงเหล่านี้อีก? ทำไมถึงได้เอ่ยขึ้นมาอีก? เอ่ยถึงแล้วตัวเจ้าเองก็เป็นทุกข์ใจ จะทำทำไมล่ะ?”

สาวใช้ที่อยู่ด้านนอกเปิดม่านขึ้น กล่าวด้วยความปีติเป็นอย่างยิ่งว่าบางทีท่านก็อาจเป็นเพราะตั้งครรภ์ก็ได้ แต่พอนึกถึงความปีติยินดีในความว่างเปล่าไม่กี่ครั้งที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ ก็กลั้นปากเอาไว้ หยิบผลไม้เชื่อมห่อหนึ่งยื่นให้นาง “พระชายาเพคะ กินเม็ดหนึ่ง จะได้ไม่รู้สึกไม่สบายขนาดนั้นเพคะ”

หรงเยว่รับมาแล้วหยิบใส่เข้าปากหนึ่งเม็ด รสชาติเปรี้ยวๆทําให้น้ำลายเอ่อล้นขึ้นมา กลับไม่ได้รู้สึกไม่สบายขนาดนั้นจริงๆ นางเอนกายพิงบนไหล่ของอ๋องหวย “หลายปีมานี้ข้าไม่สบายน้อยมาก คนที่ฝึกวิทยายุทธป่วยจะถูกคนหัวเราะเยาะ ห้ามบอกคนอื่นเชียวนะเพคะ”

“เจ้าไม่ได้ป่วย เจ้าเหนื่อยเกินไป ช่วงก่อนหน้านี้เก็บบัญชี เจ้าอดนอนอยู่สองสามคืน ถึงได้เหนื่อยจนไม่ไหว” อ๋องหวยสงสารเป็นอย่างมาก ปรึกษากับนางว่า “หลังจากนี้บัญชีก็มอบให้ข้าดูแลเถอะ อย่าลําบากเพียงนี้เลย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน