บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1193

ในขณะที่หยวนชิงหลิงกำลังนิ่งอึ้ง เปาจื่อก็ดึงมือของนาง กลับเป็นฝ่ายพูดปลอบใจว่า “ท่านอย่าคิดถึงข้ามาก ข้าเรียนเสร็จแล้วจะกลับมา สามเดือนหรือครึ่งปี ข้าก็กลับมาแล้ว ถ้าหากท่านคิดถึงข้ามากละก็ ก็เข้าวังไปเยี่ยมข้าได้ แต่มีสิ่งเดียว อย่าทำให้เสียเวลาในการเรียนของข้า”

ตอนนี้หยวนชิงหลิงทำหน้าไม่ถูกแล้วจริงๆ นี่มันอะไรกัน นางให้กำเนิดลูกชายที่มีความก้าวหน้าขนาดไหน แต่ก็ยังรู้สึกมีบางจุดไม่ถูกต้อง

ปกติแล้วเปาจื่อดื้อรั้นเอาแต่ใจมาก

เข้าวังไปเรียนรู้ เปาจื่อนั้นเห็นด้วยอย่างเฉียบขาด แต่หยู่เหวินเห้ามองดูรายชื่อของราชครูแล้ว รู้สึกไม่ค่อยเหมาะสม ปรึกษากับหยวนชิงหลิง เอาอย่างนี้ ไปหาราชครูเหว่ยเถอะ

แม้ว่าราชครู่เหว่ยก็หัวโบราณ แต่มีความรู้ที่ลึกซึ้ง รู้จักปรับการสอนตามลักษณะนิสัยของผู้เรียน ที่สำคัญที่สุดคือความดื้อรั้นของราชครูเหว่ยนั้นสามารถเกลี้ยกล่อมได้ เพราะราชครูเหว่ยฟังเขา

หยวนชิงหลิงอยู่ระหว่างลังเลที่จะตัดสินใจ สุดท้ายก็เห็นด้วย

เพียงแต่ หลังจากที่เปาจื่อไปบอกกับทังหยวนและข้าวเหนียวแล้ว ทั้งสองคนก็บอกว่าจะเข้าวังไปเรียนเป็นเพื่อนพี่ชายด้วย

ทางด้านฮ่องเต้หมิงหยวนดีใจเป็นอย่างยิ่ง ให้สามพี่น้องเรียนรู้พร้อมกัน แน่นอนว่า ทังหยวนและข้าวเหนียวไม่จำเป็นต้องเรียนภาคค่ำเหมือนเปาจื่อ เพราะว่าการเรียนในภาคค่ำนั้นแทบจะเป็นการสอนเกี่ยวกับการเป็นกษัตริย์ที่ดีได้อย่างไรเท่านั้น

เพราะว่าพวกเขาไม่ได้อยู่ที่ตำหนักบูรพา ฉะนั้น พวกลูกๆต่างก็อาศัยอยู่ที่ตำหนักฉินคุน อาศัยอยู่กับไท่ซ่างหวง

ไท่ซ่างหวงได้ยินว่าเหลนทั้งหลายตั้งก็มีใจสู้ไม่ย่อท้อ ให้โสวฝู่ฉู่และราชครูเหว่ยเป็นผู้อบรมสั่งสอนพร้อมกัน แต่ในขณะเดียวกันโสวฝู่ฉู่ก็ต้องอาศัยอยู่ในวังด้วย

โสวฝู่ฉู่ไม่ค่อยเห็นด้วยนัก พูดว่า “ข้าอายุมากแล้ว สุขภาพไม่ค่อยดี อาศัยอยู่ในวังไม่ค่อยสะดวก ราชครู่เหว่ยมีความรู้กว่าผู้ใด เขาคนเดียวก็สามารถทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดีแล้ว”

“ไม่เห็นด้วยจริงหรือ”ไท่ซ่างหวงถาม

โสวฝู่ฉู่ถอนหายใจเบาๆหนึ่งเสียง “เหน็ดเหนื่อยมาครึ่งชีวิต ยากมากที่ตอนนี้รัชทายาทจะมีอนาคตเสียที ข้าเองก็อยากจะใช้บั้นปลายชีวิตอย่างมีความสุข อ่านหนังสืออยู่ที่จวน ดื่มชา เป็นคนแก่ที่เอ้อระเหย”

ไท่ซ่างหวงเอ่ยอย่างรู้สึกเสียดาย“เช่นนั้นก็น่าเสียดาย เดิมทียังคิดว่า เด็กๆอาศัยอยู่ที่ตำหนักฉินคุนแล้ว อย่างไรเสียก็ต้องให้คนที่พวกเขาไว้ใจมาอยู่ปรนนิบัติ ข้าเพิ่งจะสั่งการลงไป ให้เรียกตัวเสี่ยวสี่เจ้าวังมารับใช้ ภายหน้าเสี่ยวสี่ก็กลับมาอยู่ที่ตำหนักฉินคุนอีกครั้ง”

โสวฝู่นิ่งอึ้ง รีบพูดว่า “ช่วงนี้ข้ากินยาของท่านหมอ รู้สึกว่าสุขภาพดีขึ้นหน่อยแล้ว คาดว่าปรับสมดุลไม่กี่วัน ก็คงไม่เป็นอะไรมากแล้ว คิดไปคิดมา ราชครู่เหว่ยอายุมากแล้ว พระราชนัดดาองค์ใหญ่กับพระราชนัดดาอายุยังน้อย มีกำลังวังชาเต็มเปี่ยม เขาคนเดียวเกรงว่าจะรับมือไม่ไหว ไม่ว่าอย่างไรข้าก็เหน็ดเหนื่อยเพื่อเป่ยถังมาครึ่งชีวิตแล้ว คงไม่เป็นไรหากจะเหนื่อยต่อไปอีกไม่กี่ปี”

ไท่ซ่างหวงเอ่ยอย่างอบอุ่นว่า “ไม่ ตระกูลหยู่เหวินได้ติดค้างเจ้ามามากแล้ว ไม่สามารถทำให้เจ้าลำบากใจได้อีก อย่างไรเสียเจ้าก็กลับจวนไปใช้ชีวิตปั้นหลายให้มีความสุขเถอะ ป้ายเข้าวังเอาคืนมา ไม่มีเรื่องอะไรก็ไม่ต้องเข้าวังมารบกวนเวลาที่ข้ามีความสุขกับเหลน”

แม่นมสี่เข้าวังมาแล้ว เข้าวังแล้วจะออกไปไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าหากป้ายคาดเอวถูกเก็บกลับไป เช่นนั้นปีหนึ่งคงจะไม่ได้เห็นหน้ากันครั้งหนึ่ง

โสวฝู่ฉู่ร้อนใจ ยกมือขึ้นสาบานว่า “ไม่ได้เป็นการทำให้ลำบากใจ ยังมีใจและมีกำลัง ย่อมต้องทุ่มเทให้กับเป่ยถังอย่างเต็มที่ เพื่อแผนการในภายภาคหน้า เช่นนั้นก็ตกลงตามนี้ ข้าจะนำเสบียงเข้าวังมาเอง ไม่กินข้าวของพวกท่านแม้แต่เมล็ดเดียว ”

ไท่ซ่างหวงหรี่ตามองเขา “โสวฝู่ฉู่ เจ้าว่าเจ้าน่าขายหน้าหรือไม่ ต้องให้ยกเรื่องเสี่ยวสี่ขึ้นมาเจ้าจึงจะเชื่อฟัง ครึ่งชีวิตของเจ้าไม่ได้เป็นความเหน็ดเหนื่อย แต่เป็นความยากลำบาก”

โสวฝู่ฉู่ก็ฉุนขึ้นมาบ้างแล้ว “ในเมื่อท่านรู้ว่าครึ่งชีวิตที่ผ่านมาของข้ายากลำบาก ทำไมต้องเอานางมาหลอกล่อข้าด้วย”

“เจ้าจะไม่หลงกลก็ได้ จะน้อยใจทำไม”ไท่ซ่างหวงเจ้าเล่ห์และสงบนิ่ง

โสวฝู่ฉู่ยิ้มบางๆ “มีนางอยู่ ข้าไม่รู้สึกน้อยใจ ยินดีจะแบกรับทุกความลำบาก อยู่ในวังคอยรับใช้เจ้านายใหม่พร้อมกับนาง อย่างน้อยก็ทำเรื่องเดียวกัน ภายหน้าไม่ว่าต่อหน้าหรือลับหลังก็สามารถพูดคุยกันได้สะดวกขึ้น และถูกต้องตามครรลองครองธรรม ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน