จำได้ว่าก่อนหน้านี้ไม่นานเคยถามพวกเด็กๆ ถามว่าสมองของนางยังเปล่งแสงอยู่อีกหรือไม่ พวกเขาต่างก็บอกว่ามี หรือว่า หลังจากตั้งครรภ์ที่สามแล้ว ก็ไม่มีแล้วหรือไม่ก็จางไป
“เจ้าโค้ก เซเว่นอัพ พวกเจ้าดูสมองของแม่สิ”นางใช้มือชี้ไปที่ศีรษะ สีหน้าเคร่งขรึม “เห็นจุดที่เปล่งแสงหรือไม่ ”
สองแฝดลังเลอยู่ชั่วครู่ พูดออกมาพร้อมกันว่า “มี”
หัวใจของหยวนชิงหลิงคลายลงเล็กน้อย ถ้ามีละก็แสดงว่าคงไม่มีอันตรายใหญ่หลวงในช่วงเวลาสั้นๆนี้
กลับไปยังตำหนักเซี่ยวเยว่ เจ้าห้ากำลังทายาบริเวณสันจมูกของตัวเอง สันจมูกดูแล้วเบี้ยวไปเล็กน้อย เขาบิดจนกลับมาตรงเช่นเดิม เจ็บจนน้ำตาแทบจะไหลออกมาแล้ว เห็นหยวนชิงหลิงกลับมา เขาได้แต่ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พูดยิ้มๆว่า “คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าแฝดจะแรงเยอะขนาดนี้”
“เดิมทีพวกเขาก็ไม่เหมือนคนปกติอยู่แล้ว”หยวนชิงหลิงเดินไปตรงหน้าเขา มองดูจมูกของเขาที่บวมเขียว “ไม่เป็นไรกระมัง”
“ไม่เป็นไร ”เขาให้มือโอบกอดนางเข้ามา นั่งลงบนตัก มองดวงตาที่เรียบสงบของนาง “ทำไม ไม่มีความสุขหรือ”
หลังจากหยวนชิงหลิงลังเลอยู่ชั่วครู่ สุดท้ายก็ไม่ได้บอกเรื่องที่ตั้งครรภ์ให้เขาฟัง “ไม่เป็นไร คิดถึงพวกเด็กๆแล้ว”
“อีกสองวันจะเข้าวังไปเยี่ยมพวกเขาเป็นเพื่อนเจ้า”หยู่เหวินเห้าหอมนางทีหนึ่ง และพูดขึ้น
“ได้”หยวนชิงหลิงตอบรับเสียงหนึ่ง พยายามเค้นยิ้มออกมา
ผ่านไปสองวัน ได้เข้าวังโดยมีเจ้าห้าไปเป็นเพื่อน เดิมคิดว่าพวกเด็กๆจะรู้สึกลำบากมาก เห็นนางแล้วคงจะออดอ้อนสักหน่อย แต่กลับไม่มี กระทั่งยังโยกหัวไปมาท่องกลอนให้หยวนชิงหลิงฟัง
หยวนชิงหลิงฉวยโอกาสตอนที่เจ้าห้ากำลังคุยอยู่กับไท่ซ่างหวง ลากตัวเปาจื่อออกไปเดินเล่น
พอมาถึงในศาลาแล้ว นางก็ถามเปาจื่ออย่างจริงจังว่า “เจ้าบอกแม่สิว่า เห็นแสงบนศีรษะของแม่หรือไม่ จางไปมากแล้วใช่หรือไม่”
มือน้อยๆของเปาจื่อยกขึ้นมาประคองใบหน้าของนางเอาไว้อย่างเศร้าๆ “ท่านแม่ ข้าได้ให้ท่านน้าไปหาฟางหวูแล้ว เอาเรื่องที่แสงของท่านจืดจางลงไปบอกให้นางรู้ นางบอกว่าจะคิดหาวิธี ให้ท่านวางใจได้”
หัวใจของหยวนชิงหลิงหนักอึ้ง เป็นอย่างที่คิดจริงๆ
“ท่านแม่ อย่ากังวลเลย”เปาจื่อเน้นย้ำอยู่ตลอด แต่ว่า เขาก็ไม่ได้เชื่อมั่นมาก เพราะว่า ในดวงตากลมโตนั้น ก็เต็มไปด้วยความกังวลเช่นกัน
หัวใจของหยวนชิงหลิงเจ็บแปลบเล็กน้อย “อืม แม่เชื่อ ไม่กังวล”
“ท่านแม่ ข้ารักท่าน”เปาจื่อโผเข้าไปในอ้อมอกนาง พูดกับนางอย่างสงบว่า “ท่านโปรดวางใจ พวกเราจะเชื่อฟัง เรียนหนังสือดีๆ ไม่ให้ท่านต้องเป็นห่วง”
ดวงตาของหยวนชิงหลิงมีน้ำตารื้นขึ้นมา ลูกๆเกิดเชื่อฟังขึ้นมาอย่างกะทันหัน นางยังคิดว่าเริ่มมีความคิดอ่านแล้ว แต่กลับคิดไม่ถึงว่า เป็นการเชื่อฟังให้นางเห็น
นางพยายามเค้นรอยยิ้มออกมา อุ้มเปาจื่อ “ได้ เปาจื่อเชื่อฟังจริงๆ แม่มีความสุขมาก”
ผ่านไปชั่วครู่ เปาจื่อปล่อยนาง เงยใบหน้าเล็กๆขึ้นมา “ท่านแม่ ข้าต้องไปเรียนแล้ว คืนนี้เป็นคาบเรียนของท่านปู่โสวฝู่ เขาไม่ชอบที่ข้าไม่ตรงเวลาที่สุด น้องไม่ต้องไปเรียน ข้าไปหาน้องๆให้มาอยู่เป็นเพื่อนท่าน”
หยวนชิงหลิงกุมมือน้อยของเขาเอาไว้ “ได้ พวกเรากลับไปด้วยกัน เปาจื่อสู้ๆ”
“ข้าจะพยายาม ท่านปู่โสวฝู่บอกว่า ภายหน้าข้าต้องเป็นฮ่องเต้ที่ดีคนหนึ่ง”เปาจื่อเอ่ยอย่างแน่วแน่
เปาจื่อเชื่อฟังรู้ความ ทำให้หยวนชิงหลิงรู้สึกทั้งดีใจและเจ็บแปลบ ตลอดทางที่เดินกลับไป มองดูไหล่เล็กๆที่อ่อนนุ่ม ตอนนี้จะเอาเรื่องของประเทศชาติบ้านเมืองทั้งหลายมาทับถมไว้บนไหล่ของเขาแล้วหรือ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...