บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1203

หยู่เหวินเห้าไปหาฮ่องเต้หมิงหยวน ถามเรื่องอาวุธดินปืน แต่ฮ่องเต้หมิงหยวนไม่รู้เรื่อง แม้แต่ไท่ซ่างหวงก็ยังไม่เคยบอกกับเขามาก่อน

เรียกตัวราชครู่เหว่ยมา ถามว่าเคยบันทึกไว้หรือไม่ แต่ราชครู่เหว่ยบอกว่าไม่เคยบันทึกเกี่ยวกับอาวุธดินปืนว่าเคยใช้กับการสู้รบครั้งไหนมาก่อน ตอนที่ราชครูเหว่ยพูด อึกๆอักๆ เห็นได้ชัดว่ารู้ตื้นลึกหนาบางอยู่บ้าง

“แต่ว่า ไท่ซ่างหวงบอกว่าเคยใช้แค่ครั้งเดียว ภายหลังก็ถูกฮ่องเต้ฮุยจงห้าม เสด็จพ่อ อาวุธเหล่านี้แม้จะไม่สามารถเทียบกับรถรบที่แค้วนต้าโจวศึกษาค้นคว้าพัฒนาได้ แต่ก็มีประโยชน์มหาศาล ลูกขอเสนอแนะว่า สามารถให้กรมทหารทำการศึกษาพัฒนาต่อไป ”หยู่เหวินเห้าพูด

ฮ่องเต้หมิงหยวนลังเลใจอยู่บ้าง “ในเมื่อฮ่องเต้ฮุยจงมีราชโองการเด็ดขาดไม่ให้ใช้อาวุธเหล่านี้ ข้ารู้สึกว่าจะไม่เป็นการดีถ้าหากจะขัดราชโองการของพระองค์ท่าน”

หยู่เหวินเห้าร้อนใจขึ้นมา “เสด็จพ่อ ตอนนี้พวกเราซื้อรถรบจากแคว้นต้าโจว พลังทำลายล้างก็สูงเช่นกัน พวกเราต่างก็นำไปใช้ในสนามรบเหมือนกัน ทำไมซื้อของผู้อื่นได้ แต่ไม่สามารถศึกษาพัฒนาเองได้เล่า ตอนนี้กับตอนนั้นไม่เหมือนกัน ตอนฮ่องเต้ฮุยจง มีอ๋องชินเฟิงอันเฝ้ารักษาการณ์ชายแดน คนต่างแคว้นต่างก็ไม่มีใครกล้ามารุกราน แต่ตอนนี้เป่ยโม่กำลังจ้องหาโอกาสด้วยเจตนาร้าย ทะเยอทะยานโฉดชั่ว จะไม่ป้องกันไม่ได้เด็ดขาด”

ฮ่องเต้หมิงหยวนครุ่นคิด “เรื่องนี้ เสด็จปู่ของเจ้าว่าอย่างไรบ้าง”

“เสด็จปู่บอกว่าไม่คัดค้าน แต่ก็ไม่เห็นด้วย”

ฮ่องเต้หมิงหยวนนิ่งเงียบไปชั่วครู่ “เขาไม่มีคำสั่งลงมา ข้าก็ไม่กล้าตัดสินใจ”

พูดอีกอย่างคือ เขาก็ไม่ยินดีจะเป็นคนที่ขัดพระบัญชาของฮ่องเต้ฮุยจงเช่นกัน

หยู่เหวินเห้าถอนหายใจ “เสด็จพ่อ ท่านโปรดพิจารณาดูก่อน เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องประกาศให้ทุกคนรับรู้ กรมทหารทำการศึกษาอย่างเงียบๆก็พอ รอให้พัฒนาเสร็จแล้ว จะใช้หรือไม่ใช้ ค่อยว่ากันอีกที ”

ฮ่องเต้หมิงหยวนพูดว่า “ฮ่องเต้ฮุยจงห้าม น่าจะเป็นเพราะไม่ยินดีให้เป่ยถังต้องตกอยู่ในสถานการณ์ทุ่มกำลังทัพจับศึกพร่ำเพรื่อ และความกังวลของพระองค์ก็มีเหตุผล ฆ่าฟันกันมากเกินไป ในที่สุดก็จะนำมาซึ่งภัยพิบัติแก่ประเทศชาติ ตอนนี้ได้เกิดข่าวลือขึ้นมากมายในหมู่ประชาชน ถ้าหากเรื่องการศึกษาค้นคว้าอาวุธถูกแพร่ออกไป เกรงว่าจะเกิดความวุ่นวายขึ้นอีก แน่นอนว่าเป่ยโม่ได้สมคบคิดกับหงเล่ต่อกรกับแค้วนต้าโจว ก็เพราะว่าแคว้นต้าโจวพัฒนารถรบขึ้นมา เกรงว่าแค้วนต้าโจวจะยิ่งใหญ่ขึ้นมา แล้วข่มเหงพวกเขา แคว้นต้าโจวหากไร้เฉินจิ้งถิง เกรงว่าก็คงจะปกป้องเอาไว้ไม่ได้”

หยู่เหวินเห้าพูดว่า “เสด็จพ่อ แม้จะพูดเช่นนี้ แต่ตอนนี้แคว้นต้าโจว ยังมีใครกล้าดูถูกเหยียดหยามอีก อันตรายนั้นมี แต่มีอันตรายจึงจะมีโอกาส เป่ยถังของเราจะกลายเป็นประเทศที่แข็งแกร่ง ก็คือการพัฒนาอาวุธยุทโธปากร แคว้นต้าโจวไม่มีทางจะเป็นมิตรกับเป่ยถังตลอดไป พวกเราต้องคิดเผื่ออนาคตภายหน้าของเป่ยถัง พวกเราไม่รุกราน แต่พวกเราจำเป็นต้องมีการป้องกันที่แข็งแกร่ง”

ฮ่องเต้หมิงหยวนพูดว่า “ถ้าหากจะป้องกัน เช่นนั้นก็สร้างกำแพงเมือง จะไม่ได้ผลที่ดีกว่าหรือ”

หยู่เหวินเห้าที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น ถูกคำพูดประโยคนี้ของฮ่องเต้หมิงหยวนพังทลายลง เขารู้ว่าเสด็จพ่อเกรงว่าถ้าเป่ยโม่รู้เรื่องการพัฒนาอาวุธจะทำให้เกิดการบุกรุกอย่างกำเริบเสิบสาน แต่ว่าตอนนี้ที่จริงสงครามก็อาจจะปะทุขึ้นได้ สงครามครั้งนี้ หากต้องรบจริง เช่นนั้นก็ต้องสู้

เขารู้ว่าไม่สามารถเกลี้ยกล่อมเสด็จพ่อได้ในเวลานี้ ได้แต่คิดหาวิธีอื่นแล้ว

หลังจากออกจากวัง ใบหน้าเต็มไปด้วยความกลัดกลุ้ม หยวนชิงหลิงรู้ว่าเขาพบกับเรื่องยากเข้าแล้ว พูดว่า “เป็นอย่างไรบ้าง”

“อาวุธเหล่านี้เคยถูกใช้ในสงครามมาก่อนจริงๆ แต่ภายหลังฮ่องเต้ฮุยจงได้สั่งห้าม และไม่ให้ขุนนางบันทึกประวัติศาสตร์บันทึกไว้ด้วย ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด เสด็จปู่บอกว่าฆ่าล้างมากเกินไปจึงได้ถูกฮ่องเต้ฮุยจงสั่งห้าม แต่ข้ารู้สึกว่า น่าจะมีเหตุผลอื่น ไม่เช่นนั้น ทำไมจึงไม่มีการบันทึกเล่า ”

“ขุนศึกเก่าแก่ในราชสำนัก น่าจะรู้เรื่องนี้กระมัง”หยวนชิงหลิงพูด

หยู่เหวินเห้าหัวใจเต้นแรง รีบสั่งการ ให้ไปเชิญฮูหยินติ้งกั๋วที่จวนหยวนมา

ฮูหยินติ้งกั๋วรู้ว่ารัชทายาทเรียกพบ ต้องมีเรื่องสำคัญแน่ ฉะนั้นจึงไม่เสียเวลา รีบออกไปทันที

ได้ยินหยู่เหวินเห้าพูดถึงเรื่องอาวุธดินปืน นางก็นิ่งอึ้ง “ที่กรมทหารยังมีอยู่หรือ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน