หยวนชิงหลิงอธิบายว่า "อาการป่วยของอ๋องหวยเป็นโรคที่สามารถติดต่อได้ ทุกคนที่เข้าออกจะต้องสวมหน้ากาก ข้าจะอธิบายเรื่องนี้ให้อ๋องหวยฟังจนกระจ่างแน่นอน จะไม่ให้เขามีบาดแผลทางใจเป็นอันขาด"
"เจ้าหุบปากเดี๋ยวนี้เลย" หลู่เฟยโกรธจัดจนไม่รู้จะพูดอะไรออกมาแล้ว เดิมทีนางออกจากวังมา ก็เพื่อจะมาจับตาดูหยวนชิงหลิง แต่ตอนนี้ยังไม่ทันได้เริ่มรักษา หยวนชิงหลิงก็พูดจากลับกลอกเล่นลิ้นใส่นางแล้ว
พระชายาจี้ยกยิ้มพลางพูดว่า "ไม่เป็นไรหรอก แค่ระวังสักหน่อยก็พอแล้ว ข้าเข้าๆ ออกๆ อยู่หลายวัน ทั้งยังไม่ได้สวม อะไรนะ.... หน้ากากใช่หรือไม่ น้องหกป่วยหนักขนาดนี้ พวกเรามาพยายามช่วยกันไม่ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจกันดีกว่านะ"
นางผลักหน้ากากกลับไปให้หยวนชิงหลิง แล้วหันหลังเดินเข้าไป
เพื่อแสดงให้เห็นว่านางไม่ได้รู้สึกรังเกียจเลยแม้แต่น้อย
หยวนชิงหลิงสั่งด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด "หยุดเดี๋ยวนี้"
พระชายาจี้หันมาพูดอย่างเย็นชา "เจ้าคิดจะมาเบ่งวางอำนาจอะไรอย่างนั้นรึ"
หยวนชิงหลิงกวาดสายตามองไปรอบๆ แล้วพูดว่า "ในเมื่อเสด็จพ่อรับสั่งให้ข้าเป็นคนรักษาอาการป่วยของอ๋องหวย นั่นหมายความว่าทุกคนล้วนต้องฟังคำสั่งของข้าทุกอย่าง วัณโรคเป็นโรคติดต่อได้ง่ายดายและรวดเร็วมาก ทั้งยังสามารถติดต่อได้จากการแค่ได้สัมผัสละอองน้ำลายเล็กๆ ที่อยู่ในปาก การสวมหน้ากากเป็นเพียงเรื่องพื้นฐาน หากใครไม่สวมหน้ากาก ก็ไม่มีสิทธิ์เข้าไปในห้องนี้"
นางหันกลับมามองกู้ซือ สั่งการด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "ใต้เท้ากู้ ช่วยเฝ้าอยู่ที่หน้าประตูให้ดี หากผู้ใดประสงค์จะเข้าไป ต้องสวมหน้ากากให้หมดทุกคน หากไม่ทำตามนี้ ไม่อนุญาตให้เข้าไปทุกกรณี รวมถึงพระชายาหลู่เฟยด้วย"
"พ่ะย่ะค่ะ" กู้ซือรับคำสั่ง ฝ่าบาททรงตรัสไว้ว่า ทุกสิ่งให้ฟังตามที่พระชายาฉู่สั่งทุกประการ เขาเองก็ไม่มีทางเลือก
แต่กู้ซือรู้สึกว่าวันนี้ พระชายาฉู่ดูจะขวัญกล้าบังอาจมากกว่าทุกวันที่ผ่านมา เมื่อมองไปที่อ๋องฉู่อีกครั้ง ก็เห็นใบหน้าของเขาสงบนิ่ง ราวกับว่าเขาเคยชินกับอะไรแบบนี้แล้ว ทั้งยังไม่เห็นท่าทีว่า เขาจะออกมาช่วยรับหน้าแทนพระชายาฉู่อีกด้วย
หลู่เฟยโกรธจัด "นี่กระทั่งข้า เจ้ายังกล้าขัดขวางอย่างนั้นรึ กู้ซือ ไสหัวของเจ้าไปให้พ้นหน้าข้าเดี๋ยวนี้"
หลู่เฟยดึงตัวพระชายาจี้ตรงๆ ทำท่าจะเข้าไปข้างใน หยวนชิงหลิงหยิบคทาของไท่ซ่างหวงออกมาจากแขนเสื้อ กดเปิดทีละส่วน ยกขึ้นมาขวางสกัดไว้ด้านหน้าพระชายาจี้กับหลู่เฟย "จะเข้าไปก็ได้ แต่ต้องใส่หน้ากากให้หมดทุกคน!"
"นี่เจ้า..." หลู่เฟยเหลือบมองอย่างละเอียดแวบหนึ่ง เห็นลายมังกรแกะสลักบนไม้เท้า ก็ตกใจจนผงะไปทันที "นี่เป็นของที่ไท่ซ่างหวงประทานให้เจ้าอย่างนั้นรึ?"
ไท่ซ่างหวง
นัยน์ตาของอ๋องจี้แทบถลนออกมา เรียกว่าตกตะลึงจนเกือบจะกลิ้งหลุดออกมาอยู่แล้ว
หลู่เฟยหันขวับกลับมามองหยู่เหวินเห้า "ลูกห้า"
หยู่เหวินเห้ากางมือออก "ท่านแม่หลู่ นางมีคทา ข้าเองก็ทำอะไรไม่ได้ เสด็จพ่อกับไท่ซ่างหวงต่างเจรจากันไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า ให้นางเป็นคนตัดสินใจเรื่องการรักษาทุกประการ กระทั่งข้าเอง ก็มีหน้าที่แค่รับผิดชอบไปรับไปส่งนางเท่านั้น"
ใบหน้าของหลู่เฟยถึงกับกระตุก บรรยากาศโดยรอบหยุดชะงักนิ่งค้างโดยพลัน
เจ้าหญิงเหวินจิ้งจึงเอ่ยขึ้นว่า "ท่านแม่หลู่ ก็แค่สวมหน้ากากเองนะเพคะ จากนี้ก็ไปอธิบายกับน้องหกให้กระจ่างก็พอ ให้พระชายาฉู่เข้าไปเถอะเพคะ อย่าทำให้เสียเวลาการรักษาน้องหกเลย การที่เสด็จพ่อเชื่อนาง มันต้องมีเหตุผลแน่"
หยวนชิงหลิงทิ้งหน้ากากไว้ให้กู้ซือ "เจ้าเฝ้าให้ดี ข้าจะเข้าไปแล้ว ใครไม่ใส่หน้ากาก ก็ไม่อนุญาตให้เข้าไปเด็ดขาด"
นางหันกลับไปมองหยู่เหวินเห้า ผู้ซึ่งให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี สวมหน้ากากเรียบร้อย ทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี
ทั้งสองเข้าไปในเรือนพัก
มีข้ารับใช้หนุ่มรออยู่ในห้องแล้วคนหนึ่ง หยวนชิงหลิงส่งหน้ากากให้เขา แล้วตรงไปที่เตียงของอ๋องหวยพร้อมๆ กับหยู่เหวินเห้า
"น้องหก วันนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง" หยู่เหวินเห้าเอื้อมมือไปห่มผ้านวมให้อ๋องหวย เอนตัวเข้าไปถามใกล้ๆ
อ๋องหวยซูบผอมจนน่ากลัว แก้มตอบ เบ้าตาลึกโหล ดวงตาแดงก่ำ ดูเหมือนว่าเขาเพิ่งผ่านการไอหนักๆ มารอบหนึ่ง สภาพร่างทั้งร่างดูซีดเซียวอ่อนแอ ดูราวกับคนที่ไร้เรี่ยวแรงหลังจากถูกทรมานมาเนิ่นนาน
แต่เขากลับหัวเราะอารมณ์ดี "พี่ห้า นี่ข้าเกือบจำเจ้าไม่ได้แล้วเชียว"
หยู่เหวินเห้าเกือบจะถอดหน้ากากโดยไม่รู้ตัว หยวนชิงหลิงจับมือของเขาไว้ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า " คารวะอ๋องหวย ข้าคือพระชายาฉู่ มีนามว่าหยวนชิงหลิง เป็นเสด็จพ่อที่ทรงมีรับสั่งให้ข้ามารักษาอาการป่วยของเจ้า "
สายตาของอ๋องหวยค่อยๆ เคลื่อนไปที่หยวนชิงหลิงช้าๆ รอยยิ้มของเขาเจื่อนลงเล็กน้อย "ได้ยินชื่อเสียงมานาน แต่ไม่เคยมีวาสนาได้พบเสียที น้องหกคารวะพี่สะใภ้ห้า"
หยวนชิงหลิงยิ้มแย้ม "จากนี้ก็จะได้พบกันบ่อยๆ แล้วล่ะ อย่างน้อยๆ ในช่วงครึ่งปีนี้ เจ้าจะได้พบข้าเป็นประจำอย่างแน่นอน"
อ๋องหวยยิ้มแย้มอีกครั้ง "ครึ่งปีรึ ดีมาก ดีมากเลย"
เขารู้ว่าความเจ็บป่วยของเขามันหนักหนาเพียงใด ไม่ต้องพูดถึงครึ่งปีหรอก แค่ครึ่งเดือนเขาก็คงผ่านมันไปไม่ไหวแล้วเป็นแน่
เขาได้ยินหมอหลวง บอกเล่าอาการของเขาให้หลู่เฟยฟังที่ด้านนอกแล้ว ว่าในช่วงสองวันที่ผ่านมา เขาไอเป็นเลือดไม่หยุดแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...