ใต้เท้าฟางกลับส่ายหัว ยิ้มหัวเราะอย่างขมขื่นพร้อมพูดขึ้นว่า “คนส่วนมากคิดเช่นนี้ แต่ก็จะมีคนบางส่วน ไม่อยากรับเงินที่มาจากการกระทำผิด กลัวจะทำให้ลูกหลานเดือดร้อน นี่เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องตามหลักศีลธรรม โหราศาสตร์การแพทย์ คนเป็นหมอ มีคนมากมายล้วนเชื่อในพรหมลิขิต เชื่อเวรกรรมตามสนอง หลายปีก่อนจื๋อลี่ก็มีโรงหมอกับโรงผลิตยาไม่ยอมโก่งราคาเหมือนนาง แต่ไม่ถึงหนึ่งเดือน โรงหมอกับโรงผลิตยาพวกนั้น ถ้าไม่มีคนตายร้านก็ถูกไฟไหม้ ถึงแม้ไม่มีหลักฐานว่าองค์หญิงฮุ่ยผิงเป็นคนทำ แต่คนในวงการนี้ ทุกคนต่างรู้ดีแก่ใจ องค์หญิงฮุ่ยผิงต้องการที่จะครอบครองกิจการทั้งหมด จะไม่ให้ผู้ใดกระทำการใดๆ ที่ขัดต่อเจตจำนงของนาง ดังนั้น นานๆไป ก็ไม่มีใครกล้าเดือดร้อนอีกแล้ว”
ส่ายตาหยวนชิงหลิงแผดเผาไปด้วยความโกรธเคือง เงยหัวมองดูทังหยางพร้อมพูดขึ้นว่า “เรื่องนี้เจ้าก็ไหม?”
ทังหยางส่ายหัว พร้อมพูดว่า “ไม่รู้”
“สืบไม่ได้หรือ?”
ทังหยางครุ่นคิดว่า พร้อมพูดขึ้นว่า “น่าจะได้ กระหม่อมสั่งคนไปสืบดู”
ถึงแม้จะเป็นเรื่องเมื่อหลายปีก่อน แต่หากมีคนตาย และไฟไหม้ร้านค้ากับโรงงาน ก็จะต้องมีคนจำได้แน่ สืบความอาจจะค่อนข้างยาก แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ยังไงครอบครัวผู้ที่ถูกกระทำอย่างอยู่ พวกเขาจะต้องรู้เรื่องภายในอยู่บ้างแน่
“เรื่องนี้เกิดขึ้นในจื๋อลี่ จื๋อลี่ก็คือรังโจรของท่านชายสี่ ให้ท่านชายสี่สั่งคนไปสืบดู” อะซี่พูดขึ้น
“งั้นใต้เท้าทังไปจวนท่านชายสี่ด้วยตนเอง เล่าเรื่องนี้ให้ท่านชายสี่ฟัง ต้องรวดเร็ว” หยวนชิงหลิงพูดขึ้น
“ได้ขอรับ” ทังหยางพูดเสร็จ ยกมือขึ้นประสานแล้วก็รีบไป
หยวนชิงหลิงเรียกคนทำบัญชีมา ดูราคาของยาพวกนี้ จากนั้นก็กำหนดราคาขึ้นมาหนึ่งฉบับ หลังจากกำหนดราคาแล้ว ก็เทียบกับร้านยาโรงหมอของฮุ่ยผิง ดูว่าถูกกว่าเท่าไหร่
นางพูดกับคนทำบัญชีกับใต้เท้าฟางว่า “คืนนี้พวกเจ้าทำงานล่วงเวลาอยู่ที่นี่ กำหนดราคาให้ได้ก่อน พรุ่งนี้ยังมีงานต้องทำอีกเยอะ”
“ขอรับ” ทั้งสองคนตอบรับ
หยวนชิงหลิงลุกขึ้นมา ยืดเอวเดินออกมา ท่าทีเหมือนอะซี่มาก นางขุ่นเคืองใจไปหนึ่งรอบ แล้วก็นั่งลงอย่างปวดเอวปวดหลัง คราวนี้ค่อยคิดขึ้นมาได้ว่าตนเองก็เป็นคนท้อง
เพียงแต่ ปกตินางไม่อารมณ์ฉุนเฉียวขนาดนี้ ตั้งครรภ์ครั้งนี้ แม้แต่อารมณ์ก็ฉุนเฉียวง่ายขึ้นมา ต่อไปนางคงไม่คลอดลูกออกมาเป็นเด็กหุนหันพลันแล่นมั้ง?
“พี่หยวน ทำไมเจ้าจะต้องเกลียดชังองค์หญิงฮุ่ยผิงขนาดนี้?” สำหรับอะซี่เห็นว่า ถึงแม้องค์หญิงฮุ่ยผิงจะน่าชิงชัง แต่อย่างน้อยองค์หญิงฮุ่ยผิงก็ดีกว่าคนที่คิดจะทำร้ายพี่หยวนมั้ง? ยังไงก็ไม่ได้ทำร้ายนางโดยตรง คนพวกนั้นล้วนเคยลอบฆ่าพี่หยวน
หยวนชิงหลิงมองดูกิ่งไม้แห้งในลาน หลังจากเปลี่ยนฤดู ภายในลานก็ยากที่จะมองเห็นสีเขียว ความโศกเศร้ามีอยู่ทุกหนทุกแห่ง ทำให้จิตใจก็ยิ่งหม่นหมองไปด้วย พร้อมพูดขึ้นว่า “อะซี่ บนโลกใบนี้ จะมีคนบางประเภทที่มีลักษณะพิเศษ อย่างเช่นหมอ อย่างเช่นทหาร คนเป็นหมอ ก็ต้องมีจิตที่ต้องการรักษาคนช่วยชีวิตคน จะเห็นแก่ผลประโยชน์อย่างเดียวไม่ได้ คนมากมายอาจจะพูดว่า หมอก็เป็นคน หมอก็โลภในทรัพย์สินเงินทองได้ ใช่ สามารถทำได้ แต่สุภาพบุรุษที่โลภในเงินทองก็จะต้องหามาอย่างถูกต้อง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหมอที่ต้องช่วยชีวิตคน เปิดโรงหมอก็ดี เปิดร้านขายยาก็ดี ต่างก็มีผลกำไร แต่มีความจำเป็นที่จะต้องเห็นแก่ผลประโยชน์ก่อนชีวิตคนหรือ? ผลประโยชน์จะต้องสูงขนาดนี้เลยหรือ? เพื่อผลประโยชน์แล้ว ไม่สนใจความเป็นความตายของผู้ป่วย ลืมความทุกข์ยากลำบากของประชาชน คนอยู่บนโลก ทุกคนไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงความเจ็บป่วย บนโลกนี้ มีคนที่สามารถควักเงินเพื่อจ่ายยารักษาได้อย่างสบาย แต่มีประชาชนยากจนมากมายที่ไม่มีเงินจ่าย โรคบางอย่าง ต้องทานยานานเป็นปี ไม่มีปัญญาหายามาทานก็ต้องตาย ตอนนี้ชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเราสุขสบายขนาดนี้ แต่เจ้าเคยคิดถึง มีบางคนที่เป็นกังวลอยู่ทุกวันว่า พรุ่งนี้ ไม่มีเงินซื้อยาแล้วจะตายไหม? ฮุ่ยผิงสมควรตาย อะซี่ หากมีเทพเจ้าจริง ก็ควรที่จะให้นางได้รู้ซึ้งถึงความรู้สึกเช่นนี้บ้าง”
นางพูดเช่นนี้ กับอารมณ์ที่หดหู่ในตอนนี้ ไม่ใช่เพราะตอนนี้ทั้งหมด แต่เป็นยุคสมัยที่นางมีชีวิตอยู่มากกว่า ครอบครัวเช่นนี้มีเยอะมาก
นางเป็นหมอ คนอื่นสามารถพูดอะไรก็ได้ โศกเศร้าได้ แต่นางไม่สามารถปล่อยวางได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...