หรงเยว่พูดขึ้นอย่างเรียบเฉยว่า “คนแบบนี้ ที่ไหนไม่มีอยู่บ้าง? เพียงแต่ไม่มีใครเหิมเกริมเท่าไหร่แค่นั้น”
“ปกติเจ้าเกลียดชังอย่างกับศัตรู ทำไมตอนนี้กลับพูดเข้าข้างนาง?” หยวนชิงหลิงมองดูนาง
หรงเยว่ยื่นมือลูบท้อง พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้ากำลังจะเป็นแม่คน ข้าต้องเข้าใจเรื่องทุกอย่างที่ไม่สามารถเข้าใจได้ ปล่อยวางความแค้นทุกอย่างที่ไม่สามารถปล่อยวางได้ ทำความดีเพื่อลูกของข้า”
หยวนชิงหลิงเงยหน้าขึ้น พร้อมพูดขึ้นว่า “ใช่หรือ?”
ภายใต้การจ้องมองของนาง หรงเยว่พูดขึ้นอย่างจนใจว่า “เรื่องแบบนี้ เมื่อก่อนข้าก็เคยเจอ”
“อืม?”
หรงเยว่ค่อยๆก้มหน้าลง พร้อมพูดขึ้นว่า “เพียงแต่ ข้าเป็นคนจุดไฟทำลายร้านพวกนั้น”
หยวนชิงหลิงไม่รู้จะร้องไห้หรือหัวเราะดี จากนั้นก็มองดูนางพร้อมพูดขึ้นอย่างจริงจังว่า “ฆ่าคน?”
หรงเยว่โบกมือ พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่ ข้าไม่ได้ฆ่าคนไปเรื่อย ข้าฆ่าคนเพื่อเงิน ไม่ได้หนึ่งแสนแปดหมื่นตำลึงข้าไม่ลงมือ และคนที่ข้าฆ่าล้วนเป็นคนชั่วร้าย โธ่ เจ้าไม่ต้องพูดว่าแต่ฆ่าคนฆ่าคนแล้ว เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม ตอนนี้ข้าฟังพวกนี้ไม่ได้ ข้าฟังพวกนี้แล้วก็จะเวียนหัว ตอนนี้จิตใจของข้าอ่อนโยนอย่างมาก ข้าตั้งใจจะทำความดี”
หยวนชิงหลิงมองดูสายตาอ่อนโยน ไม่สอดคล้องกันเลย ค่อยๆหยิบลูกบ๊วยเปรี้ยวแห้งใส่ปาก พร้อมพูดขึ้นว่า “คนพวกนี้เจ้ายังไม่ต้องไปทำให้ตื่นตกใจ ต่อไปสามารถใช้ประโยชน์ได้”
หรงเยว่พยักหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “อืม ได้ ต้องไปบอกทางด้านกรมการพระนครก่อนไหม?”
“ไม่ต้อง จำไว้ก็พอ”
“ก็ถูก” จู่ๆหรงเยว่ก็พูดขึ้นมา อย่างเพิ่งคิดขึ้นมาได้ว่า “เจ้าว่า ฮุ่ยผิงทำบาปไว้มาก เลยถูกกรรมตามสนอง ถูกผีชั่วร้ายแขวนคอนางขึ้นมายามตอนกลางคืน แขวนคอนางจนตายไหม?”
หยวนชิงหลิงมองดูนาง พร้อมพูดขึ้นว่า “เมื่อกี้เจ้าพูดจะคิดแต่เรื่องดีๆไม่ใช่หรือ?”
หรงเยว่หัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “แค่พูดไปเรื่อย”
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นอย่างเรียบเฉยว่า “วิธีนี้ดี เก็บไว้ใช้ หากล้มนางไม่ได้จริง? งั้นก็ให้ผีลงมือ”
หรงเยว่มองดูนาง พร้อมพูดขึ้นอย่างแปลกใจว่า “วิธีการนอกรีดแบบนี้ เจ้าไม่คิดว่าสกปรกหรือ?”
“ต้องดูว่าทำกับคนอะไร” หยวนชิงหลิงพูดขึ้นอย่างเรียบเฉย
หรงเยว่มองดูแววตาของนาง พบว่าเหมือนมีไฟลุกไหม้ จึงพูดขึ้นว่า “นี่เจ้า....เจ้าโกรธ?”
นางมองดูในศาลา ไม่ได้จุดเทียนไม่ได้จุดโคมไฟไว้ ไฟนี้มาจากไหน? เวลาโกรธก็ไม่มีทางมีไฟลุกขึ้นมา
“ข้าไม่โกรธ....” หยวนชิงหลิงครุ่นคิด พร้อมพูดขึ้นว่า “จะบอกว่าไม่โกรธ ในใจก็รู้สึกเหมือนมีไฟลุกไหม้อยู่”
“กินสิ่งของอะไรที่ทำให้ร้อนในหรือเปล่า?” หรงเยว่ถามขึ้น
“ทำไมข้าดูเหมือนกำลังโกรธหรือ?” หยวนชิงหลิงถามขึ้น
หรงเยว่มองดูดวงตาของนางพร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่ใช่ เหมือนในดวงตาของเจ้ามีเปลวไฟ รู้สึกเหมือนเจ้ากำลังโกรธ”
หยวนชิงหลิงคิดถึงที่ตนอารมณ์เสียกับเจ้าห้าขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ตอนนี้หรงเยว่ก็พูดเช่นนี้ เปลวไฟนี้เป็นแสงสว่างในหัวสมองหรือเปล่า? ช่วงนี้นางค่อนข้างที่จะควบคุมอารมณ์ไม่ค่อยได้จริงๆ ถ้าเป็นเมื่อก่อน ถึงแม้นางจะโกรธกับการกระทำของฮุ่ยผิง แต่วันนั้นก็ไม่ถึงขั้นที่จะพูดจาโหดเหี้ยมขนาดนี้ จะทำการตอบโต้อย่างเงียบๆเท่านั้น
แต่วันนั้น นางโกรธมากจริงๆ เหมือนจะระเบิด ตอนนี้คิดถึงใบหน้าใบนั้นของฮุ่ยผิง ยังคงอยากที่จะเอามีดกรีดบนใบหน้าของนาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...