บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 124

หยวนชิงหลิงเก็บมือกลับ พูดอย่างไม่ค่อยเต็มใจว่า "เช่นนั้นเจ้าจะรับลูกไม้ไหนล่ะ ข้าผิดเอง ยังไม่หายโกรธอีกรึ"

"เจ้าทำผิดแล้วยังจะแสดงท่าทางมั่นอกมั่นใจอย่างนี้อีก ทั้งยังเย่อหยิ่งอวดดีได้ขนาดนี้ด้วยหรือ เจ้ามีท่าทีสำนึกในความผิดหรือไม่ ขอโทษแล้วหรือไม่ ชดใช้ความผิดแล้วหรือไม่"

คำถามที่รั่วมาเป็นชุดนี้ นับว่ามาจากความรู้สึกอัดอั้น ที่ทนเก็บเอาไว้มายาวนานมากแล้วจริงๆ

หยวนชิงหลิงก็โกรธมากเช่นกัน "ก็แค่พูดว่าเจ้าไปประโยคเดียวเองไม่ใช่รึ แค่พลั้งปากเฉย ๆ ไม่ได้ตั้งใจเสียหน่อย มาตอแยถามเซ้าซี้ไม่เลิกเช่นนี้เหมือนคนฉลาดเขาทำกันอย่างนั้นรึ ลับหลังเจ้าก็ใช่ว่าจะพูดถึงข้าในแง่ดีซักกี่มากน้อย จะดีจะชั่วอย่างไร ข้าก็นับว่าเป็นผู้มีพระคุณช่วยเจ้าให้รอด..."

นางหน้าแดง ริมฝีปากเผยอเล็กน้อย ดวงตามืดทะมึน เส้นผมเริ่มยุ่งเหยิง ร่างกายเอียงไปเล็กน้อย ในใจพลันรู้สึกผิด ประโยคที่ว่าเป็นผู้มีพระคุณนั้น นางไม่กล้าพูดออกมาจากปาก จึงเริ่มที่จะหลบสายตาไม่ยอมมองตรงๆ

หยู่เหวินเห้ารู้สึกได้ถึงความโกรธที่พุ่งทะยานขึ้นมากลางศีรษะเขาแล้ว ยังกล้าลำเลิกบุญคุณอีกหรือ ช่างไม่รู้กฎเกณฑ์ ไม่รู้ผิดชอบชั่วดีอะไรอย่างนี้หรือ

เขาไม่คิดอะไรทั้งสิ้น ก้มศีรษะลงไป แล้วกัดเข้าที่ริมฝีปากสีแดงสดที่เผยอเล็กน้อยนั่น ไปเต็มๆ คำ

แต่เพราะเขาจะตบตีนางไม่ได้อีกต่อไป ความตั้งใจเดิมของเขาคือการลงโทษ แต่ทันทีที่ได้สัมผัสแนบชิดริมฝีปากสีแดงสดนั่น ความอ่อนหวานนุ่มนวลพลันส่งมาถึงจุดสูงสุดของหัวใจ ร่างกายราวถูกแช่แข็ง ในสมองก็พลันว่างเปล่าไปครู่หนึ่ง

สมองของหยวนชิงหลิงก็ว่างเปล่าไปทันทีเช่นกัน

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

กลีบปากทั้งสี่บดเบียด หยวนชิงหลิงเผยอริมฝีปากล่างอย่างไม่รู้ตัว ใช้ฟันกัดโต้ตอบกลับเบาๆ สองมือยกขึ้นมาแตะที่หน้าอกเขา ใบหน้าร้อนผ่าว ในสมองว่างเปล่า มีเพียงเสียงหัวใจที่เต้นรัวอยู่ในช่องอก เสียงดังก้องกัมปนาทราวกับเสียงฟ้าร้อง

ลมหายใจของทั้งสองรัวเร็วกระชั้นถี่ ต่างฝ่ายต่างใช้สองมือของกันและกัน โอบกอดกระชับอีกฝ่ายอย่างเหนือการควบคุม นี่ไม่ใช่ความรู้สึกส่วนตัวแต่อย่างใด แต่เป็นการเคลื่อนไหวไปตามธรรมชาติโดยไม่รู้ตัว รวมถึงการที่นางกัดริมฝีปากตอบโต้กลับไปอย่างแผ่วเบานั้นด้วย

หยู่เหวินเห้ากดเบียดริมฝีปากลงไปหนักๆ บดขยี้ ฉกฉวยจู่โจม ริมฝีปากและฟันที่กระทบกัน ในหัวใจคล้ายเกิดคลื่นอารมณ์พัวพันรัดรึง ลมหายใจที่ประสานเป็นจังหวะ หัวใจที่เต้นโครมคราม คล้ายดั่งโลกทั้งใบจะหยุดนิ่งลงในชั่ววินาทีนั้น

หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ค่อยๆ เคลื่อนย้ายริมฝีปากไปที่ใบหูของนาง โอบกอดเรือนร่างที่อ่อนปวกเปียก สัมผัสเส้นผมนุ่มสลวยที่ปลิวไสวไปมาด้วยมือของเขา พริบตานั้น บังเกิดความร้อนสายหนึ่งขึ้นมาในช่องท้องส่วนล่างของเขา ซึ่งเป็นความร้อนดั่งไฟที่ไม่อาจควบคุมได้

หยวนชิงหลิงไม่เหลือเรี่ยวแรงแล้วแม้แต่น้อยนิด ทั้งสมองและร่างกายของนาง คล้ายอยู่ในสภาพขาดออกซิเจนเฉียบพลัน

ทำได้เพียงเอนกายลงซบบนหน้าอกเขาอย่างแผ่วเบา ฟังเสียงหัวใจเต้นรัวราวกับกลองศึกนั้น

เมื่อสติสัมปชัญญะค่อยๆ ฟื้นตัวกลับมา คนก็สงบลงไปได้มากแล้ว

ยามที่แยกออกจากกัน บังเกิดบรรยากาศชวนอึดอัดเล็กน้อย

ใบหน้าของหยวนชิงหลิงราวกับพระอาทิตย์ยามเช้าที่กำลังขึ้น มันเป็นสีแดงเจิดจ้า นางไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปมองเขา ได้แต่บิดข้อมือพลางกระซิบเสียงแผ่ว "ท่านอ๋องควรไปทำงานได้แล้ว"

หยู่เหวินเห้าอยู่ในอารมณ์ที่ซับซ้อน มองดูใบหน้าแดงก่ำอันคุ้นเคยของนาง ก้มหน้าลงต่ำ หลบสายตา ดวงตานางสั่นไหวราวกับกวางน้อยที่ตื่นกลัว จากนั้นก็เผ่นโผนทะยานออกไปทันที เกิดความรู้สึกเสียดายที่ต้องแยกออกจากกันเมื่อครู่

หยู่เหวินเห้า ผู้หญิงคนนี้น่ารังเกียจนัก เจ้าจะถูกนางล่อลวงอีกไม่ได้แล้วนะ

ทว่า ทำไม ณ ช่วงเวลานี้ เจ้าถึงได้อยากร่วมสัมพันธ์ล้ำลึกกับนางมากถึงเพียงนี้ล่ะ

ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงติดจะหอบๆ ว่า "คืนนี้ข้าจะมารับเจ้า รอข้าล่ะ"

หยวนชิงหลิงพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง "อ๋อ รู้แล้ว"

เขาหันหน้าไปช้าๆ ทันใดนั้นก็หยุดชะงักไปอีกครั้ง

หยวนชิงหลิงช้อนดวงตาที่กลมโตน่าเอ็นดู ซึ่งเคลือบแฝงความสับสนของนาง ขึ้นมองเขาด้วยความประหลาดใจ

ไม่รู้ว่าเขาบ่นพึมพำอะไรด้วยน้ำเสียงอันแผ่วเบา ตัวคนเดินวกกลับมา คว้าตัวนางไปกอดอย่างเกรี้ยวกราด ก้มหน้าลง ริมฝีปากพลันถูกประทับแนบลงมาอีกครั้ง

ครั้งนี้เขาไม่ได้ตั้งใจลองลิ้มชิมรสหอมหวานอ่อนละมุนเหมือนเมื่อครั้งที่แล้ว เขาบดริมฝีปากลงมาอย่างจาบจ้วง

มือทั้งสองข้าง ไต่ขึ้นไปตามแผ่นหลังของนาง กดทับราวกับว่าเขากำลังพยายามจะบีบนางเข้าไปเป็นหนึ่งเดียวกันกับร่างกายของเขา หยวนชิงหลิงรู้สึกร้อนวาบที่ท้องน้อย กระแสความร้อนสายหนึ่งแล่นปลาบราวจะแผดเผานางให้มอดไหม้

เขาสอดลิ้นเข้าไปสำรวจในโพรงปากไม่หยุด ฟันของเขาต้อนจับเรียวลิ้นสีชมพูอ่อนของนาง กัดเบาๆ สัมผัสเข้าไปให้ยิ่งใกล้ชิด

มือใหญ่ค่อยๆ เคลื่อนไปข้างหน้าจากด้านขวาของแผ่นหลัง ค้างอยู่ใต้รักแร้ราวๆ สามวินาที แล้วค่อยเคลื่อนย้ายต่อไปข้างหน้า ครอบคลุม สกัดกั้น ควบคุมอย่างอ่อนโยนแผ่วเบา

หยวนชิงหลิงสูดลมหายใจลึก ในหัวคล้ายมีระเบิดลูกใหญ่ระเบิดต่อเนื่องไม่หยุด ร่างกายร้อนลวกจากผลของการระเบิดต่อเนื่องนั้น

ครั้งนี้ ความหมายของเขาชัดเจนมาก

แต่อย่างไรก็ตาม เขาก็ปล่อยนางไปในที่สุด

ก่อนที่ทั้งสองคนจะควบคุมตัวเองไม่ได้ เขาก็ปล่อยมือ มองดูนางด้วยสายตาลึกซึ้ง แล้วหันหลังเดินจากไป

หยวนชิงหลิงเอนกายพิงลำต้นของต้นไม้ หายใจเข้าลึกๆ แบบไม่หยุด แต่ก็ยังไม่สามารถสงบจิตใจลงได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน