บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1285

เขาหันไปมองอ๋องฉีกับอ๋องซุน พวกเขาทั้งสองคนทุกข่าวนี้ทำให้ตกใจแย่แล้ว สายตาฉายแววกังวลไม่น้อยไปกว่าเขา แต่ก็ดูไม่สามารถทำอะไรได้

เขาถอนหายใจอย่างหนักอีกครั้ง มีเพียงตอนที่เกิดเรื่องแล้วถึงค่อยรู้ ใครที่มีความรับผิดชอบ ใครที่มีความสามารถรับมือกับสถานการณ์ได้

เจ้าห้าไม่มีทางกระวนกระวายเช่นนี้

“เสด็จพ่อ ลูกอยากไปเมืองซิ่วโจว” อ๋องฉีลุกขึ้นยืน ดวงตาแดงก่ำ อยากร้องไห้ก็ไม่กล้าร้องไห้ อดกลั้นมาทั้งคืนแล้ว

“อย่าสร้างปัญหาอีกเลย เจ้าไปแล้วสามารถช่วยอะไรได้?” ฮ่องเต้หมิงหยวนไม่ได้ต้องการคนกล้าหาญเพื่อที่จะไปแนวหน้า เขาต้องการคนที่มีวิธีสามารถช่วยเจ้าห้ากับช่วยเป่ยถัง แต่ใบหน้าเจ้าเจ็ดที่เจ็บปวดและเลื่อนลอยนั้น ไม่ได้ทำให้เขาได้คำตอบ

ตอนเที่ยงของอีกวัน นกพิราบส่งจดหมายฉบับที่สองมาแล้ว

เหลิ่งจิ้งเหยียนรีบอ่านจดหมายฉบับที่สอง ซึ่งไท่ซ่างหวงเขียนด้วยตนเอง บอกว่าหลังจากทานยาเม็ดจื่อจินแล้ว ก็ให้คนของสำนักเหลิ่งหลังสองคน พร้อมทั้งคนในยุทธภพบางส่วน ส่งกลับมายังเมืองหลวงให้พระชายารัชทายาทรักษา แต่เพราะร่างกายบาดเจ็บสาหัส ระหว่างทางอาจเกิดเหตุสุดวิสัย จึงให้ทางเมืองหลวงคิดหาวิธีไปรอรับ ไม่เช่นนั้นจะมีอันตรายอย่างร้ายแรง

ฮ่องเต้หมิงหยวนอ่านจนถึงประโยคสุดท้าย หัวใจเต้นอย่างรุนแรง

ไท่ซ่างหวงใช้ศัพท์รุนแรง แสดงว่าเจ้าห้าบาดเจ็บสาหัสอย่างมาก มีอันตรายต่อชีวิตได้ตลอด

เขารีบตามคนมาปรึกษา หลังจากปรึกษากันแล้ว เหลิ่งจิ้งเหยียนเสนอความเห็นว่า เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา และเพื่อไม่ให้ ได้รับผลกระทบจากการการเดินทาง ทำให้อาการยิ่งสาหัส คือให้หมอหลวงกับพระชายารัชทายาทออกเดินทางไปพร้อมกันจะดีที่สุด เพื่อไปเจอกันแล้วระหว่างทาง เช่นนี้สามารถย่นระยะเวลาในการเดินทางให้สั้นลง

แต่ก็ยังมีสิ่งที่ต้องกังวลอย่างหนึ่ง นั่นก็คือตอนนี้พระชายารัชทายาทกำลังตั้งครรภ์ หากบอกนางว่าเกิดเรื่องกับเจ้าห้า แล้วนางเป็นกังวล บวกกับต้องรีบเดินทาง นางจะสามารถทนรับได้ไหม?

หาก หาก ทางด้านองค์ชายรัชทายาทไม่สามารถช่วยไว้ได้ ทางด้านพระชายารัชทายาทก็เกิดเรื่อง นั่นเท่ากับเป็นการสูญเสียสองคนถึงสามคน เพราะนางยังตั้งครรภ์อยู่ด้วย

อ๋องฉีเสนอแผนการว่า “อาศัยตอนนี้พี่สะใภ้ห้ายังไม่รู้เรื่อง บอกนางว่าเกิดเรื่องกับพี่หก ให้นางรีบเดินทางไปรับ ขอเพียงนางรู้ว่าคนที่เกิดเรื่องไม่ใช่เจ้าห้า เช่นนั้นก็จะไม่มีความเป็นกังวลอย่างมาก ตลอดการเดินทางก็ไม่ต้องเครียดมาก”

ทุกคนเงียบไปสักพัก ถึงแม้แผนการนี้จะดูโง่เขลา แต่ตอนนี้ก็ถือว่าเป็นวิธีที่ดีอย่างหนึ่ง

และโชคดีที่ตอนนี้พระชายารัชทายาทยังไม่รู้เรื่อง ยังสามารถปิดบังไว้ได้

แต่เรื่องนี้ต้องพูดให้หรงเยว่เข้าใจก่อน และต้องให้หรงเยว่ร่วมเดินทางไปด้วย

เพราะตอนนี้หรงเยว่อาศัยอยู่ในจวนอ๋องฉู่ ดังนั้นฮ่องเต้หมิงหยวนมีคำสั่งให้ตามฮู่เฟยมาเข้าเฝ้า แล้วให้ฮู่เฟยตามหรงเยว่เข้าวัง

ฮู่เฟยกำลังเครียด ได้ยินว่ามีพระราชโองการของฮ่องเต้ นางก็รีบตามหรงเยว่เข้าวังมาทันที

ในใจของนางหวาดกลัว โชคดีที่ก่อนหน้านี้ได้ถามหวงกุ้ยเฟยแล้ว ไม่งั้นหากบอกพระชายาหวยไป ผลที่จะตามมาไม่สามารถคาดคิด

เดิมวันนี้หรงเยว่ก็ตั้งใจจะเข้าวัง เพียงแต่กลับไปยังสำนักเหลิ่งหลังก่อน หลังจากกลับจวนแล้วรู้ว่าฮู่เฟยให้ไปเข้าเฝ้า นางคิดว่าต้องเป็นเรื่องที่ถามเมื่อวาน จึงรีบเดินทางเข้าวัง

เดิมคิดว่าไปตำหนักของฮู่เฟย กลับคิดไม่ถึงว่าหลังจากเข้าวังแล้ว มู่หรูกงกงก็พานางไปยังห้องทรงพระอักษร

เข้าไปในห้องทรงพระอักษร มีองค์ชายกับเหล่าขุนนางอยู่เต็มห้อง มองดูนางด้วยท่าทีเคร่งขรึม นางตกตะลึงจนใจแทบสลาย

แล้วก็เป็นอย่างที่คาด อ๋องฉีมองดูนาง พร้อมพูดขึ้นอย่างจริงจังว่า “พี่สะใภ้หก เจ้าเดินทางไปเมืองซิ่วโจวพร้อมกับพระชายารัชทายาท ให้บอกว่าเกิดเรื่องกับเจ้าหก ชีวิตอยู่ในขีดอันตราย.....”

หรงเยว่ตาลาย แล้วก็เป็นลมไป

ทุกคนต่างตกใจ นี่.....

ฮ่องเต้หมิงหยวนตำหนิมู่หรูกงกงว่า “เจ้ายังไม่ได้บอกนางหรือ?”

มู่หรูกงกงรีบไปประคองหรงเยว่ พร้อมพูดขึ้นด้วยสีหน้าขาวซีดว่า “เรียนฮ่องเต้ กระหม่อมไม่กล้าพูด คิดว่ารอพระชายาหวยมาถึงแล้วค่อยพูด”

แข็งแกร่งอย่างหรงเยว่ยังเป็นลม พระชายารัชทายาทร่างกายอ่อนแอขนาดนั้น เกรงว่าฟังยังไม่ทันจบก็เป็นลมหยุดหายใจไปแล้ว

หรงเยว่ถูกช่วยให้ตื่นขึ้นมา มองดูทุกคนที่หน้าตาโศกเศร้า น้ำตาของนางไหลลงเหมือนประตูระบายน้ำ

อ๋องฉีรีบพูดขึ้นว่า “เจ้าหกไม่เป็นไร คนที่เกิดเรื่องคือเจ้าห้า”

หรงเยว่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ หัวใจที่หล่นตกไปอยู่ตาตุ่มค่อยโล่งอก น้ำตาก็หยุดไหลแล้ว แต่ก็ตกตะลึงนิ่งอึ้งอยู่ตรงนั้น เกิดเรื่องกับองค์ชายรัชทายาทแล้วจริงหรือ?

สิ่งแรกที่ในใจของนางคิดได้ก็คือ แย่แล้ว พระชายารัชทายาทต้องตกใจจนเป็นบ้าแน่

มู่หรูกงกงประคองนางนั่งลง นางรู้สึกเจ็บท้องน้อย เมื่อกี้นางตกใจจนเกินเหตุ เลือดทั้งกายพุ่งไปถึงสมองกับหัวใจทันที ทั้งล้มทั้งเป็นลม ไม่รู้ว่าส่งผลกระทบต่อครรภ์หรือเปล่า

ฮ่องเต้หมิงหยวนตามหมอหลวงมาตรวจดู บอกว่าไม่เป็นอะไรมาก อาจเป็นเพราะตกใจก็เลยส่งผลกระทบไปถึงครรภ์ ฮ่องเต้หมิงหยวนตกใจจนเหงื่อแตก แต่ก็เห็นด้วยกับวิธีการของอ๋องฉี ยังคงต้องใช้เหตุผลว่าเกิดเรื่องกับเจ้าหก ให้พระชายารัชทายาทรีบออกเดินทางโดยเร็ว

ฮ่องเต้หมิงหยวนมองดูหรงเยว่ที่ขวัญหนีดีฝ่อแวบหนึ่ง โชคดีที่ไม่เป็นอะไร

ตกใจไปแล้วครั้งนี้ สามารถเพิ่มความโน้มน้าวในใจได้ไม่น้อย

เขาพูดเตือนซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า ห้ามให้พระชายารัชทายาทรู้ว่าเกิดเรื่องกับเจ้าห้า แล้วค่อยให้อ๋องฉีส่งนางกลับจวนด้วยตนเอง

หรงเยว่นั่งอยู่ในเกี้ยว หัวใจยังคงเต้นรัว

สถานการณ์ขององค์ชายรัชทายาท น่าจะสาหัสอย่างมาก หากเป็นอะไรขึ้นมาจริงๆ ทิ้งลูกชายทั้งห้าคนยังมีในท้องอีก จะทำอย่างไรดี?

อยู่กับหยวนชิงหลิงมานานขนาดนี้ เห็นนางเป็นพี่น้องแท้ๆของตนแต่แรกแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างองค์ชายรัชทายาทกับเจ้าหกก็ดีอย่างมาก เกิดเรื่องเช่นนี้ หรงเยว่ก็อดไม่ได้ที่จะเสียใจ

ถึงแม้น้ำตาจะไม่ไหล แต่ก็อดกลั้นไว้หลายครั้ง ดวงตายังคงแดงก่ำ

กลับมาถึงจวนอ๋องฉู่ ไปหาหยวนชิงหลิงพร้อมกับอ๋องฉีอย่างขวัญหนีดีฝ่อ เมื่อเห็นนาง เข่าก็แทบทรุด ดึงมือหยวนชิงหลิง พร้อมพูดขึ้นอย่างสะอึกสะอื้นว่า “พระชายารัชทายาท เกิดเรื่องกับเจ้าหก เขาถูกลอบทำร้าย นกพิราบส่งจดหมายกลับมา บอกว่าเขาบาดเจ็บสาหัส ทานยาเม็ดจื่อจินแล้ว ตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างทางส่งกลับมาเมืองหลวง เสด็จพ่อตรัสว่า....”

หรงเยว่ไม่สามารถพูดต่อไปได้ มองดูใบหน้าหยวนชิงหลิง แล้วในใจของนางทรมานอย่างมาก

หยวนชิงหลิงตกตะลึง ประคองหรงเยว่แล้วมองดูอ๋องฉีที่อยู่ด้านหลัง สีหน้าอ๋องฉีโศกเศร้าเจ็บปวด พร้อมพูดต่อจากหรงเยว่ว่า “ใช่ เสด็จพ่อตรัสว่า ให้พระชายารัชทายาทออกเดินทางไปเจอเจ้าหกระหว่างทาง เพื่อทำการรักษาได้อย่างรวดเร็ว กลัวว่าระหว่างเดินทางจะเกิดอะไรขึ้น”

หยวนชิงหลิงสูดหายใจเข้าลึกๆ รีบย่อยข่าวนี้อย่างรวดเร็ว ทานยายาเม็ดจื่อจินแล้ว น่าจะสามารถทนได้หลายวัน แต่เดิมร่างกายอ๋องหวยก็ไม่ค่อยดี และก็ไม่มีกำลังภายในปกป้อง สามถึงห้าวันเป็นเวลาที่มากที่สุดแล้ว จากเมืองซิ่วโจวมาถึงเมืองหลวง ไม่สามารถเดินทางได้อย่างรวดเร็ว อาจต้องใช้เวลาสิบวันถึงครึ่งเดือนก็เป็นไปได้ ดังนั้นจึงต้องเป็นนางรีบเดินทาง ไปเจอเขาโดยเร็วที่สุด

นางมองดูใบหน้าขาวซีดของหรงเยว่ รู้ว่านางตกใจอย่างมาก ไม่ทันได้สนใจปลอบโยน รีบสั่งคนเก็บของ เตรียมรถม้า แล้วออกเดินทางทันที

นางก็ต้องกลับไปดูเจ้าแฝดสอง ถึงแม้จะไม่มีไข้แล้ว หน้าผากก็บอกว่าไม่เจ็บแล้ว แต่ยังไงก็ต้องตรวจดูก่อนถึงจะวางใจ

ทังหยางฟังอยู่ด้านนอกประตู แล้วรีบออกไปจัดเตรียม อ๋องฉีไล่ตามมา พร้อมพูดขึ้นว่า “บนรถม้าจะต้องปูด้วยเตียงนุ่ม ตอนนี้พี่สะใภ้ห้ากำลังตั้งครรภ์ ใต้เท้าทัง ข้าถามเจ้า ในจวนมียาล้ำค่าอะไรไหม.....”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน