ท่านชายสี่ฟังนางกล่าวเงียบๆ มองดูนัยน์ตาที่ค่อยๆเปล่งประกายขึ้นของนาง แก้มก็แดงก่ำเป็นปื้น รู้ว่าคำพูดนี้ของนางเป็นความจริงใจ และไม่ได้เป็นการถูไถๆไป
เขายื่นมือเข้าไป กุมมือที่อ่อนนุ่มของนางช้าๆ กล่าว “แต่งงานหลายปีแล้ว นอนเตียงเดียวหมอนเดียวกัน แต่ตั้งแต่ต้นข้ากลับไม่เคยแตะต้องเจ้า มีการไตร่ตรองสามอย่าง อย่างแรก ร่างกายของเจ้าก็ไม่ดี เมื่อข้าและเจ้าเข้าหอ ก็จำเป็นจะต้องให้กำเนิดบุตรชายบุตรสาว ใช้ยาคุมกำเนิดใดๆ ก็ล้วนเป็นยาที่มีฤทธิ์เย็นเป็นหลัก วิธีที่ดีที่สุดคือรอบำรุงให้สุขภาพของเจ้าดีแล้ว อายุมากสักหน่อย ทำให้อันตรายในเวลาให้กำเนิดบุตรของเจ้าลดต่ำลงที่สุด จุดที่สอง แม้ว่าข้าจะเป็นคนทำการค้า แต่ข้าก็ถือว่าเป็นคนในยุทธภพครึ่งหนึ่ง ฐานะของพวกเราแตกต่างกัน ประสบการณ์ในการเติบโตไม่เหมือนกัน เจ้าอยู่ในวังกินอยู่อย่างดี ข้าคลุกคลีอยู่ในวงการการค้าและยุทธภพ หากเจ้าไม่คุ้นเคยกับความเสียงดังวุ่นวายของแสงสีเช่นนี้ เช่นนั้นการแต่งงานของพวกเราก็เป็นความผิดพลาดอย่างหนึ่ง อย่างที่สาม ก็คือเช่นที่ข้าได้กล่าวไปเมื่อครู่นั้น แต่งงานกับข้าเพราะการบีบคั้นของพระราชโองการ เจ้าจะเสียใจหรือไม่ ก่อนหน้านี้สองคำถามนี้ไม่ได้สำคัญที่สุด มีเพียงแค่อย่างเดียว คือเจ้ารักข้าหรือไม่ พวกเรารักกันหรือไม่ เป็นเงื่อนไขพื้นฐานที่สุด ข้าให้เวลาเจ้าเสียใจอย่างพอเพียง เพราะทันทีที่พวกเรากลายเป็นสามีภรรยากันจริงๆ ก็ไม่สามารถที่จะปล่อยมืออีกฝ่ายได้โดยง่ายดาย พวกเราต้องมุ่งหน้าไปตลอดชีวิต”
ในตาของหยู่เหวินหลิงมีหมอกพวยพุ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
แต่ไหนแต่ไรท่านชายสี่ก็ไม่ใช่คนพูดมาก เขาถึงกระทั่งทั้งวันไม่พูดสักประโยคก็ได้ วันนี้เขาพูดมากมาย เคาะเข้าไปที่ก้นบึ้งในจิตใจของนางทีละคำๆ สั่นสะเทือนจิตวิญญาณของนาง ก่อนหน้านี้นางเคยคาดคะเนมาก่อน ที่เขาบอกว่าบำรุงร่างกายของนางเป็นข้ออ้างของหนึ่งหรือไม่ หรือตั้งแต่ต้นเขาก็ไม่อยากแต่งงานกับนางสักนิด
นางไม่กล้าถาม เพราะมีคำพูดบางคำที่ถามออกไป พอได้คำตอบมาก็ไม่มีทางแกล้งโง่ได้อีก
นางยอมเป็นคนโง่เง่า เฝ้าอยู่ข้างกายของเขาเงียบๆ
แต่จนถึงนาทีนี้ นางจึงได้รู้ว่าที่แท้เขาก็พิจารณาอย่างลึกซึ้งและยาวไกลเพียงนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาพูดว่าชั่วชีวิตนี้ก็ไม่ปล่อยมือฝ่ายตรงข้ามอย่างง่ายดาย พวกเขาต้องเป็นชั่วชีวิต นาทีนี้ ความสุขที่นางไม่เคยมีมาก่อนพรั่งพรูขึ้นมา
น้ำตาคลอเบ้าตาของนาง นางกุมมือเขากลับ กล่าวอย่างแน่วแน่ “ข้าไม่เสียใจ ข้าชอบท่าน ข้าต้องการเป็นภรรยาของท่าน อยู่กับท่านทั้งชีวิต จะไม่ยอมแยกจากท่านสักวันหนึ่ง”
ริมฝีปากของท่านชายสี่ยกขึ้นเล็กน้อย ในดวงตาเอ่อล้นไปด้วยความสุข จับมือของนางมาค้ำยันที่ทรวงอกตัวเอง “ดี!”
คนทั่วหล้าร่วมเฉลิมฉลองวันนี้ ทุกหนทุกแห่งล้วนครึกครื้นเป็นพิเศษ อ๋องชินทั้งหลายพร้อมครอบครัวและลูกๆ องค์หญิงทุกท่านพร้อมราชบุตรเขยของตนเอง ลูกหลานเชื้อพระวงศ์มารวมตัวกันในวัง ขุนนางระดับสี่ขึ้นไปของเมืองหลวงพาครอบครัวและลูกๆเข้าวัง ตำหนักมิงที่จัดงานเฉลิมฉลอง ศีรษะผู้คนพลุกพล่าน เสียงผู้คนอึกทึกครึกโครม
หอจัยซิงที่อยู่ข้างพระตำหนักฉินคุน เมื่อสิ้นสุดยามโหย่ว จุดดอกไม้ไฟ ดอกไม้ไฟที่แวววับจับตากระจายอยู่กลางท้องฟ้าอันมืดมิด ราวกับต้นไม้ที่มีดอกไม้สีสันงดงามเปล่งประกายระเบิดเป็นความปลื้มปีติของทุกคนทั่วทั้งเป่ยถัง ทุกคนแหงนหน้ามอง จิตใจเต็มไปด้วยความสุขที่ชนะสงครามซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตื่นเต้นสุดขีด
หยู่เหวินเห้าจับมือของหยวนชิงหลิง ทั้งสองมองหน้ากัน นัยน์ตาฉายเงาของดอกไม้ไฟ ชัยชนะครั้งนี้ พวกเขามีสิทธิ์ที่จะเฉลิมฉลองที่สุด
เขาไม่สนใจบรรดาผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ เอื้อมมือไปกอดนางไว้ กอดนางเข้าสู่อ้อมอก ฟังเสียงหัวใจที่ตื่นเต้นของกันและกัน
หลังจากดอกไม้ไฟ การกล่าวสุนทรพจน์ของฮ่องเต้หมิงหยวนและรัชทายาท
หยวนชิงหลิงมองดูหยู่เหวินเห้าเดินไปท่ามกลางผู้คนนับพัน เกียรติยศที่ไร้ขีดจำกัดถาโถมอยู่บนตัวของเขา สายตาที่ขุนนางมองดูเขา เต็มเปี่ยมไปด้วยความเคารพยำเกรงและรักใคร่เทิดทูน ยิ่งแฝงไปด้วยความหวัง ก้นบึ้นจิตใจของนางเป็นความภาคภูมิใจที่อธิบายไม่ออก
นี่คือผู้ชายของนาง!
อ๋องอานสามีภรรยาจูงมือกันยืนขึ้น มองดูหยู่เหวินเห้าที่เปล่งประกายโชติช่วงออกมา แววตาของอ๋องอานค่อนข้างซับซ้อน ทว่า เมื่อมองดูภรรยาข้างกาย รอยยิ้มของเขากลับบริสุทธิ์ขึ้นมาอีกครั้ง จับมือนางไว้แน่น กระซิบข้างหูนางว่า “เขาเป็นผู้ที่สมควรได้รับความเคารพเลื่อมใสจากคนนับหมื่น”
พระชายาอานตะลึงงัน มองมาที่เขา นัยน์ตาร้อนผ่าวอย่างรวดเร็ว น้ำตาแทบจะไหล ความยินดีในชัยชนะจะเทียบได้กับประโยคนี้ของเขาได้ที่ไหนกัน?
เขามั่นใจน้องห้า ยอมรับให้เขาเป็นรัชทายาทแล้ว
แม้จะไม่มีผู้ใดต้องการความมั่นใจของเขา ไม่มีผู้ใดต้องการการยอมรับของเขา รัชทายาทก็คือรัชทายาท แต่นางต้องการนี่ นางต้องการให้เขาปล่อยวางความไม่เต็มใจและความคับข้องใจลงเหลือเกิน นางต้องการให้พวกเขามีเป้าหมายอันหนึ่งอันเดียวกันมาก เพื่ออานจือ การก้าวเดินของพวกเขา กลับมาสู่จุดเริ่มต้นแล้ว
พวกเขากอดกันในฝูงชน!
ข้างๆพวกเขา คืออ๋องซุนสามีภรรยา
ตั้งแต่ที่หยู่เหวินเห้าค่อยๆเดินจากฝูงชนขึ้นไปบนเวทีของตำหนักมิงอ๋องซุนก็จับตามองเขาอยู่ตลอด ในตาเต็มเปี่ยมไปอารมณ์ความรู้สึกที่สับสนแต่ละอย่าง มากยิ่งกว่าคือความอิจฉา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...