ฮ่องเต้หมิงหยวนฟังจนเหงื่อซึมไหลลงอยู่อย่างเยือกเย็น เขาอยากพูดชี้แจง แต่กลับพบว่าไม่สามารถพูดชี้แจงได้
อ๋องชินเฟิงอันพูดต่อไปว่า “แต่งตั้งองค์ชายรัชทายาท เจ้าไม่ทดสอบความสามารถของว่าที่กษัตริย์ เห็นความชอบความรักอย่างลำเอียงเป็นหลัก ยกย่องคนประจบสอพลอ คนที่ไม่เชื่อฟัง ไม่นำมาพิจารณาเลยสักนิด จนเกิดการแย่งชิงกันอยู่เนิ่นนาน ทำลายประเทศให้สั่นคลอน สุดท้ายกลายเป็นข่าวอื้อฉาวที่โจษจันกันไปทั้งเมือง จนถึงแต่งตั้งหยู่เหวินเห้าเป็นองค์ชายรัชทายาท ในใจเจ้าไม่พอใจ กลัวมาตลอดว่าจะเป็นการกระทำที่ผิด ยอมตามใจหยู่เหวินอันครั้งแล้วครั้งเล่า หากไม่ใช่เพราะองค์ชายรัชทายาทยับยั้ง จนถึงตอนนี้ความทะเยอทะยานของหยู่เหวินอันไม่เคยหยุด ยังมีเรื่องเขาโรคเรื้อนอีก ตอนนั้นสภาวะในประเทศย่ำแย่มาก ชายแดนถูกก่อกวนหลายครั้ง เซียนเปยกับเป่ยโม่จ้องตาเป็นมัน คนมีฝีมือส่วนใหญ่ในประเทศล้วนถูกย้ายไปประจำที่ชายแดน รอเมื่อเจ้าขึ้นครองราชย์ เดิมสามารถจัดการดูแลการดำรงชีวิตของผู้คนภายในประเทศ ปฏิรูปการรักษาทางการแพทย์ การศึกษา แต่เจ้าไม่ทำสักอย่าง ยังคงทำตามแบบที่พ่อของเจ้าเคยทำอย่างไม่มีทางเลือกในตอนนั้น จนเมื่อพระชายารัชทายาทรักษาโรคเรื้อนหายได้ เจ้ารู้สึกว่าปลอดภัยแล้ว ถึงค่อยตั้งใจปฏิรูป หลายปีมานี้ เจ้าไม่ได้ทำผิด แต่เจ้าก็ไม่มีคุณความดี ก่อนหน้านี้ตอนที่จะนำกำลังไปรบเป่ยโม่ เจ้ายังบ่ายเบี่ยงหลายครั้ง ทำให้พลาดเวลาที่เหมาะสมที่สุด โชคดีที่องค์ชายรัชทายาทไม่เชื่อฟังเจ้า แอบเอาอาวุธเข้ามา ไม่เช่นนั้น พระราชวังเป่ยถังในตอนนี้ เลือดของคงนองกลายเป็นแม่น้ำแต่แรกแล้ว ยังจะมีเจ้านั่งอยู่บนบัลลังก์ แล้วสั่งเหล่าขุนนางอย่างในวันนี้หรือ?”
“ส่วนตัวเจ้าพูดเอง อย่างมากที่สุดคงพูดได้เพียงว่าปีหลังขึ้นครองราชย์ เจ้าไปเยี่ยมพื้นที่เกิดภัยพิบัติน้ำท่วม ไม่ได้หลับไม่ได้นอนสามวันสามคืน เรื่องนี้เจ้าถูกยกย่องชื่นชมเป็นเวลาหนึ่งปี มีคนพูดถึงเจ้าว่าเป็นกษัตริย์ที่ชาญฉลาดตลอดทั้งปี แต่จนถึงตอนนี้ เจ้าก็ไม่เคยมีพระราชโองการสร้างเขื่อน ภัยอันตรายจึงยังคงมีอยู่”
“หลายปีมานี้ เจ้าสามารถอยู่รอดมาได้อย่างสบาย ไม่ใช่เพราะว่าเจ้าโชคดี แต่เพราะมีฉู่เสี่ยวอู่ หลังจากพ่อของเจ้าสละบัลลังก์ เดิมฉู่เสี่ยวอู่ไม่จำเป็นต้องรับตำแหน่งโสวฝู่ เพื่อสนับสนุน สุขภาพร่างกายของเขาย่ำแย่ แต่ก็ยังคงรับตำแหน่งโสวฝู่ แต่เจ้ากลับทำให้เขาลำบากใจ หลายปีมานี้ แค่ช่วยตามแก้ปัญหาให้เจ้า ก็สูญสิ้นกำลังทั้งหมดของเขาแล้ว ช่วยเจ้าฟื้นฟูด้านการเกษตร กดดันการค้าขาย เกษตรกรใดๆ ล้วนได้รับการยกย่อง เพื่อเพิ่มจำนวนคนทำการเกษตร ฟื้นฟูพื้นที่รกร้าง เจ้านิรโทษกรรม ไม่ว่าจะเป็นนักโทษประหารหรือนักโทษเนรเทศ เจ้าล้วนส่งไปยังพื้นที่บุกเบิก เมื่อบุกเบิกได้สามปี ก็ยกโทษให้เขาและออกหนังสือรับรองการเป็นพลเมืองดี นำไปสู่การฆาตกรรมในท้องถิ่นเพิ่มขึ้นทุกปี โสวฝู่เดินทางไปทุกเมือง สั่งการให้ที่ทำการปกครองแต่ละเมืองตั้งทีมปราบสังหารขึ้นเป็นพิเศษ จนเกือบเหนื่อยตายระหว่างทาง และเรื่องประมาณนี้ยังมีอีกมากมาย ยกตัวอย่างไม่หวาดไม่ไหว เจ้ายังมีหน้าพูดว่าเจ้ามีคุณความดี เป็นกษัตริย์ที่ดีหรือ? เจ้าอย่าเถียงว่าตอนสมัยเสด็จพ่อของเจ้าก็เคยทำเช่นนี้ เพราะตอนนั้นเขาไม่มีทางเลือก ทำการศึกสู้รบหลายปีขนาดนั้น ประเทศชาติอ่อนแอ ไม่มีคนแล้ว จึงทำได้เพียงเช่นนี้ แต่เจ้าไม่มีความจำเป็น ตอนที่เขาสละบัลลังก์ ได้จัดการสิ่งกีดขวางส่วนใหญ่ให้เจ้าแล้ว”
สีหน้าฮ่องเต้หมิงหยวนซึมเศร้า เขาไม่สามารถเถียงอ๋องชินเฟิงอันได้ เขาไม่ใช่กษัตริย์ที่ดีจริงๆ
หลังจากอ๋องชินเฟิงอันพูดถึงเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมาแล้ว มองดูท่าทีของเขาพร้อมพูดขึ้นว่า “แต่ถึงแม้เจ้าจะไม่มีคุณความดี แต่ก็ไม่มีความผิด และเจ้าก็ไม่ใช่กษัตริย์ที่ไร้ความสามารถ เจ้ารู้จักแยกแยะถูกผิด มีใจรักประชาชน ขยันหมั่นเพียร ไม่หลงระเริงในความเพลิดเพลิน เห็นงานราชการเป็นหลัก ประชาชนยินยอมเรียกเจ้าว่าเป็นกษัตริย์ที่ดี ไม่ใช่เพราะความสำเร็จอะไรของเจ้า แต่เป็นเพราะเจ้าไม่ได้สร้างความโกลาหลให้กับแผ่นดินนี้ จริงนี้ข้าไม่โทษเจ้า ตอนนั้นที่แต่งตั้งเจ้าเป็นองค์ชายรัชทายาท ก็เพราะเจ้ามีความรักต่อประเทศชาติ ขยันหมั่นเพียร ยอมทุกข์เพื่อเป่ยถัง ให้ความสำคัญต่อประเทศมากกว่าตนเอง แต่เมื่อเจ้าไม่มีสิ่งเหล่านี้อีกต่อไป เจ้าก็ไม่คู่ควรที่จะเป็นฮ่องเต้ ตอนนี้ดูเหมือนแผ่นดินสงบสุขแล้ว เจ้าก็เริ่มให้ความสำคัญตนเองขึ้นมา เริ่มเอาแต่ใจ แต่เสด็จพ่อของเจ้ากับโสวฝู่ ภายในช่วงเวลาสิบปีที่เจ้าเป็นกษัตริย์นี้ ทำเพื่อเจ้าจนหมดเรี่ยวแรงแล้ว กลับครั้งนี้ที่ต้องไปทำศึกกับเป่ยโม่อีก พวกเขายังจะมีเรี่ยวแรงมองดูเจ้าไร้ความสามารถต่อไปหรือ? ถึงเวลาที่เจ้าควรปฏิรูปเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เจ้ากลับยังอยู่นิ่งไม่เดินหน้า กระทั่งเอาแต่ใจในสภาวะเช่นนี้ เจ้าคิดว่า ตำแหน่งฮ่องเต้นี้เจ้ายังควรที่จะเป็นต่อไปไหม? ข้าไม่ไหวหน้าเจ้า นำกองกำลังมาล้อมพระราชวัง ก็เพื่อบอกเจ้าว่า หากเจ้าไม่เป็นฮ่องเต้ที่ดี ข้าสามารถมาแทนที่เจ้าได้ทุกเมื่อ เจ้าสามารถเลือกที่จะไร้ความสามารถต่อไป และสามารถเลือกใช้คนที่เหมาะสม ล้มล้างการปกครอง อนุรักษ์น้ำให้เจริญรุ่งเรือง ซ่อมแซมถนน พัฒนาการเกษตรเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ยกระดับความแข็งแกร่งทางทหารของประเทศ รักษาแผ่นดินเป่ยถังให้มั่นคง เพราะภายในยี่สิบปีข้างหน้านี้ มีความสำคัญอย่างมาก มีเพียงเป่ยถังสามารถทำได้อย่างที่ข้าพูดพวกนั้น ถึงจะสามารถเทียบเท่ากับแคว้นต้าโจว แคว้นต้าเยว่ และแคว้นต้าซิงต่างๆ ไม่เช่นนั้น จะยังคงล้าหลัง”
ฮ่องเต้หมิงหยวนฟังจนในใจเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวเย็น รู้สึกว่าเลือกทั้งตัวพุ่งไปที่หัว แล้วก็หายวับไปทันใด เหงื่อซึมทั่วตัว เขาคิดมาตลอดว่าตนเองทำได้ไม่เลว ประชาชนเองก็คิดเช่นนี้ แต่ก็เป็นเพียงฝันกลางวันของเขา ในใจยังคงรู้สึกละอายใจ แสดงว่าอ๋องชินเฟิงอันพูดไม่ผิด เขาไม่ได้ทำผิด แต่ก็ไม่มีความดี
และอ๋องชินเฟิงอันพูดเน้นย้ำการพัฒนาภายในยี่สิบนี้ เหมือนไท่ซ่างหวงเคยพูดกับเขาไม่มีผิด แต่เขาไม่รู้สึกว่าจะต้องรีบร้อนในตอนนี้ เพราะตอนนี้สามารถเอาชนะเป่ยโม่ ยังได้ลงนามในข้อตกลงสันติภาพ หากเป่ยโม่ผิดสัญญา เป่ยถังสามารถขอความร่วมมือกับแคว้นต้าซิง โจมตีเป่ยโม่ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...