บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1417

เพราะว่าที่ดูเป็นสามมิติ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องสวมแว่นตาสามมิติ พวกเขาให้ความร่วมมือเป็นอย่างมาก หลังจากรื้อถอดรถแล้ว พวกเขาก็สามารถระงับความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองได้ หยวนชิงหลิงบอกให้พวกเขาทำอะไร แม้ว่าจะไม่เข้าใจ พวกเขาก็ทำ

ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์วันสิ้นโลก บอกว่าดาวเคราะห์น้อยดวงหนึ่งกำลังจะชนโลก โลกจะต้องพังทลาย มนุษย์จะหลบหนีออกจากโลกโดยยานอวกาศภายในสามวัน

สัมผัสได้ถึงวิทยาศาสตร์เต็มอิ่ม และสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นมนุษย์ได้ สามผู้ยิ่งใหญ่ดูจนปากอ้าตาค้าง คิดไม่ถึงว่าละครใหญ่จะแสดงเช่นนี้ได้อีกด้วย

พวกเขายังคงรักษาความนิ่งเงียบไว้เป็นอย่างสูง เพราะแม้แต่การสูดลมหายใจก็กลั้นไว้แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในตอนสุดท้ายที่ได้เห็นคนส่วนหนึ่งนั่งยานอวกาศจากไปแล้ว ดาวเคราะห์น้อยพุ่งชนไปทางโลกนาทีนั้น ฉากนั้นน่าสะเทือนใจจนหัวใจของคนแทบจะหยุดเต้น

“นี่......นี่เป็นความจริงหรือ? ถ้าไม่จริง จะถ่ายออกมาได้อย่างไร?” โสวฝู่ก็ตกใจเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะรู้ว่าละครที่ฉายในโทรทัศน์ล้วนเป็นการถ่ายทำออกมา แต่ก่อนหน้านี้ดูโทรทัศน์ แม้ว่าจะเกินจริงเพียงใด ก็สามารถทำได้ แต่เช่นนี้ทำได้อย่างไรกันล่ะ?

หยวนชิงหลิงที่อยู่ด้านข้างบอกกับพวกเขาว่า“นี่ไม่ใช่การถ่ายออกมาจริงๆ แต่เป็นเอฟเฟกต์พิเศษของคอมพิวเตอร์ ทำในคอมพิวเตอร์ ตอนกลางคืนข้าจะพูดถึงหลักการนี้ให้พวกท่านฟัง”

“เรือลำใหญ่ขนาดนั้น ก็ไม่ใช่ของจริง?” เซียวเหยากงสนใจเรือลำนั้นมาตลอด เรือลำใหญ่ขนาดนี้ สร้างขึ้นมาต้องใช้ความสามารถมากเพียงใดกันน่ะ? อีกทั้ง เรือไม่ได้แล่นในทะเล สามารถบินขึ้นท้องฟ้าได้ นี่ช่างน่าทึ่งมากเกินไปแล้ว

“อืม ล้วนเป็นเอฟเฟกต์พิเศษทั้งหมด”

“มิน่าล่ะ ข้าก็ว่า เรือจะสามารถบินขึ้นไปบนท้องฟ้าได้อย่างไรกันล่ะ?” เซียวเหยากงกล่าวพึมพำ แต่ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงขณะที่อายุยังน้อยที่ได้เห็นอาจารย์ขี่ของสิ่งนั้นลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า ก็ตะลึงงันแล้ว ถามหยวนชิงหลิงว่า “เครื่องบินที่พวกเราดูในโทรทัศน์นั่น คือสามารถบินขึ้นท้องฟ้าได้จริงๆหรือ?”

“เครื่องบินสามารถบินได้ เป็นพาหนะในการเดินทางชนิดหนึ่ง ถ้าหากพวกท่านอยากนั่ง ข้าก็สามารถพาพวกท่านไปนั่งได้” หยวนชิงหลิงกล่าว

ทั้งสามไม่ได้พูดจา เพียงแต่รู้สึกทึ่งเกินไป สามารถบินขึ้นไปบนท้องฟ้าได้จริงเหรอ? เช่นนั้นหากว่าตกลงมาจะทำอย่างไรล่ะ?

ไม่กล้านั่งหรอกนะ

ดูหนังจบ ในหัวสมองของทั้งสามคนล้วนปรากฏเครื่องหมายคำถามมากมาย แต่กลับไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน

หยวนชิงหลิงหาสถานที่นั่งลงกับพวกเขา เริ่มพูดถึงเค้าเรื่องในภาพยนตร์ บอกว่าอะไรที่ตอนนี้สามารถทำได้แล้ว อะไรคือเอฟเฟกต์พิเศษ แต่ในอนาคตก็มีความหวังว่าจะสามารถทำได้

หยวนชิงโจวก็อธิบายด้วยความอดทนเป็นอย่างมาก พวกเขาตื่นตะลึงต่อเรื่องนี้เป็นอย่างมากขนาดนี้ โดยหลักๆคือคิดไม่ถึงว่ามนุษย์ยังจะพัฒนาได้จนถึงขั้นนี้ พวกเขาไม่มีจินตนาการในเรื่องของอวกาศ แต่พวกเขาเฉลียวฉลาดมาก อธิบายเช่นนี้ไปรอบใหญ่ๆ โดยพื้นฐานก็สามารถเข้าใจได้ไม่มาก

สำหรับเรื่องตื่นตะลึงเช่นนี้แล้วพวกเขาทั้งสามคนกลับไม่ได้พูดพล่ามเหมือนการศึกษารถ ศึกษาที่ล็อกประตูและโคมไฟระย้าเช่นนั้น เพราะว่า สิ่งเหล่านี้พวกเขาแม้แต่จะถามก็ไม่ได้ถามออกมา ราวกับเป็นความฝันเช่นนั้น ทุกอย่างเป็นเหมือนการเพ้อฝันเช่นนั้น

รอจนเกือบถึงเวลา จึงขับรถไปที่หอท้องฟ้าจำลอง

หอเปิดตอนสองทุ่ม ก่อนหน้านี้จองตั๋วในอินเทอร์เน็ตไว้แล้ว ถึงเวลาแล้วก็สามารถเข้าไปได้

เมื่อเข้าไปในหอ มาถึงส่วนของลานกล้องโทรทรรศน์ดูดาว โสวฝู่เอ่ยถาม“ไม่ได้บอกว่าสังเกตปรากฏการณ์ท้องฟ้าตอนกลางคืนหรือ? ทำไมไม่ได้ขึ้นไปที่ชั้นบนสุดล่ะ?”

หยวนชิงหลิงชี้ไปที่กล้องโทรทรรศน์อันหนึ่งบนลานแล้วกล่าว“พวกเราจะดูดวงจันทร์ผ่านที่นี่ ไม่ต้องขึ้นไปชั้นบนสุด ปกติแล้วที่นี่จะไม่เปิด วันนี้มีกิจกรรม พวกเราถือโอกาสที่คนไม่ได้เยอะมาก ไปต่อแถวดูก่อน”

“ดูดวงจันทร์? แค่เงยหน้าก็มองเห็นแล้วนี่!” เซียวเหยากงพูดแล้วก็เงยหน้าขึ้น พระจันทร์เต็มดวงลอยอยู่บนท้องฟ้า เขามองเล็กน้อย ส่ายหน้า “ไม่ใช่ข้าจะว่านะ ความจริงจะดูดวงจันทร์ก็ดี ดูปรากฏการณ์ดวงดาวก็ดี ที่พวกเราทางนั้นยังจะดูได้ชัดเจนซะกว่า พวกเจ้าที่นี่ มืดครึ้ม ดูไม่ค่อยชัดเจนนัก”

“เกิดจากมลพิษ อากาศของที่นี่ไม่ดีเหมือนเป่ยถังของพวกเรา!” หยวนชิงหลิงลากไท่ซ่างหวงขึ้นไปรอครู่หนึ่ง หยวนชิงโจวมองดูก่อน จากนั้นกล่าว“ดูได้แล้ว ปรับมุมมองดีแล้ว ดูตอนนี้ ชัดเจนมาก”

หยวนชิงหลิงให้ไท่ซ่างหวงพวกเขาทำเหมือนพี่ชายเมื่อครู่นั้น เอาดวงตาเข้าไปใกล้ๆ มองดูภาพด้านใน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน