ไท่ซ่างหวงมีแผนการแล้วจริง ๆ รอจนฮ่องเต้หมิงหยวนกลับไปด้วยอาการงุนงงสงสัย เขาจึงเรียกให้เซียวเหยากงไปทำเรื่องหนึ่ง นั่นคือไปปรับปรุงซ่อมแซมจวนอ๋องซู่ ซึ่งเคยเป็นที่พำนักเดิมของฮ่องเต้ฮุยจงเสียใหม่ ไม่ต้องซ่อมให้ดีมากก็ได้ แค่ให้อยู่ได้ก็พอ
เซียวเหยากงพูดว่า “เช่นนั้นก็ง่ายมาก ทำความสะอาดสักสองสามวันก็เข้าไปอยู่ได้แล้ว ถ้าไม่ผิดจากที่คิดก็แค่ซื้อเครื่องเรือนเพิ่มเสียหน่อย ทำไมรึ? เจ้าอยากจะย้ายกลับไปที่นั่น?”
“ ย้ายกลับไป พี่เหว่ยก็ย้ายกลับไปด้วย!” ไท่ซ่างหวงตอบ
“เขาจะยอมย้ายกลับไปหรือ? เกรงว่าเขาจะไม่ยอมน่ะสิ?” เซียวเหยากงพูดพลางส่ายหน้า
“เขาจะยอม!” ไท่ซ่างหวงพูดอย่างหนักแน่น
ตอนที่อยู่ในยุคปัจจุบัน เขาเคยบอกว่า จะไม่ล้มเลิกกิจการของหอจัยซิง พูดคำไหนต้องเป็นคำนั้น และเขาจะพยายามอย่างหนักเพื่อให้เรื่องนี้เป็นจริงอย่างแน่นอน
ก่อนงานแต่งของฮุ่ยเทียนกับฮูหยินเหยา สามผู้นำยักษ์ใหญ่ก็พาอ๋องชินเฟิงอันสามีภรรยาเข้าไปที่จวนอ๋องซู่ ด้านหลัง มีกลุ่มคนชุดดำที่สลัดอย่างไรก็ไม่หลุด พร้อมกับบรรดาหญิงชราอีกหลายคนเดินตามเข้าไปเป็นพรวน
ไท่ซ่างหวงยังเชิญหยวนชิงหลิงมาเป็นกรณีพิเศษ ให้นางไปอยู่กับพระชายา เกลี้ยกล่อมให้พระชายายอมอยู่ที่จวนอ๋องซู่ ไท่ซ่างหวงพูดกับนางด้วยน้ำเสียงที่จริงจังอย่างยิ่งว่า “นี่อาจจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากลำบาก แต่มันเป็นภารกิจที่ต้องทำให้สำเร็จไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม”
หยวนชิงหลิงรู้เรื่องราวของพวกเขาในตอนนั้นอยู่บ้าง และรู้ว่านี่เป็นปมที่ค้างอยู่ในใจของไท่ซ่างหวง อีกทั้งหากไท่ซ่างหวงได้กลับไปอยู่ที่จวนอ๋องซู่ ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีเรื่องหนึ่ง ใบไม้ร่วงคืนสู่ราก คนเราพอถึงช่วงบั้นปลายชีวิต ต่างก็อยากได้กลับอยู่ในที่ที่เคยอยู่ในวัยเด็ก ดังนั้นนางจึงรับปาก ทั้งยังสัญญาว่าจะพยายามให้ดีที่สุด เพื่อทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ
ไท่ซ่างหวงถอนหายใจ “พวกเขาขายหมู่ตึกเหมยไปแล้ว แต่ยังต้องเข้าวังไปขอฮ่องเต้ผ่อนจ่ายถึงสามสิบปีเพื่อที่จะซื้อหมู่ตึกเหมยคืน ข้าไม่อาจปล่อยให้พวกเขาอยู่บนภูเขาต่อไปได้ พวกเขาจำเป็นต้องกลับมา แผ่นดินนี้ยังมีที่ภาระหน้าที่ส่วนของพวกเขาอยู่ "
หยวนชิงหลิงพูดว่า "ท่านวางใจเถอะเพคะ ข้าจะพูดเกลี้ยกล่อมพระชายาให้เอง ขอแค่พระชายากลับมา ท่านอ๋องก็จะกลับมาด้วยอย่างแน่นอน"
“ อื้ม ข้าก็คิดอย่างนั้น แต่ต้องให้เร็ว ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะออกจากเมืองหลวงไปเสียก่อน”
“อื้ม ได้!” หยวนชิงหลิงตอบรับ
จวนอ๋องซู่ที่ได้รับการซ่อมแซมอย่างเรียบง่าย ให้ความรู้สึกว่าไม่ได้แตกต่างไปจากความทรงจำมากนัก เมื่อเดินเข้าสู่ทางเข้าหลัก เงาผนังที่เปิดอ้าอยู่ มองไม่เห็นประตูของห้องโถงใหญ่ เมื่อมองผ่านเงาของผนังไปก็เห็นต้นไม้สูงตระหง่าน ขั้นบันไดหิน ผนังที่เป็นรอยกระด่างกระดำบางส่วนร่วงหล่นอยู่ที่พื้น เคลือบไปตามระเบียงทางเดิน ใบไม้ที่ร่วงหล่นถูกกวาดไปกองอยู่ที่มุมหนึ่ง ยามเมื่อมีลมพัด พวกมันก็ปลิวกระจายออกไป
เมื่อเดินขึ้นไปจากทางระเบียง ก็จะเข้าไปในลานสวนด้านหลังจวน มีเรือนเดียวปลูกกระจัดกระจายในรูปแบบต่าง ๆ หอจัยซิงเป็นอาคารหนึ่งเดียวที่ตั้งตระหง่านโดดเด่น โดยหันหน้าเผชิญกับผนังของตำหนักหลิงหยุน
หยวนชิงหลิงกับพระชายาชินเฟิงอันกำลังเดินอยู่ เดิมทีนางคิดจะใช้โอกาสนี้เกลี้ยกล่อมพระชายา แต่เพราะพระชายาเอาแต่เงียบงันอยู่ตลอด ไม่ยอมพูดอะไรเลย หากจู่ ๆ ก็พูดเกลี้ยกล่อมนางขึ้นมา มันคงจะดูขวานผ่าซากไปหน่อย จึงเดินไปกับนางเงียบ ๆ
พระชายาชินเฟิงอันยืนอยู่ข้างกำแพงของตำหนักหลิงหยุน มองดูกุหลาบป่าที่งอกออกมาจากด้านบนของกำแพง ดอกกุหลาบผลิบานได้ดีมาก สะบัดแกว่งไกวอยู่ท่ามกลางสายลมที่โชยพัดเอื่อย ๆ
เมื่อเห็นว่านางไม่พูดอะไรเลยอยู่เป็นนานสองนาน หยวนชิงหลิงก็รวบรวมความกล้า ก้าวขึ้นไปข้างหน้า คิดว่าจะพูดอะไรสักสองสามคำ แต่คิดไม่ถึงว่า จู่ ๆ พระชายาก็เงยหน้าขึ้นมองนางด้วยแววตาของคนที่ผ่านโลกมาอย่างโชกโชน พูดเบา ๆ ว่า "กำแพงนี้ ข้าเป็นคนก่อมันขึ้นมาเองกับมือเลย"
“หา?” หยวนชิงหลิงตกตะลึง “ท่านก่อมันขึ้นมาเองกับมือเลยรึ?”
พระชายาชินเฟิงอันไม่ตอบ เพียงแค่จ้องไปที่กำแพงนั้นอยู่นาน ผ่านไปครู่ใหญ่ นางก็พูดว่า “พวกเราจะย้ายกลับมา ต้นหญ้าทุกต้นใบไม้ทุกใบของที่นี่ ล้วนมีอดีตที่เราไม่อาจตัดใจได้”
หยวนชิงหลิงถึงกับตกตะลึง นี่คือภารกิจอันยากลำบากที่ไท่ซ่างหวงมอบหมายไม่ใช่รึ? นางยังไม่ได้พูดอะไรแม้แต่คำเดียวเลยนะ?
ตอนที่ออกไปรวมตัวกัน เห็นได้ชัดเจนว่าสามยักษ์ใหญ่ก็ค่อนข้างสับสน พวกเขาเข้าไปก็แค่เดินวนในจวนจนครบรอบหนึ่ง ยังไม่ทันที่พวกเขาจะเริ่มกล่อม อ๋องชินเฟิงอันก็ตอบตกลงว่าจะย้ายกลับมาแล้ว บอกแค่ว่าเขามีความรู้สึกค่อนข้างลึกซึ้งต่อจวนอ๋องซู่ อย่างไรก็จะต้องย้ายกลับมาใช้ชีวิตบั้นปลายที่นี่ให้ได้
เมื่อนำข้อมูลของหลาย ๆ คนมาปะติดปะต่อกัน ก็เอาแต่รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
หยวนชิงหลิงไปส่งสามยักษ์ใหญ่กลับตำหนักข้าง พวกเขาทุกคนจำเป็นต้องกลับไปจัดเตรียมข้าวของของตัวเอง
ในตอนที่หยวนชิงหลิงขึ้นรถม้ากลับมาจากตำหนักข้าง ขณะที่ผ่านประตูหน้าจวนอ๋องซู่ ก็เห็นกลุ่มชายชราในชุดดำกลุ่มหนึ่งกำลังขนย้ายข้าวของเข้าไปข้างใน หยวนชิงหลิงสั่งหยุดรถแล้วถามออกไปว่า "ย้ายเข้ามารวดเร็วขนาดนี้เชียวหรือ? "
“อ้อ พูดถึงท่านชายสี่ ข้ากลับนึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้พอดี เมื่อวานเจ้าเจ็ดบอกข้าว่า ภรรยาของ ท่านชายสี่ท้องแล้ว” หยู่เหวินเห้าพูด
"....." หยวนชิงหลิงพูดไม่ออกอย่างถึงที่สุด "ภรรยาของท่านชายสี่คือน้องสาวของเจ้า เจ้าพูดมาเลยว่าหลิงเอ๋อท้องแล้วไม่ได้หรือ? ภรรยาของท่านชายสี่อะไรของเจ้า?"
หยู่เหวินเห้าหัวเราะ “นี่ไม่ใช่เพราะสมองมึนงงสับสนไปแล้วหรอกหรือ? เฮ้อ คิดถึงอาหารที่ท่านแม่ยายทำเสียแล้วสิ แต่ข้าก็ตั้งตารอให้นางมาตลอดเลยล่ะ พอนางมาแล้ว ข้าจะต้องหาเวลาไปเที่ยวกับพวกเขา แต่ติดอยู่ว่าในเมืองหลวงของเราไม่มีอะไรที่แปลกใหม่ หรือที่เที่ยวที่สนุกน่าสนใจอะไร เทียบไม่ได้กับยุคปัจจุบันเลยสักนิด"
“ หลิงเอ๋อท้องกี่เดือนแล้ว?” หยวนชิงหลิงพยายามเปลี่ยนหัวข้อกลับมา เพราะถ้าปล่อยให้เขาลากยาวต่อไป หัวข้อคงจะออกทะเลไปไกลโขแน่ ๆ
“ไม่ได้ถาม” หยู่เหวินเห้าตอบ
“เมื่อหลายวันก่อนยังไม่ได้ยินพวกเขาพูดถึงเลย” หยวนชิงหลิงรู้สึกหดหู่เล็กน้อย เรื่องน่ายินดีขนาดนี้กลับไม่ยอมบอกนาง หลิงเอ๋อช่างไม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควรเสียจริง!
“หลายวันก่อนคงยังไม่ท้องกระมัง? เจ้าเจ็ดเพิ่งบอกเมื่อวาน ว่าเขาเองก็ได้ยินจากสาวใช้หน้ากลมพูดมาอีกที”
หยวนชิงหลิงพูดว่า "วันพรุ่งนี้ข้าจะไปที่นั่นสักหน่อย ช่วงนี้มีเรื่องน่ายินดีมากมายจริง ๆ ท่านชายสี่ก็สมปรารถนาสักที รอให้ลูกคลอดออกมาแล้ว ก็ไปเปลี่ยนหมาป่าหิมะได้แล้วล่ะ" เมื่อคิดถึงความหลงใหลที่ท่านชายสี่มีต่อหมาป่าหิมะ ก็ทำให้อดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้
“ให้มันน้อย ๆ หน่อยเถอะ ข้ายังไม่เคยเห็นพระชายาคนไหนมีลูกหมาป่าหิมะมาก่อน” หยู่เหวินเห้าไร้ความสนใจโดยสิ้นเชิง เพราะถึงอย่างไรบ้านเขาก็ไม่ขาดสิ่งนี้
หยวนชิงหลิงก็หัวเราะขึ้นมาด้วยเช่นกัน ชีวิตของท่านชายสี่นั้นสมบูรณ์แบบมาก ก็สมควรจะมีอะไรที่ทำให้รู้สึกเสียดายบ้าง
แต่เขาก็ยังมีกองทัพหมาป่าสีเทา ทั้งยังเลี้ยงหมาฮัสกี้อีกตัวไว้ข้างกายด้วย
หลังคุยกับเจ้าห้าแล้ว หยวนชิงหลิงก็เชิญแม่นมสี่มา เพราะอยากจะส่งสินสอดงานแต่งให้กับฮูหยินเหยาสักหน่อย จึงคิดว่าจะขอคำแนะนำจากแม่นมสี่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
OMG ไม่คิดว่าจะอ่านจบ 2105 หน้าสุดปัง เรื่องสนุกมาก ดำเนินเรื่องได้น่าติดตาม มีความเรียลจนบางตอนมีน้ำตาซึมตามเพีาะความประทับใจ สนุกมากจริงๆทอยากให้มีภาคลูกไปบ้าง...
กลับมาอ่านอีกครั้ง สนุกจริง...
สนุกมากค่ะ มีต่อไหมคะ...
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...