บทที่ 1456 ฮูหยินเหยาแต่งงาน – ตอนที่ต้องอ่านของ บัลลังก์หมอยาเซียน
ตอนนี้ของ บัลลังก์หมอยาเซียน โดย ลิ่วเยว่ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยาย จีนทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1456 ฮูหยินเหยาแต่งงาน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ความเห็นของแม่นมสี่คือ ให้ดูก่อนว่าพระชายาคนอื่นส่งอะไรเพิ่มเติมไปให้นาง ก็อย่าได้ส่งสิ่งเดียวกันไปซ้ำ ให้ดีที่สุดคือมอบของที่ใช้ได้จริง บรรดาเครื่องประดับ แก้วแหวนเงินทองอะไรพวกนั้น ไม่ใช่สิ่งน่าพิสมัยของฮูหยินเหยา แต่ที่สำคัญกว่าก็คือ บรรดาเครื่องประดับอัญมณี แก้วแหวนเงินทองทั้งหลาย จวนอ๋องฉู่ก็ไม่มีจะให้อยู่แล้ว
วันรุ่งขึ้น หยวนชิงหลิงเชิญบรรดาพระชายาไปที่บ้านของท่านชายสี่ เพื่อหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้ เดิมทีเรื่องการมอบสินสอดให้เจ้าสาว หากยึดตามอาวุโส ไม่ว่าใครก็ไม่ต้องมอบให้ทั้งนั้น เพราะถึงอย่างไรทุกคนต่างก็เด็กกว่าฮูหยินเหยากันหมด แค่ใช้คำว่าเป็นสินน้ำใจเล็ก ๆ ส่งไปให้ก็ไม่น่าเกลียดแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้คำว่าให้สินสอดเจ้าสาวก็ได้ ด้วยเหตุนี้ ทางด้านองค์หญิง ก็จะสามารถตระเตรียมอะไรได้อย่างง่ายดายขึ้นมาอีกหน่อย
นัดหมายกันที่จวนเหลิ่ง สาเหตุหลัก ๆ ก็เพราะองค์หญิงกำลังตั้งครรภ์อยู่ ไม่สะดวกเดินทางมา พวกนางจึงใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ เพื่อร่วมกันทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ ทั้งยังถือโอกาสไปเยี่ยมองค์หญิงได้อีกด้วย
เรื่องการตั้งครรภ์ของหยู่เหวินหลิงนี้ นอกจากหยวนหย่งอี้แล้ว พระชายาคนอื่น ๆ ต่างก็ไม่มีใครรู้ สำหรับสาวน้อยคนนี้ ทุกคนต่างก็รักใคร่เอ็นดูนางมาก ก่อนหน้านี้พวกเขาล้วนคาดหวังให้นางได้ร่วมหอกับท่านชายสี่จนในที่สุดก็สำเร็จได้อย่างยากลำบาก เดิมทีคิดว่าคงจะไม่ตั้งครรภ์เร็วขนาดนี้ ในเมื่อสามีภรรยาคู่นี้เลื่อนทุกอย่างออกไปช้ามาก การเข้าหอก็ล่าช้าไปตั้งหลายปี กว่าจะมีลูกก็น่าจะใช้เวลาไปอีกอย่างน้อยก็สองสามปีกระมัง ? แต่คิดไม่ถึงว่า เรื่องนี้จะรวดเร็วทันใจจนชวนตกตะลึงได้ขนาดนี้
หยวนชิงหลิงตรวจอาการให้นาง ทั้งยังถามถึงปฏิกิริยาในการตั้งครรภ์ครั้งแรก หยู่เหวินหลิงตอบอย่างอาย ๆ ว่า ไม่มีปฏิกิริยาอื่นใดนอกจากชอบงีบหลับ แต่ความอยากอาหารกลับเปลี่ยนไปเล็กน้อย ชอบทั้งรสเปรี้ยวและเผ็ด ทันทีที่นึกอยากกินอะไรขึ้นมา แล้วไม่ได้กิน ก็จะรู้สึกไม่สบายเอามาก ๆ
“ ดังนั้น ช่วงนี้เวลาที่เขาต้องเตรียมอาหารการกินให้ข้า เลยต้องไปทรมาทรกรรมคนของสำนักเหลิ่งหลังจนแทบจะเป็นบ้ากันให้ได้แล้ว” หยู่เหวินหลิงพูดด้วยรอยยิ้มที่เจือไปด้วยความสุข
“ท่านชายสี่ดูไม่เหมือนท่านชายสี่เลยล่ะ” หรงเยว่เสริม
“โอ๋ภรรยาน่าดูเลย” หยวนหย่งอี้พูดด้วยรอยยิ้ม นางชอบรูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างท่านชายสี่กับหลิงเอ๋อมาก มันเป็นอะไรที่บริสุทธิ์อย่างยิ่ง เอะอะขึ้นมาท่านชายสี่ก็จะรีบหว่านเงินเพื่อซื้อของขวัญให้หลิงเอ๋อทุกครั้ง ความตามอกตามใจแบบนี้ ช่างพบเห็นได้ยากมากจริง ๆ
พระชายาซุนถอนหายใจเฮือก ““ถ้าสามีของบ้านข้า มีได้สักหนึ่งส่วนของท่านชายสี่ล่ะก็ ข้าเองก็คงจะพอใจแล้วล่ะ”
“อย่าเอาแต่ปรามาสพี่รองแบบนั้นสิ พี่รองจะต้องดีกับเจ้ามากเป็นธรรมดาแน่” หยวนหย่งอี้ติง
พระชายาซุนยิ้มเจื่อน ๆ “ข้าไม่ได้ปรามาสเขาสักหน่อย ที่พูดมาล้วนเป็นความจริงทั้งนั้นไม่ใช่รึ? เอาเถอะ พวกเรากลับมาว่ากันถึงเรื่องมอบสินสอดงานแต่งให้ฮูหยินเหยาดีกว่า พวกเจ้าตัดสินใจว่าจะให้อะไรกันบ้างล่ะ?”
ในฐานะพระชายาผู้มีฐานะมั่งคั่งที่ชอบอวดร่ำอวดรวยอย่างหรงเยว่ ย่อมมีการวางแผนไว้นานแล้ว นางให้ร้านค้ากับฮูหยินเหยาไปถึงสองร้าน มีทำเลที่ตั้งไม่เลว จะปล่อยเช่าหรือทำการค้าเองก็ได้ทั้งนั้น
หลังจากที่นางพูดถึงของขวัญแต่งงานออกมาอย่างเปิดเผย คนอื่น ๆ ต่างก็หันมองหน้ากัน แต่กลับไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกมาดี
พระชายาซุนยังคงยิ้มเจื่อน ๆ ต่อ “โย่ว ร้านค้าตั้งสองร้าน เจ้าพูดว่ายกให้ก็ยกให้เลยหรือ? หรงเยว่ เงินทองบ้านเจ้าล้วนมีลมพัดหอบเข้ามาให้อย่างนั้นรึ?”
หรงเยว่ถึงกับตกตะลึงไปครู่หนึ่ง "แค่จะใช้เงินยังต้องรอให้ลมพัดมาให้เสียเวลาขนาดนั้นด้วยรึ? แค่สั่งให้นายบัญชีไปถอนมาคำเดียว ก็ได้แล้วไม่ใช่รึ?"
ไม่ใช่คนแบบเดียวกัน เหมือนจะคุยหัวข้อเดียวกันไม่รู้เรื่องเสียแล้ว
หยู่เหวินหลิงรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อย "พี่สะใภ้หกให้ร้านค้าหรอกหรือนี่? ข้าก็วางแผนไว้ว่าจะให้ร้านค้าเหมือนกัน ในเมื่อท่านให้แล้ว ข้าให้บ้านในชนบทสักหลังก็แล้วกัน”
เหล่าพระชายาต่างหันมามองหน้ากันอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่า คนของสำนักเหลิ่งหลังนี่ล่ะคือเศรษฐีของจริง ราชวงศ์จะนับเป็นอะไรได้?
ครอบครัวของหยวนหย่งอี้ยังนับว่าพอไหว บ้านเดิมของนางมีเงินทองไม่น้อย ทางอ๋องฉีก็ร่ำรวยใช่ย่อย ดังนั้นหยวนชิงหลิงกับพระชายาซุนจึงค่อนข้างลำบากแล้ว หลายปีมานี้พระชายาซุนยังไม่รู้วิธีหาช่องทางทำเงิน แต่ก็ยังสามารถรักษารายจ่ายและมีชีวิตที่นับว่าไม่ขัดสนอะไร ส่วนหยวนชิงหลิงคือไม่มีเงินจริง ๆ
ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะเคยรับคำชวนของจินหนิงจวิ้นจู่ ได้ทำธุรกิจร่วมกัน ได้รายรับมาเป็นเงินก้อนใหญ่ก็จริง แต่พอต้องทำอาวุธก็ต้องควักจ่ายออกไปจนหมดสิ้น ตอนนี้ในจวนก็มีเงินให้ใช้ไม่มาก อย่างไรก็ไม่อาจไปลิดรอนเงินของลูก ๆ มาซื้อของขวัญแต่งงานให้ฮูหยินเหยาได้
หยวนชิงหลิงเริ่มรู้สึกเสียใจที่ฟังคำพูดของแม่นมสี่ จนยอมมาปรึกษาหารือกับพวกนาง สิ่งที่นางพอจะให้ได้ เป็นอะไรที่ต๊อกต๋อยจนถึงขั้นยากจนข้นแค้นมากจริง ๆ
ฮูหยินเหยาน้ำตาคลอเบ้า “ความรู้สึกที่มีคนคอยปกป้องนี่มันดีจริง ๆ นะ มันเหมือนกับว่าต่อให้ฟ้าจะถล่มลงมา เจ้าก็ไม่ต้องกลัว ข้าเหนื่อยกับการวางแผน ต้องคอยคำนวณแผนการทุกย่างก้าว เหนื่อยกับการวางแผนร้าย ได้มีโอกาสใช้ชีวิตอย่างสงบสุขร่วมกับเขา ช่างเป็นเรื่องที่ดีมากจริง ๆ อีกทั้งตอนนี้จวิ้นจู่ก็ยอมรับเขาแล้ว ข้าเชื่อว่าครอบครัวของเราจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมาก แต่ในใจข้าก็เอาแต่กังวลเรื่องผลได้ผลเสียของตัวเองอยู่เสมอ ข้าเคยทำเรื่องที่ไม่ดีมาไม่น้อย ข้าไม่ควรได้รับผลตอบแทนที่ดีแบบนี้"
“ อย่าโง่ไปหน่อยเลยน่า เจ้าเปลี่ยนไปแล้ว อีกทั้งเรื่องที่เจ้าทำลงไป สุดท้ายที่ถูกทำร้ายก็มีแต่ตัวเจ้าเองทั้งนั้น นอกจากนี้ หลายปีที่ผ่านมาเจ้าก็ช่วยข้ากับเจ้าห้าไว้ไม่น้อย มันเพียงพอที่จะชดเชยความผิดในอดีตของเจ้าแล้วล่ะ “หยวนชิงหลิงพูดพลางจับมือนาง
ฮูหยินเหยาเป็นฝ่ายพลิกกลับมาจับมือนางแทน “วันข้างหน้าข้าจะทำความดี สะสมคุณธรรม เพื่อไถ่บาปให้ตัวเอง”
“ดี!” หยวนชิงหลิงยิ้มละไม “นั่นเป็นเรื่องที่ดีจริง ๆ เหมือนอย่างจิ้งเหอที่รับเลี้ยงเด็กมากมาย นั่นก็เป็นเรื่องที่แสดงความมีเมตตาอย่างหนึ่ง แต่พูดถึงจิ้งเหอ ทำไมไม่เห็นนางมาที่นี่เลยล่ะ?”
ตอนที่ไปจวนองค์หญิงเมื่อสองวันก่อน ก็ไม่เห็นนางเหมือนกัน
“ นางให้คนส่งจดหมายมาบอกแล้วล่ะ ว่าลูกนางไม่สบาย มาไม่ได้” ฮูหยินเหยาตอบ
หยวนชิงหลิงขมวดคิ้ว “ลูกไม่สบายอีกแล้วรึ?”
“เด็กอยู่รวมกันเยอะ ๆ ก็มักมีอะไรที่ก่อให้เกิดอาการป่วยได้ง่ายอยู่แล้ว ข้าเคยสั่งให้คนไปเชิญหมอให้ไปตรวจดูแล้ว เห็นว่าถูกกลมเย็นจนเป็นไข้ ผ่านไปไม่กี่วันก็หายแล้ว” ฮูหยินเหยาพูด ๆ ไป จู่ ๆ ก็หยุดไปครู่หนึ่ง แล้วพูดเบา ๆ ขึ้นอีกครั้งว่า "จริง ๆ แล้วก็เป็นแค่ข้ออ้างเท่านั้นเอง นางคิดว่านางอาจจะแบบว่า..... โชคร้าย เลยกลัวว่าจะพลอยทำให้ข้าโชคร้ายไปด้วย"
“ คิดอะไรโง่เขลาเสียจริง คิดแบบนี้ได้อย่างไรกัน?” หยวนชิงหลิงติง
อย่างไรจิ้งเหอก็ยังคงทำให้รู้สึกเป็นห่วงอยู่ไม่หาย แม้ว่าตอนนี้จะดูเหมือนว่านางกล้าก้าวขาออกมาข้างนอกได้แล้ว แต่น่ากลัวว่าบาดแผลที่อยู่ในใจลึก ๆ ของนาง ในบางครั้งก็ยังรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาก็เป็นได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
OMG ไม่คิดว่าจะอ่านจบ 2105 หน้าสุดปัง เรื่องสนุกมาก ดำเนินเรื่องได้น่าติดตาม มีความเรียลจนบางตอนมีน้ำตาซึมตามเพีาะความประทับใจ สนุกมากจริงๆทอยากให้มีภาคลูกไปบ้าง...
กลับมาอ่านอีกครั้ง สนุกจริง...
สนุกมากค่ะ มีต่อไหมคะ...
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...