วันรุ่งขึ้น รับตัวพ่อแม่และพี่ชายตระกูลหยวนเข้าสู่ตำหนักบูรพา บอกกับฮ่องเต้หมิงหยวนว่าทั้งสามท่านเป็นพ่อแม่และพี่ชายบุญธรรมของพระชายารัชทายาท เพราะว่าเจ้าของบ้านของจวนเจ้าพระยาจิ้งนั้นไม่มีเกียรติพอที่จะออกหน้าในพิธีการใหญ่ได้ จึงได้เชิญพวกเขาทั้งสามคนมาอยู่เป็นเพื่อน
ฮ่องเต้หมิงหยวนไม่สนใจเรื่องเหล่านี้ตั้งนานแล้ว ขอเพียงพวกเขาชื่นชอบก็พอ ตอนนี้เขาได้แต่รอที่จะเกษียณตัวเองไปใช้ชีวิตอยู่ที่หมู่ตึกเหมยอย่างสบายใจ
ผู้เฒ่าทั้งสามก็กลับมาอยู่ในวังเป็นการชั่วคราว ทั้งยังบังคับพาสองสามีภรรยาอ๋องชินเฟิงอันกลับมาอยู่ด้วย โสวฝู่ฉู่เป็นพิธีการในงานราชพิธีราชาภิเษก กำกับดูแลเรื่องการขึ้นครองราชย์ของฮ่องเต้องค์ใหญ่ เดิมทีกรมพิธีการจะไปหาเขาเพื่อซ้อมใหญ่กัน แต่โสวฝู่ฉู่บอกว่าไม่ต้อง เรื่องนี้ได้ทำการซักซ้อมในใจของเขามานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว เขาไม่มีทางทำผิดพลาดแน่
เพราะว่า เขาตั้งตารอมานานมากแล้ว
กรมพิธีการจึงได้แต่เขียนกำหนดการต่างๆให้เขา และได้ส่งคนบางส่วนไปเป็นผู้ช่วย เพราะว่า นี่เป็นเรื่องใหญ่ จะไม่สามารถผิดพลาดได้เลยแม้แต่น้อย ไม่เช่นนั้น จะไม่เป็นมงคล
วันที่ยี่สิบเดือนหกที่ผู้คนต่างก็สนใจตั้งตารอดู ที่สุดก็มาถึง
เริ่มต้นตั้งแต่ช่วงเวลาที่คาบเกี่ยวกับยามจื่อหยู่เหวินเห้าก็ไม่สามารถนอนได้อีก เพราะว่า หลังผ่านเวลาที่คาบเกี่ยวกันแล้ว ก็ต้องรีบไปทำพิธีกราบไหว้ฟ้าดิน และก็คือพิธีบูชาสวรรค์นั่นเอง
ทั่วทั้งเมืองหลวงสว่างไสวไปด้วยดวงไฟ ถนนใหญ่ทุกสาย มีทางการเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการจุดไฟตามถนนหนทาง คบเพลิงตามหอคอยสูงหรือที่จุดอยู่บนพื้น บอกกล่าวแก่สรวงสวรรค์ ฮ่องเต้องค์ใหญ่ของเป่ยถังได้ขึ้นครองราชย์แล้ว
ชุดมังกรได้ถูกส่งมาถึงตำหนักตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แต่ในพิธีการบูชาสวรรค์นั้นสวมชุดพิธีการอีกชุดหนึ่ง แยกออกจากชุดมังกรที่ใช้ในพิธีราชาภิเษก
เหล่าขุนนางได้มารออยู่หน้าประตูวังหลวงตั้งแต่ก่อนจะถึงยามจื่อแล้ว รอพระเกี้ยวของฮ่องเต้องค์ใหม่ออกมา จะได้เดินทางไปร่วมพิธีบูชาฟ้าดินที่แท่นบูชาพร้อมกัน
ดนตรีของกองเกียรติยศก็ดังขึ้นในยามจื่ออย่างตรงเวลา ทหารรักษาพระองค์ของราชวงศ์ได้เปิดประตูใหญ่แต่ละบานของวังหลวงออก กองทัพทหารรักษาพระองค์ที่สวมชุดสีเหลืองหลั่งไหลกันเดินออกมา เฝ้าประตูวังหลวงแต่ละแห่งเอาไว้ เหล่าท่านอ๋องไปรอต้อนรับฮ่องเต้องค์ใหม่ที่ตำหนักบูรพา กู้ซือเป็นคนนำทาง ไปถึงหน้าประตูวังหลวงรวมตัวกับเหล่าขุนนางทั้งบุ๋นบู๊ ตรงไปยังแท่นบูชาสวรรค์
ในตำหนักฉินคุน ผู้อาวุโสทั้งสามต่างก็แต่งกายอย่างเรียบร้อย ไท่ซ่างหวงสวมชุดมังกรของเขาเอง ไม่ได้สวมชุดนี้มานานมากแล้ว ตอนนี้พอสวมแล้ว ไม่ได้รู้สึกหนักอึ้งเหมือนแต่ก่อน กลับเริ่มชื่นชมวัสดุและการปักของชุดมังกรขึ้นมาแทน
เขานั่งอยู่ในตำหนักฉินคุนอย่างสงบ รอให้ฮ่องเต้องค์ใหม่กลับมา เข้ามาคำนับเขา
ไท่ซ่างหวงยังแต่งหน้าด้วย เพื่อปกปิดรอยด่างดำต่างๆบนใบหน้าเสียหน่อย ดวงตาทั้งคู่สดใสเจิดจ้า น่าเกรงขามเป็นอย่างยิ่ง เขายังขอร้องให้อ๋องชินเฟิงอันนั่งด้วยกัน รับการคำนับจากฮ่องเต้องค์ใหม่
รอจนกระทั่งประมาณยามหยิน ก็ได้ยินว่าฮ่องเต้องค์ใหม่ได้เสร็จสิ้นพิธีการจากแท่นบูชาแล้ว แต่จะไปไหว้ศาลบรรพชนก่อน หลังจากไหว้ศาลบรรพชนแล้ว ค่อยมาคำนับไท่ซ่างหวง
ในที่สุด ผ่านยามหยินไปได้ครึ่งยาม ด้านนอกของตำหนักฉินคุนก็มีเสียงดนตรีดังขึ้น เสียงนั้นซึมเข้าสู่หัวใจ ทำเอาดวงวิญญาณตื่นเต้นขึ้นมา
ไท่ซ่างหวงพยายามรักษาความสงบนิ่งบนใบหน้าเอาไว้ เพียงแต่ดวงตากลับแดงก่ำไปหมด อ๋องชินเฟิงอันนั้นสุขุมมาก ยื่นมือออกไปตบที่หลังมือของไท่ซ่างหวงเบาๆหนึ่งที “น้องหก ในที่สุดเจ้าก็รอจนถึงวันนี้ ยินดีด้วย”
ไท่ซ่างหวงมองเขา “พี่เหว่ย ยินดีด้วยเช่นกัน”
อ๋องเฟิงชินอันโค้งริมฝีปากยิ้มขึ้น ยินดีด้วยเช่นกัน ยินดีด้วย
คนของตระกูลหยู่เหวินหลายยุคสมัย ไม่เคยปฏิเสธความลำบาก ไม่กลัวความทุกข์ยาก นำพาเป่ยถังค่อยๆก้าวสู่ยุคสมัยที่เจริญรุ่งเรือง และการแข่งวิ่งผลัดนี้ ทุกไม้ต่างก็ทุ่มเทความพยายามของตนเองอย่างเต็มที่ ทุกไม้นั้นไม่อาจจะขาดได้ ฮ่องเต้ฮุยจงที่ดำรงตำแหน่งอยู่ได้ไม่นานก็เป็นเช่นนี้ ฮ่องเต้หมิงหยวนก็เช่นกัน
อย่างน้อย อ๋องชินเฟิงอันคิดว่า ถึงตอนนี้เวลานี้ เป่ยถังยังไม่เคยปรากฏว่ามีฮ่องเต้ทรราชสักคน
ในที่สุด ภายใต้การรอคอยที่เต็มเปี่ยมไปทั้งใจ เขามาแล้ว
หยู่เหวินเห้าพาเหล่าท่านอ๋องและขุนนางทั้งหลาย เดินเข้าไปในตำหนักฉินคุนพร้อมกัน ขบวนเสด็จอันยิ่งใหญ่ ทำให้ตำหนักฉินคุนที่ปกติจะเงียบเหงามีคนคึกคักอยู่เต็มไปหมดในชั่วขณะ เสียงดนตรียังคนดังต่อเนื่องไม่ขาดสาย ท่วงทำนองดนตรีแห่งความชื่นชมยินดี ปลุกดวงจิตของทุกคน
ชุดพิธีการราชาภิเษกมีทั้งพระมาลาขนาดใหญ่ กว้างแปดนิ้ว ยาวสิบสองนิ้ว พระมาลาห้อยลูกปัดสีทอง มีลูกปัดสิบสองลูก สิบสองเส้น เสื้อปักลายสัญลักษณ์แปดสิ่ง ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาว มังกร ภูเขา ไก่ฟ้า ไฟ และซงหยี เสื้อปักลายสัญลักษณ์สี่สิ่ง สาหร่าย ละอองเกสรดอกไม้ แต่ละชั้น ซับซ้อนเป็นอย่างยิ่ง มู่หรูกงกงและขุนนางของกรมพิธีการเป็นผู้สวมชุดให้กับฮ่องเต้องค์ใหม่ หยวนชิงหลิงยืนดูอยู่ข้างๆ ประสานสายตากับหยู่เหวินเห้าห่างๆ ดวงตาของทั้งสองคนต่างก็เปียกชื้นอยู่บ้าง
หยวนชิงหลิงที่อยู่ภายใต้การปรนนิบัติรับใช้ของเหล่านางกำนัลได้แต่งกายด้วยชุดหงส์เสร็จแล้ว รอให้เขากุมมือนางเดินขึ้นไปสู่บัลลังก์ฮ่องเต้พร้อมกัน เพื่อรับคำกล่าวยินดีจากเหล่าขุนนางทั้งหลาย
ตามกฎระเบียบของเป่ยถัง ที่จริงตั้งแต่วันที่ฮ่องเต้หมิงหยวนได้สละบัลลังก์ พวกเขาก็ได้กลายเป็นฮ่องเต้และฮองเฮาองค์ใหม่แล้ว แต่ว่า พวกเขาต่างก็คิดว่า จำเป็นต้องมีพิธีการเหล่านี้ หลังจากพิธีการราชาภิเษกแล้ว จึงจะเรียกฮ่องเต้ได้อย่างเป็นทางการ ด้วยเหตุนี้ ทั้งสองก็รอจนถึงวันนี้ จึงได้สวมชุดที่แสดงถึงสถานะของพวกเขาอย่างเป็นทางการจริงๆ
หยู่เหวินเห้าสวมเสื้อผ้าเสร็จแล้ว ก็สวมหมวกมาลาทอดฟ้า มองดูแล้วภาพลักษณ์แตกต่างจากเมื่อก่อนเป็นอย่างยิ่ง แต่ในใจของหยวนชิงหลิง ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เป็นเจ้าห้าของนางอยู่ดี
จุดนี้ ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงตลอดกาล
เขาเดินออกไปท่ามกลางความแออัดของเหล่าขุนนางและทหารรักษาพระองค์ที่รายล้อม ได้ประกาศพระราชทานอภัยโทษทั่วหล้าในตำหนักหมิงเต๋อ และได้รับมอบตราแผ่นดินจากมือของโสวฝู่ฉู่ นอกตำหนักหมิงเต๋อโสวฝู่ฉู่ได้อ่านประกาศพระบรมราชโองการขึ้นครองราชย์
เสียงดนตรีดังขึ้น ดังขึ้นไปทั่วทุกทิศ คบเพลิงถูกจุดขึ้นไปทั่วทุกที่ในช่วงกลางวัน แสงแดดยามเช้าสาดส่องตกต้องตำหนักสีทองอันเรืองรอง กระเบื้องหลังคามีแสงสีทองแวววับเป็นประกาย
หยวนชิงหลิงมีเหล่าพระชายาและฮูหยินของขุนนางต่างๆส่งเสด็จ มาถึงด้านนอกของตำหนักหมิงเต๋อ หยู่เหวินเห้าเดินอย่างรวดเร็วเข้ามา จูงมือของนางเอาไว้
ลูกๆต่างก็สวมชุดเรียบร้อย มีคนคอยดูแลอยู่ รอเพียงเวลาที่เหมาะสม ก็จะติดตามเสด็จพ่อและเสด็จแม่ก้าวเข้าสู่ตำหนักใหญ่แห่งวังหลวง เพื่อเป็นสักขีพยานในการขึ้นครองราชย์ในยุครุ่งเรืองของเสด็จพ่อ
แขกเหรื่อจากต่างแคว้นต่างก็มาถึงจนครบแล้ว ได้ยืนเป็นแถวกับเหล่าขุนนาง จิ้งถิงก็อยู่ในนั้นด้วย ใช้แววตาแห่งความปลื้มปีติยินดีมองไปที่เขา รอเพียงฮ่องเต้เข้าสู่ตำหนัก พวกเขาจึงค่อยตามเข้าไป คุกเข่าคำนับ
ขุนนางพิธีการได้สั่งการอย่างเป็นระเบียบแบบแผน ในที่สุด เวลาสำคัญก็มาถึง โสวฝู่ฉู่ได้ตีกลองขึ้นครองราชย์ด้วยตนเองหนึ่งครั้ง จากนั้นก็มีนักดนตรีรับช่วงต่อ เสียงกลองดังขึ้นติดต่อกันไม่หยุด เสียงหนึ่งดังกว่าอีกเสียง ตามด้วยเสียงของขุนนางพิธีการที่ตะโกนขึ้นว่าฮ่องเต้และฮองเฮาองค์ใหม่เข้าสู่ตำหนัก เสียงบรรเลงดนตรีก็ดังขึ้น หยู่เหวินเห้ากุมมือของหยวนชิงหลิง ต่างก็จ้องมองกันอย่างลึกซึ้งแวบหนึ่ง ค่อยๆเดินเข้าไปด้านใน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
OMG ไม่คิดว่าจะอ่านจบ 2105 หน้าสุดปัง เรื่องสนุกมาก ดำเนินเรื่องได้น่าติดตาม มีความเรียลจนบางตอนมีน้ำตาซึมตามเพีาะความประทับใจ สนุกมากจริงๆทอยากให้มีภาคลูกไปบ้าง...
กลับมาอ่านอีกครั้ง สนุกจริง...
สนุกมากค่ะ มีต่อไหมคะ...
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...