ทันใดนั้นก็มีคนวิ่งแล่นเข้ามาพลันผสานทั้งสองมือคารวะ : “ท่านอ๋อง พระชายาเสด็จมาพ่ะย่ะค่ะ”
หยู่เหวินเห้าเงยหน้าขึ้น “พระชายา?”
นางมาทำสิ่งใด?ดึกถึงเพียงนี้แล้ว เหตุใดนางยังไม่นอน?
เขารีบลุกขึ้นเดินออกไปดูทันที ปรากฏว่าลู่หยากำลังประคองหยวนชิงหลิงเดินเข้ามา
เขาสาวเท้าเข้าไปประคองมือนางด้วยความรวดเร็วพลางพูดด้วยเสียงอ่อนโยน : “เหตุใดถึงออกมากลางดึกเช่นนี้?”
หยวนชิงหลิงเห็นใบหน้าที่ซีดเซียวของเขาแล้วก็รู้สึกเห็นใจไม่น้อย “วันนี้เจ้าหญิงเล่าให้ข้าฟังแล้วว่าฝ่าบาทมีบัญชาให้ท่านคลี่คลายคดีภายในเจ็ดวัน เรื่องใหญ่ถึงเพียงนี้ เหตุใดท่านถึงไม่บอกกับข้า ?”
เขาพูดปลอบประโลมด้วยเสียงอ่อน : “อย่ากังวลใจเลย เวลาเจ็ดวันยังไม่ถึงเสียหน่อย อีกอย่างข้าก็มีความมั่นใจว่าจะสามารถคลี่คลายคดีได้ก่อนหมดกำหนดการ”
หยวนชิงหลิงรู้ว่าเขากำลังพูดปด ถ้าหากว่าสามารถคลี่คลายคดีได้ก่อนวันที่กำหนดได้จริงๆ เขาก็คงจะไม่มีทางที่แม้แต่บ้านก็ไม่กลับหรอก
นางปล่อยให้เขาประคองนำหน้าเข้าไปด้านในพร้อมกับกล่าว: “ข้าอาจจะไม่เข้าใจเรื่องการไขคดี แต่ข้ามีความรู้ทางการแพทย์อยู่บ้าง ให้ข้าดูศพเถอะ บางทีข้าอาจจะพบเบาะแสบางอย่างก็เป็นได้”
“ดูศพ?ไม่ได้!” หยู่เหวินเห้าคัดค้านโดยทันที “คนตายมีอะไรน่าดูกัน?”
คนตายมาตั้งหลายวันแล้ว ถึงโรงเก็บศพจะถูกก่อด้วยก้อนน้ำแข็ง แต่ศพก็มีอาการขึ้นอึดบวมทั้งยังส่งกลิ่นเหม็นรุนแรงอีกต่างหาก นางจะทนกลิ่นเช่นนั้นได้อย่างไร?
“แต่ว่าตอนนี้พวกท่านยังไม่ความคืบหน้าใดไม่ใช่หรือ?อย่าคิดที่จะปิดบังข้า” หยวนชิงหลิงกล่าวท้วง
“เชื่อข้าสิ ทุกอย่างจะต้องดีขึ้น” หยู่เหวินเห้าพูดไปพลางรู้สึกว่าคำพูดของตัวเองดูไร้น้ำหนักความน่าเชื่อถืออย่างมาก
หลังจากที่นำตัวหยวนชิงหลิงมาส่งถึงด้านหลังที่ทำการ เขาก็ให้นางพักผ่อนอยู่บนเตียงลั่วฮั่น ก่อนจะออกไปก็ไม่วายหันไปตำหนิลู่หยาอีกว่านางไม่ดูแลให้พระชายาได้พักผ่อน
หยวนชิงหลิงรู้สึกตื้นตันใจกับความรักและเอาใจใส่ที่เขามอบให้ แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาตอนนี้เป็นสามีภรรยากัน ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไรก็ควรที่ทั้งสองจะช่วยกันแบ่งเบา
ดังนั้นสำหรับการกระทำเช่นนี้ของหยู่เหวินเห้า ทำให้นางรู้สึกเอือมระอาเป็นอย่างมาก
แต่ก็ไม่ควรที่จะไปดื้อรั้นเกินไป เพราะเขาในตอนนี้เหมือนกำลังหงุดหงิดอย่างมาก
หยวนชิงหลิงเหมือนกับได้เปลี่ยนที่นอนใหม่ ในขณะที่เขายังคงยุ่งอยู่ตรงส่วนหน้าที่ทำการ
ส่วนสวีอีนั้นถูกสั่งไว้ให้คอยเฝ้าอยู่ด้านนอก เพื่อไม่ให้นางเดินออกไปเพ่นพ่าน
หยวนชิงหลิงนอนไม่หลับ จึงใช้ให้ลู่หยาเรียกตัวสวีอีเข้าไปด้านใน
หลังจากผ่านเหตุการณ์ที่หยวนชิงหลิงถูกลอบสังหาร ตอนนี้สวีอีดูเคร่งขรึมขึ้นอย่างมาก
ใบหน้ายิ้มแย้มและดูซื้อบื่อนั้นไม่มีอีกแล้ว “พระชายาเรียกกระหม่อมมีธุระอะไรหรอพ่ะย่ะค่ะ?”
“สวีอี!” หยวนชิงหลิงมองเขาแล้วถามด้วยสีหน้าที่จริงจัง: “ข้าปฏิบัติต่อเจ้าเป็นอย่างไร?”
สวีอีตอบกลับด้วยความปลาบปลื้ม: “พระชายาดีต่อกระหม่อมอย่างมาก หากไม่ใช่พระชายาที่ช่วยร้องขอความกรุณากับท่านอ๋องแทนกระหม่อม เกรงว่ากระหม่อมก็คงไม่มีทางที่จะสามารถกลับมาปฏิบัติหน้าที่ข้างกายท่านอ๋องแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
หยวนชิงหลิงจึงกล่าวอย่างเด็ดขาด: “ดี เจ้าจำได้ก็ดี ข้าเคยช่วยเหลือเจ้าครั้งหนึ่ง เจ้าก็จงตอบแทนกลับด้วยการช่วยเหลือข้าสักครั้ง เจ้าว่าอย่างไร ?”
สวีอีผสานมือทั้งสองคารวะ : “พระชายาอย่าได้กล่าวคำว่าช่วยเหลือเลย มีสิ่งใดโปรดรับสั่ง กระหม่อมจะไม่ปฏิเสธแม้จะต้องตายเป็นหมื่นครั้งก็ตามพ่ะย่ะค่ะ”
“ไม่จำเป็นต้องตายเป็นหมื่นครั้งหรอก ข้าแค่อยากให้เจ้าพาข้าไปยังโรงเก็บศพเท่านั้น” หยวนชิงหลิงกล่าว
สวีอีถึงกับอึ้ง “พระชายา ท่านไปยังโรงเก็บศพด้วยเหตุอะไรพ่ะย่ะค่ะ ?จะเสด็จไปที่แบบนั้นไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ มันน่าสยดสยองเกินไป อีกอย่างหากท่านอ๋องทราบเข้า ท่านอ๋องจะต้องลงโทษข้าเป็นแน่พ่ะย่ะค่ะ”
หยวนชิงหลิงจ้องเขา “แล้วผู้ใดให้เจ้าไปแจ้งกับท่านอ๋องเล่า?เขาเพียงแค่พาขาไปก็พอแล้ว หากข้าไม่สามารถตรวจพบสิ่งใด เรื่องนี้ท่านอ๋องจะไม่มีทางรับรู้เด็ดขาด แต่ถ้าหากข้าสามารถพิสูจน์พบเบาะแส เจ้าก็ถือว่าได้คุณงามความดี”
“ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ ข้าไม่ต้องการคุณงามความดี” สวีอีตอบกลับอย่างหนักแน่น
หยวนชิงหลิงเดินลงไปหาเขา แล้วพลางส่ายหน้า : “สวีอี คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะเป็นคนเช่นนี้ ลืมบุญคุณคน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...