บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1496

สรุปบท บทที่ 1496 ความสำเร็จของอ๋องซุน: บัลลังก์หมอยาเซียน

สรุปตอน บทที่ 1496 ความสำเร็จของอ๋องซุน – จากเรื่อง บัลลังก์หมอยาเซียน โดย ลิ่วเยว่

ตอน บทที่ 1496 ความสำเร็จของอ๋องซุน ของนิยายนิยาย จีนเรื่องดัง บัลลังก์หมอยาเซียน โดยนักเขียน ลิ่วเยว่ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

หยวนชิงหลิงออกจากวังไปจับตาดูอ๋องซุนทุกวัน ยังพาพวกเด็กๆไปวิ่งออกกำลังเป็นเพื่อนอ๋องซุน

เดิมทีครั้งนี้เป็นการตัดสินใจที่ยิ่งใหญ่ของอ๋องซุนอยู่แล้ว พอรู้ว่ายังต้องแบกภาระเงินเดิมพันอีกก้อนใหญ่ ก็ยิ่งมุ่งมั่นมากขึ้น

เขากินตามรายการอาหารที่หยวนชิงหลิงให้ทุกวัน ที่จริงก็ไม่ได้ยากมากนัก ยังคงสามารถกินเนื้อได้ เพียงแต่เนื้อติดมันที่เคยชอบกินในวันวานตอนนี้ไม่สามารถแตะต้องได้เลยแม้แต่น้อย แรกเริ่มนั้นไม่ชินเลย บางครั้งยังอยากจะแอบกินชิ้นสองชิ้น แต่เมื่อนึกถึงเงินเดิมพันหลายล้านตำลึง เขาก็ต้องอดทนต่อไป

ขุนนางของศาลหงหรูน่าโมโหที่สุด เพราะว่าส่วนใหญ่พวกเขาเดิมพันว่าอ๋องซุนต้องแพ้ ทุกวันต่างก็คะยั้นคะยอให้อ๋องซุนกินนั่นกินนี่อยู่ตลอด ขุนนางทุกคนต่างก็เอาอาหารที่ภรรยาทำมาจากที่บ้านไม่ว่าจะเป็นกับข้าวหรือของว่าง วางไว้บนโต๊ะของอ๋องซุน

อ๋องซุนโมโหมาก คนที่รู้สึกเสียดายอาหารมาแต่ไหนแต่ไรอย่างเขา รู้สึกเสียดายหากต้องโยนทิ้งไป ได้แต่เรียกให้พี่ซูเอาของว่างเหล่านี้ออกไปมอบให้กับขอทาน หลายวันผ่านไป นอกประตูศาลหงหรู ก็มีขอทานกลุ่มหนึ่งมานั่งเฝ้าอยู่ รอให้พี่ซูเอาของว่างออกมาให้

หลังจากลดน้ำหนักมาได้ครึ่งเดือน อ๋องซุนน้ำหนักลดลงไปห้าชั่งแล้ว ลดน้ำหนักมาตั้งหลายครั้ง ครั้งนี้ได้ผลมากที่สุด เขาดีใจมาก

อีกอย่าง หลังจากที่เขาผอมลงแล้ว ก็มีกำลังใจที่จะลดน้ำหนักมากขึ้น ความเชื่อมั่นก็ยิ่งมั่นคง คิดอยากจะผอมลงอีก บวกกับพวกซาลาเปาที่คอยวิ่งออกกำลังเป็นเพื่อนเขาทุกวัน ฮองเฮาก็มาให้กำลังใจทุกวัน ชาตินี้ของเขาไม่เคยมีช่วงเวลาที่ถูกจับตามองเช่นนี้มาก่อน

ที่สำคัญที่สุดคือ เขาจะต้องทำให้ชายาของตนเองเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อเขา

แต่ว่า หลังจากผ่านไปครึ่งเดือน ถึงช่วงหยุดนิ่งของการลดน้ำหนัก น้ำหนักไม่ได้ลดลงไป ต่อเนื่องกันสามวัน น้ำหนักไม่ได้ขยับไปไหนเลย เขาดูร้อนใจเป็นอย่างยิ่ง มีอารมณ์เสียอยู่บ้าง แต่ว่าวันนี้หงเย่ที่ไม่รู้จักพูดจาดีๆ กลับพาเจ้าลิงมาด้วย บอกว่าอยู่เป็นเพื่อนเป็นกำลังใจให้เขา

ท่านหมิงก็ส่งคนมา ส่งธัญพืชที่ปลูกบนภูเขามาให้บางส่วน บอกว่าดูเขามีแนวโน้มที่ดี ต้องชนะศึกในการท้าทายตัวเองครั้งนี้แน่นอน

อ๋องซุนเลือดลมพลุกพล่านทันที กินอาหารตามรายการอาหารอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มการฝึกฝนพละกำลังมากขึ้น ก่อนหน้านี้ได้ทำการเดินรอบจวนเหลิ่งหนึ่งรอบวิ่งหนึ่งรอบ ตอนนี้เปลี่ยนเป็นเดินสองรอบวิ่งสองรอบ และความยากก็ค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ความมุ่งมั่นที่อ๋องซุนแสดงออกให้เห็นในครั้งนี้ เหนือความคาดหมายของหลายคนมาก แม้แต่หยวนชิงหลิงก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะทำจนสุดความสามารถเช่นนี้ รู้สึกชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง

เจ้าสิบได้รับคำสั่งจากเสด็จพ่อ ก็มาลดน้ำหนักเป็นเพื่อนที่รอง บอกว่าให้เขาเรียนรู้ความมุ่งมั่นของพี่รอง

ทุกสายตาในเมืองหลวง ต่างก็จับจ้องมาที่ตัวของอ๋องซุน ลงเดิมพันไปแล้ว เริ่มรู้สึกเสียใจขึ้นมา แต่ว่าการเดิมพันได้หยุดลงไปตั้งนานแล้ว อยากจะเพิ่มเงินเดิมพันว่าเขาจะเป็นฝ่ายชนะก็ทำไม่ได้

คนที่เดิมพันว่าเขาชนะ ได้แอบดีใจอยู่เงียบๆแล้ว รอรับเงินที่จะชนะการเดิมพันอย่างตื่นเต้น

หรงเยว่เองก็มานั่งเฝ้าที่จวนเหลิ่งทุกวัน ทำหน้าที่เป็นผู้สังเกตการณ์ เช่นนี้เอง หยู่เหวินหลิงควบคุมน้ำหนักตัวเอง อ๋องซุนก็ผอมลง

ระยะเวลาหนึ่งเดือนมาถึงแล้ว อ๋องหวยให้คนยกตาชั่งไปที่หน้าประตูจวนเหลิ่ง นอกประตู มีประชาชนที่กรูกันมาราวกับน้ำทะเลขึ้น รอดูอ๋องซุนออกมาอย่างตื่นเต้น

เมื่อถึงยามอู่ อ๋องซุนสวมชุดผ้าไหมสีขาวทั้งตัว บริเวณเอวคาดเข็มขัดทองประดับหยก คางที่เคยเป็นสองชั้นตอนนี้ไม่มีแล้ว ใบหน้าที่เคยกลมมนตอนนี้มีเค้าโครงเว้าให้เห็นแล้ว แม้ว่าจะไม่ใกล้คำว่าผอมเงยสักนิด แต่เมื่อเทียบกับแต่ก่อนแล้ว นับว่าผอมลงมากจริงๆ

อ๋องซุนที่ผอมลงแล้ว ใบหน้าเผยให้เห็นแววองอาจผึ่งผายอยู่หลายส่วน ความหล่อเหลาที่มีเฉพาะในตระกูลหยู่เหวินตอนนี้ได้ค่อยๆเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้ว ท่าเดินก็ค่อนข้างมีความมั่นใจ ท่าทีสง่างาม

ระหว่างที่สายตาทั้งหมดต่างก็จ้องมองอยู่ เขาเลยหน้าขึ้นเชิดอกตรงขึ้นไปบนตาชั่ง อ๋องหวยที่รับผิดชอบในการดูตาชั่งกับอ๋องซุนต่างก็หัวใจเต้นรัว

ตุ้มชั่งน้ำหนักค่อยๆเดินไป คนที่เดิมพันว่าเขาแพ้ แต่ละคนสีหน้าเริ่มดำคล้ำลง

สุดท้าย อ๋องหวยประกาศ ในหนึ่งเดือนนี้ อ๋องซุนลดน้ำหนักไปได้สิบห้าชั่ง ได้เกินกว่าที่คาดคะเนไว้มาก

ขณะเดียวกัน ก็มีเสียงเฮอย่างดีใจและเสียงร้องคร่ำครวญ หรงเยว่ตบโต๊ะดังปัง ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มเรียกให้คนที่ชนะการเดิมพันมารับเงินไป

อ๋องซุนที่ไม่เคยได้ยินภรรยาชื่นชมตัวเองมาก่อน รู้สึกอึ้งตะลึงอยู่บ้าง“คนอื่นสร้างคุณงามความดี จึงจะเป็นคนเยี่ยมยอดที่แท้จริง ข้าก็แค่ลดน้ำหนัก จะนับว่ายอดเยี่ยมได้อย่างไร เข้าน่าจะบอกว่าข้าไร้ประโยชน์จะดีกว่า ข้าไม่เคยพยายามเพื่อเจ้าเลย”

พระชายาซุนส่ายหน้า โผเข้าไปในอ้อมอกของเขาอีกครั้งหนึ่ง เอ่ยเบาๆว่า “ข้าไม่ต้องการให้ท่านไปสร้างผลงานอะไร ไม่ต้องการให้ท่านมีปณิธานที่ยิ่งใหญ่ คนคนหนึ่งสามารถเอาชนะตัวเองได้ ก็เยี่ยมมากแล้ว ได้แต่งงานกับท่าน เป็นความสุขที่สุดในชีวิตของข้าแล้ว

อ๋องซุนได้ยินคำพูดนี้แล้วน้ำตาก็รื้นขึ้นมาที่ดวงตา อดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปกอดภรรยาเอาไว้ หลายปีมานี้นางเอาแต่ประชดประชันเขา เดิมคิดว่าในใจนางคงจะมีแต่ความไม่พอใจ คิดไม่ถึง นางกลับรู้สึกว่าการแต่งงานกับเขานั้นเป็นเรื่องที่มีความสุขที่สุด

ข้างนอก ใบหน้าของคนที่มามุงดูเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ค่อยๆสลายตัว พี่รอง แทบจะเป็นคนที่ให้ความรู้สึกว่าไร้ตัวตน แต่ว่าเขาก็ใช้ชีวิตอยู่บนความเป็นจริงมาตลอด ที่จริงพวกเขาสองสามีภรรยาต่างหากที่น่าอิจฉาที่สุด

อ๋องคนอื่นๆ ต่างก็ต้องผ่านประสบการณ์ชีวิตเหมือนคลื่นลมที่ขึ้นลงไม่นิ่ง และเรื่องความรักที่รุนแรงมาไม่น้อย มีเพียงพวกเขาที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายช่วยเหลือเกื้อกูลกัน น้อยๆแต่นานๆ

ดูแล้วชาตินี้ของพี่รองเหมือนจะไม่มีอนาคตซักเท่าไหร่ พี่สะใภ้รองไม่เคยรังเกียจเขาในจุดนี้เลย มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ก็ร่วมกันต้าน

พี่สะใภ้รองไม่ได้ให้กำเนิดลูกชายให้เขา พี่รองก็ไม่ได้รังเกียจนางตรงจุดนี้ ไม่ได้รับรองพระชายาเข้ามา นอกจากกิน ก็ไม่มีความชื่นชอบด้านอื่น ชาตินี้ ก็ไม่เคยคิดจะปล่อยมือของพี่สะใภ้รอง

ก่อนที่ทุกคนจะไปจากจวนเหลิ่ง ท่านชายสี่เหลิ่งพูดกับทุกคนว่า ชีวิตคนเรามีหลายรูปแบบ สามีภรรยามีหลายรูปแบบ ความสุขก็มีหลายรูปแบบ ขอเพียงรู้ว่าความสุขของตัวเองคืออะไร ไม่ไปอิจฉาหรือริษยาความสุขของผู้อื่น ก็จะไม่มีจิตใจที่เป็นทุกข์ ก็สามารถมีชีวิตที่ดี สามารถดำเนินต่อไปได้อย่างมั่นคง

ที่น่ากลัวที่สุดก็คือเจ้ามองดูคนที่อยู่ข้างกายคนนั้นแล้ว ทุกที่เต็มไปด้วยความธรรมดา ใช้ข้อเสียของเขาไปเปรียบกับข้อดีของผู้อื่น อยู่กันได้ไม่ยืดยาว ย่อมเต็มไปด้วยความชิงชัง ทำไมจึงไม่ลองหาข้อดีของคนที่อยู่ข้างกาย ขยายข้อดีของเขาให้ใหญ่ขึ้น อดทนต่อข้อเสียของเขาเล่า

บางที บางทีชีวิตอาจไม่ได้ยากลำบากอย่างที่เจ้าคิด

คำพูดของท่านชายสี่เหลิ่ง ทำให้ทุกคนต่างก็คิดอย่างลึกซึ้ง ตระหนักรู้ขึ้นมา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน