บนยอดเขาหมาป่าหิมะมีวัดศาลเจ้าแห่งหนึ่ง ในรัชสมัยของไท่ซ่างหวง ได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดฉือหยุน
นักพรตของวัดฉือหยุน บอกว่าตนเองเฝ้าปกป้องภูเขาหิมะกับหมาป่าหิมะ หลังจากยอดเขาหมาป่าหิมะ ถูกราชสำนักยกให้เป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาก็ยิ่งมีความรับผิดชอบ ทำหน้าที่เฝ้าปกป้องยอดเขาหมาป่าหิมะแทนราชสำนัก
บนเขามีนักพรตเพียงไม่กี่คน ล้วนอายุมากแล้ว คนชุดแรกที่มาที่นี่ เป็นนักพรตของวัดฮู่กว๋อ ต่อมาก็มีมาจากวัดฮู่กว๋ออีกหลายคน จนถึงตอนนี้ ไม่มีนักพรตที่อายุน้อยขึ้นไปอีกแล้ว เพราะวัดฉือหยุนมีกฎปฏิบัติที่เข้มงวดมาก ศีลไม่สูง ความบำเพ็ญไม่ถึง ล้วนไม่สามารถขึ้นเขา
และนักพรตคนที่อายุน้อยที่สุดในตอนนี้ ปีนี้ก็อายุหกสิบแล้ว
ฮ่องเต้กับฮองเฮามาถึงวัดฉือหยุน เจ้าอาวาสพานักพรตออกมาต้อนรับด้วยตนเอง ทั้งหมดมีห้าคน
หลังจากพาฮ่องเต้กับฮองเฮาเข้าไปแล้ว ก็ต้อนรับด้วยน้ำชารสฝาดขม หยวนชิงหลิงยังอยู่ในอาการเหม่อลอย ทุกอย่างที่นี่ยังคงสัมผัสได้ถึงลมหายใจและความแค้นของเหลิ่งเฟิ่งชิง
นางก้าวเข้าไปทีละก้าว จากนั้นก็เดินวนรอบวัดฉือหยุน หลังหยู่เหวินเห้ากับสวีอีเดินตามนางครบหนึ่งรอบ แล้วค่อยนั่งลงมาดื่มหนึ่งชา พร้อมถามถึงเรื่องเมื่อสามสิบหกปีก่อน
เจ้าอาวาสได้ยินฮ่องเต้ ถามถึงเรื่องเมื่อสามสิบหกปีก่อนว่า ได้ช่วยชีวิตผู้หญิงคนหนึ่งไว้ไหม เขานิ่งอึ้งไปชั่วขณะ สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย พร้อมพูดขึ้นว่า “ผู้หญิงเมื่อสามสิบหกปีก่อน ฮ่องเต้ พระองค์รู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?”
หยู่เหวินเห้าได้ยินเช่นนี้ ก็โล่งอกขึ้นมาในทันที เหลิ่งเฟิ่งชิงถูกช่วยเหลือไว้จริงๆด้วย
“เจ้าอาวาส เจ้ารู้มากน้อยแค่ไหน ก็เล่าให้ข้าฟังแค่นั้น ห้ามปิดบัง” หยู่เหวินเห้าเอื้อมมือไปจับมือของหยวนชิงหลิงไว้ แล้วพูดกับเจ้าอาวาส
เจ้าอาวาสถอนหายใจยาว พร้อมพูดขึ้นว่า “เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ข้ากระทำผิดที่สุดในชีวิต ตอนนี้เมื่อหวนกลับไปคิดดู ก็จะรู้สึกผิดต่อผู้ชายคนนั้น”
“ผู้ชายคนนั้น? ไม่ใช่ผู้หญิงหรือ?” หยู่เหวินเห้าอึ้งไป
เจ้าอาวาสจึงเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนั้นว่า “ปีนั้นอากาศหนาวอย่างมาก น้ำที่สาดกลายเป็นน้ำแข็ง ก่อนจะเข้าสู่ฤดูหนาว ผักที่ปลูกไว้ยังไม่ทันได้เก็บก็เสียแล้ว ไม่มีทางเลือก จึงต้องส่งคนลงเขาไปซื้อของกินมา ตอนนั้นข้ายังอายุน้อย จึงเสนอตัวลงเขาไป เพิ่งเดินไปได้ไม่นาน ก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งอุ้มผู้หญิงคนหนึ่งที่เปื้อนไปด้วยเลือดมาก ผู้ชายคนนั้นคุกเข่าอยู่ไกลๆ ขอร้องให้ข้าช่วยชีวิตผู้หญิงคนนั้น เดิมดินแดนบริสุทธิ์ทางพุทธศาสนา ช่วยชีวิตรักษาคนถือเป็นสิ่งที่สมควร แต่ตอนนั้นข้าบำเพ็ญยังไม่แตกฉาน รู้สึกว่าผู้หญิงคนนั้นเต็มไปด้วยเลือดแห่งความแค้นเคือง นึกว่าเป็นคนว่าชั่วร้าย ไม่ยอมพาพวกเขากลับไปที่วัด แต่ก็ทำไม่ได้ที่จะไม่ช่วยชีวิตพวกเขา จึงพาพวกเขาไปที่หลังเขา ด้านหลังเขามีถ้ำแห่งหนึ่ง สามารถให้พวกเขาอยู่ได้ชั่วคราว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...