หยวนชิงหลิงอดทนต่อความตื่นเต้นในใจไม่ไหว รีบถามเจ้าอาวาสว่า “ท่านรู้ว่าเหลิ่งเฟิ่งชิงไปไหนแล้วหรือไม่?”
ถึงแม้จะผ่านไปสามสิบหกปี และนางก็เป็นบ้าไปแล้ว แต่หากนางมีความสามารถเพียงพอที่จะดูแลตัวเอง ก็ยังมีความหวังที่จะยังมีชีวิตอยู่ เพราะมีเพียงนางยังมีชีวิตอยู่ การเปลี่ยนแปลงนี้ถึงจะมีความหมาย
เจ้าอาวาสถอนหายใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “หลังจากประมุขตระกูลเหลิ่งเสียสติ คิดว่าลูกของตนเองยังมีชีวิตอยู่ คิดแต่เพียงว่าจะออกไปตามหาลูกมาตลอด ลงจากดอยไปแล้วหลายครั้ง ห้ามยังไงก็ห้ามไม่ไหว แต่สุดท้ายแล้วก็ยังกลับมา ตอนนี้ยังอยู่ที่หลังเขาของวัด พวกเราสร้างกระต๊อบเล็กๆให้นางอยู่ กอดหมอนทั้งวันเหมือนกอดลูกชายของตน ข้าเคยคิดที่จะแย่งหมอนใบนั้น นางเสียสติขึ้นมาเกือบที่จะฆ่าข้า”
“เจ้าห้า นางยังมีชีวิตอยู่ นางยังมีชีวิตอยู่” หยวนชิงหลิงน้ำตาไหล ในใจทั้งเจ็บปวดทั้งดีใจ สามสิบหกปี ผ่านมาอย่างเสียสติ โชคดีที่ลืมเรื่องราวที่ผ่านมา ไม่ต้องมีชีวิตอยู่อย่างทนทุกข์ทรมาน
หยู่เหวินเห้าเอื้อมมือเช็ดน้ำตาให้กับนาง น้ำตาของตนเองก็ยากที่จะกลั้นไว้ อัดอั้นใจมาหลายวัน ในที่สุดก็ได้เห็นข่าวดีที่สุด
“เจ้าอาวาส รบกวนท่านพาพวกเราไปหานางด้วย” หยวนชิงหลิงลุกขึ้นมาพนมมือพร้อมพูดขึ้น
เจ้าอาวาสรีบลุกขึ้นมายกมือประสานกลับ พร้อมพูดขึ้นว่า “ฮองเฮาไม่ต้องเกรงใจขนาดนี้ หากท่านอยากเจอ ข้าจะพาท่านไป”
หยู่เหวินเห้าจับมือหยวนชิงหลิงไว้ พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าก็จะไปด้วย”
เจ้าอาวาสพยักหัวเล็กน้อย เดินนำพาพวกเขาทั้งสามคนไปหลังเขา
บริเวณวัดไม่ใหญ่ แต่อ้อมไปด้านหลังเขา ยังคงมีระยะไกลอยู่บ้าง ถนนบนเขาเดินไม่สะดวก มีความสูงเล็กน้อย ไม่กล้าเดินอย่างเร่งรีบ เดินกว่าครึ่งชั่วโมงค่อยถึง
แล้วก็เห็นบ้านไม้หลังเล็กๆ บนพื้นราบใต้ยอดเขา บ้านไม้มีขนาดเล็กมาก คาดว่าไม่ถึงสิบตารางเมตร ค่อนข้างทรุดโทรม หลังคากองเต็มไปด้วยฟางแห้ง ไม่มีพืชอะไรอยู่หน้าประตู ค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ เห็นมีก้อนหินก้อนใหญ่อยู่ข้างบ้านไม้ ข้างล่างมีเก้าอี้เก่าอยู่ตัวหนึ่ง บนเก้าอี้มีคนคนหนึ่งนั่งอยู่ ถือหมอนผ้าฝ้ายอยู่ในมือ ผู้หญิงคนนั้นผมเผ้ารุงรัง เสื้อผ้าก็สกปรกอย่างมาก สกปรกจนเป็นมันเงา
นางสวมรองเท้าผ้าฝ้ายสีดำกว้างหนึ่งคู่ เผยให้เห็นนิ้วเท้า 2 นิ้ว อุณหภูมิบนภูเขายังค่อนข้างต่ำ นางสวมเสื้อผ้าตัวบาง กลับดูไม่หนาวเลย นางดูผอมมาก ผอมจนเห็นหนังหุ้มกระดูก ได้ยินเสียงฝีเท้า นางเงยหัวขึ้น เผยให้เห็นดวงตาที่แข็งกร้าวเพื่อป้องกันตัว กอดหมอนในมือไว้แน่น เท้าที่เหยียดออกหดกลับไป เหมือนกำลังอยากจะหนี
แต่อาจจะเป็นเพราะมองเห็นเจ้าอาวาส ความตึงเครียดในแววตาของนางค่อยลดลง แต่ก็ยังคงกอดหมอนไว้แน่น
บนใบหน้าของนางสกปรกมาก เส้นผมที่หน้าผากจับเป็นก้อน ติดอยู่บนหน้าผาก ดูรูปโครงหน้าตาแล้ว หยวนชิงหลิงก็น้ำตานองหน้า
ท่านชายสี่กับนาง เหมือนกันมากเลย คิดมาตลอดว่าใบหน้าของท่านชายสี่ สวยงดงามอย่างมาก แต่ไม่รู้ว่าตอนที่เหลิ่งเฟิ่งชิงเป็นสาว จะสวยงดงามขนาดไหน ตอนนี้ถึงแม้จะสกปรก บนใบหน้าก็ยังมีร่องรอยของความงดงาม ถึงแม้จะผอมอย่างมาก แต่ก็ยังสามารถมองเห็นความงดงามของนางในอดีตได้จากใบหน้าของนาง
หยวนชิงหลิงให้พวกหยู่เหวินเห้ารออยู่ด้านข้าง ไม่ต้องเดินเข้าไปใกล้ ส่วนนางค่อยๆเดินเข้าไป ห่างกันประมาณสามสี่เมตร เหลิ่งเฟิ่งชิงรีบลุกขึ้นมา อุ้มหมอนไว้แล้วก็จะวิ่งเข้าไปหลบในห้อง
หยวนชิงหลิงรีบหยุดฝีเท้า อดกลั้นน้ำตาไว้ พร้อมพูดขึ้นอย่างสะอึกสะอื้นว่า “เสื้อผ้าของลูกเจ้าขาดแล้ว ข้าอยากช่วยเจ้าเย็บ เจ้าอย่าพึ่งไป ข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย”
มือของเหลิ่งเฟิ่งชิงจับหมอนไว้แน่น ด้านข้างหมอนมีรอยขาด จนปุ้ยฝ้ายหลุดออกมา นางใช้นิ้วมือยัดเข้าไปข้างใน แล้วก็มองดูหยวนชิงหลิงอย่างทำตัวไม่ถูก
หยวนชิงหลิงขยับเดินไปข้างหน้า พร้อมพูดขึ้นอย่างระมัดระวังว่า “เสื้อผ้าขาดแล้ว ลูกจะหนาว เมื่อหนาวแล้วจะทำให้ป่วย ให้ข้าช่วยเจ้าเย็บดีไหม?”
นางไม่พูดอะไร แต่สายตาที่คอยระวังไม่หนักหนาขนาดนั้นแล้ว
“ข้าก็มีลูก โตขนาดนี้เหมือนกัน” หยวนชิงหลิงพูดขึ้น
สายตาของนางเป็นประกายขึ้นมาทันที พร้อมพูดขึ้นว่า “ลูก?”
“ใช่ ข้าก็เป็นแม่ ข้าเย็บผ้าเป็น ให้ข้าช่วยเจ้าดีไหม?” หยวนชิงหลิงขยับเข้าไปใกล้อีก ห่างจากนางเพียงสามสี่ก้าวเท่านั้นแล้ว
นางหันหน้าไป เหมือนกำลังครุ่นคิด ลมพัดโบยมา ผมด้านข้างของนางปลิวขึ้น เผยให้เห็นหน้าผากดำประกาย มีกลิ่นโชยมา ไม่รู้ว่านางไม่ได้อาบน้ำมากี่ปีแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...