ตอนที่เดินทางมาถึงทะเลสาบจิ้ง อ๋องชินเฟิงอันได้รับจดหมายจากนกพิราบ หลังจากดูข้อความในจดหมายนกพิราบ สีหน้าของเขามืดหมนลง
พระชายาเห็นแล้ว ก็เดินไปถามขึ้นว่า “เกิดอะไรขึ้นหรือ?”
อ๋องชินเฟิงอันยื่นจดหมายให้นาง สายตาเป็นประกายไฟ พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าดูเอง”
พระชายารับมาเปิดอ่านดู ในจดหมายมีอักษรเพียงไม่กี่แถว เขียนเล็กน้อยมาก เป็นการรายงานอย่างกระชับ หลังจากพระชายาอ่านจบแล้ว ก็พูดขึ้นอย่างโกรธแค้นว่า “เหยี้ยนจือหยู เวรกรรมจะต้องตามสนองเจ้า”
ในใจหยวนชิงหลิงหนักอึ้ง รีบขยับเข้ามาดู แล้วก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมาในทันที ในจดหมายเขียนไว้ว่า มีปรมาจารย์แนะนำให้เหยี้ยนจือหยูกำจัดสุสานตระกูลเทียนซ่วนที่อยู่บนภูเขาซีซาน โดยใช้ไฟเผา ก็จะสามารถบรรเทาภัยพิบัติน้ำท่วมในเมืองเฟิงตูของปีนี้ได้
ตอนนั้นเมื่อคนของตระกูลเทียนซ่วนถูกฆ่าตายแล้วทั้งหมด เพื่อไม่ให้คนวิพากษ์วิจารณ์ เหยี้ยนจือหยูใช้สถานะที่เป็นประมุข ทำพิธีฝังศพให้กับพวกเขา สร้างสันติสุขร่มเย็น สร้างชื่อเสียงที่ดีงาม คนถูกสั่งไปตั้งสามสิบหกปีแล้ว ยังจะคิดเผาโครงกระดูกของพวกเขา ถือเป็นการเผาเป็นเถ้าถ่านจริงๆ
คนเลวแบบนี้ ไม่ลงนรกสิบแปดชั้น ระงับโทสะได้ยาก
อ๋องชินเฟิงอันพูดขึ้นว่า “วันก่อนองครักษ์ฟ้าผ่าเพิ่งรายงานกลับมาว่า เหยี้ยนจือหยูหาคนมาดูดวง เวรกรรมที่เคยทำไว้จะตามมาสนอง ตระกูลเหยี้ยนจะต้องรับกรรม เขาเผาสุสานตระกูลเทียนซ่วน คงเพราะเพื่อหลีกเลี่ยงหายนะนี้”
พระชายาหัวเราะเย้ย พร้อมพูดขึ้นว่า “ต่อให้ไม่มีความยุติธรรมอีกแค่ไหน ก็ทนรับไม่ได้กับคนเลวร้ายอย่างเขาเช่นนี้ แต่หมอดูดวงคนนั้นก็ถือว่าดูแม่น ปีนี้เป็นปีที่เขาจะต้องชดใช้กรรมที่เคยก่อ”
พระชายาหันมามองดูหยวนชิงหลิง พร้อมพูดขึ้นด้วยสายตาแผดเผาด้วยความโกรธแค้นว่า “รอเมื่อเจ้ากลับมา เหลิ่งซี่จะไปเมืองเฟิงตูด้วยตนเอง เพื่อจบเรื่องของพวกเขา เจ้าจะต้องประสบความสำเร็จ หากไม่สำเร็จ หากต้องฆ่าเขาจริงๆ มันไม่สาสม”
หยวนชิงหลิงโกรธจนอกแทบระเบิดจริงๆ คนๆ หนึ่งจะเลวทรามได้สักเพียงไร? นางคิดว่าอย่างน้อยก็ควรที่จะมีขีดจำกัด แต่นางไร้เดียงสาเกินไปจริงๆ เหยี้ยนจือหยูหลอกใช้ตระกูลเทียนซ่วนจนถึงที่สุดแล้ว ตอนนี้คนก็ตายไปนานขนาดนี้แล้ว ยังจะไปขุดเผาสุสาน ไม่มีขีดจำกัดเลย
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นว่า “ตอนนี้เขายังไม่ได้เผาสุสานใช่ไหม? ขอเพียงเป็นเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น ก็สามารถหยุดได้ พระชายา ท่านส่งคนไปที่นั่นแล้วไม่ใช่หรือ?”
“จะขัดขวางไว้อย่างแน่นอน” สายตาพระชายาโหดเหี้ยมขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นว่า “รอเมื่อเจ้ากลับมาแล้ว ข้าจะไปเมืองเฟิงตูด้วยตนเอง ไปดูหน้าเขาให้ดีสักครั้ง”
หยวนชิงหลิงรู้ว่าเมื่อก่อน พระชายาเป็นคนที่ใจร้อนอย่างมาก ตอนนี้สุขุมลงมากแล้ว แต่ไม่ลงมือยังดี เมื่อได้ลงมือ กลัวเพียงแต่ว่าจะเป็นภัยพิบัติร้ายแรง
อย่าว่าแต่พระชายาอยากไปเมืองเฟิงตู นางก็อยากไป ไม่ได้เห็นพวกเขาทุกข์ทรมานกับตาตัวเอง ก็ไม่สามารถคลายความแค้นในใจได้
ถึงแม้อ๋องชินเฟิงอันไม่พูดอะไร แต่ดูจากสีหน้าที่มืดมนแล้วจะเห็นได้ว่า เขาก็โกรธจัดจริงๆ
น้ำวนทะเลสาบจิ้งยังมีเยอะมาก ความเร็วในการหมุนใช้สายตาเปล่ามองดูก็ไม่ต่างกันมาก เมื่อก่อนเวลาหยวนชิงหลิงมองน้ำวนพวกนี้ จะไม่เห็นอะไร แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว ทุกอย่างในน้ำวนล้วนมีเงาภาพ เพียงแต่จะแยกแยะจากภาพพวกนี้ว่าเป็นช่วงเวลาไหน ยังคงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก
อีกอย่าง ที่จริงเงาภาพมากมายพวกนี้ล้วนเห็นเพียงประเดี๋ยวเดียว เหมือนดั่งเห็นภาพเมืองหลวง แต่ไม่รู้ว่าเป็นปีไหน เดือนไหน วันอะไร
พวกนี้ต้องมีการวิเคราะห์อย่างรอบคอบ นอกจากนี้ยังมีความเข้าใจเกี่ยวกับธรณีสัณฐานวิทยาที่สอดคล้องกับช่วงเวลาของประวัติศาสตร์หรือเวลานั้นด้วย
พระชายาเองก็อาจจะไม่รู้ นี่เป็นความชำนาญของอ๋องชินเฟิงอัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...