วันนี้นางไม่ได้ออกจากวัง แต่เป็นพระชายาชินเฟิงอันที่เข้าวังมาหานางแทน
หยวนชิงหลิงจำเรื่องที่เห็นเงาร่างในจวนท่านชายสี่เมื่อคืนวานได้ นางรู้ว่าตัวเองไม่ได้ตาฝาดไปเอง บางทีนั่นอาจจะเป็นพระชายาชินเฟิงอันในอีกหลายปีให้หลัง ที่ตั้งใจกลับมาเยี่ยมดูบรรดาคนที่นางห่วงใย
หลังจากเชิญพระชายาให้ไปนั่งที่ห้องโถงหลัก พร้อมกับยกชาไปต้อนรับแล้ว พระชายาก็พูดถึงจุดประสงค์ที่มาตรง ๆ ว่า “พรุ่งนี้พวกเราจะกลับไปสักครั้ง เจ้ามีอะไรที่ต้องการให้ข้าส่งต่อหรือมีคำพูดอะไรให้ข้านำกลับไปหรือไม่?”
“ท่านจะกลับไปรึ?” หยวนชิงหลิงตกใจจนผงะ นางไม่ได้บอกว่าจะอยู่ที่นี่หรอกหรือ?
“มีธุระนิดหน่อย ต้องกลับไปสักครั้ง แต่จะกลับมาอยู่นะ” พระชายาพูด
“โอ้!” หยวนชิงหลิงค่อยรู้สึกสบายใจขึ้นมา เพราะถ้านางไม่กลับมาแล้วจริง ๆ ท่านอ๋องจะไม่โมโหโกรธาแทบตายเลยรึ?
“หรือไม่เจ้าก็ลองถามเจ้าห้าดูว่า เขาต้องการฝากคำพูดอะไรไปให้เด็ก ๆ หรือไม่ ข้าได้ยินเสด็จปู่ใหญ่ของเจ้าบอกว่า เมื่อคืนพวกเขาคุยกัน เจ้าห้าเอาแต่พูดถึงลูก ๆ อยู่ตลอดเลย คาดว่าเขาคงจะคิดถึงลูก ๆ แทบแย่แล้ว"
“ได้ หลังจากนี้ข้าจะลองถามเขาดู ท่านจะกลับไปเมื่อไหร่รึ? ไปทำอะไรล่ะ?”
“พาฉู่เสี่ยวอู่กลับไปตรวจร่างกาย เมื่อคืนหลังจากที่เขากลับไป เขาก็เอาแต่บ่นว่าปวดหัว พอข้าสอบถามโดยละเอียดถึงรู้ว่าช่วงนี้เขามักจะปวดหัวบ่อย ๆ อันที่จริง เขาควรจะกลับไปตรวจอาการตั้งนานแล้ว ข้าปรึกษากับคุณย่าของเจ้าแล้ว นางก็แนะนำว่าให้กลับไปตรวจสอบดูอีกทีจะดีกว่า ดังนั้นจึงไม่อยากชักช้าเสียเวลา คิดว่าจะไปเลยทันที” พระชายาตอบ
“ปวดหัว? หนักมากหรือไม่?” หยวนชิงหลิงเริ่มเป็นกังวล
พระชายาตอบว่า “ป้องกันไว้ก่อน เผื่อมีบางอย่างไม่ดี ดังนั้นเลยต้องไปตรวจให้เร็วที่สุด ถ้ารู้ปัญหาก็จะได้รักษาได้ทันท่วงที”
หยวนชิงหลิงพยักหน้าอย่างร้อนรน “ใช่ ใช่แล้ว ถ้าอย่างนั้น โสวฝู่ต้องรบกวนท่านเป็นธุระแล้ว ขอบคุณท่านมากเจ้าค่ะ”
พระชายาปรายตามองนางแวบหนึ่ง “การที่เจ้ามาพูดอะไรแบบนี้กับข้า มันทำให้ข้ารู้สึกไม่ชินเอาเสียเลย เด็ก ๆ ที่ข้าดูแลมาตั้งแต่เล็กจนโต ... ช่างเถอะ อย่างไรก็เคยขาดกันไป"
หยวนชิงหลิงมองออกว่า พระชายามีความรู้สึกเสียดายอยู่ เป็นความเสียดายที่นางไม่ได้อยู่เคียงข้างพวกเขาตลอดเวลา
แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ตอนนี้พวกเขาก็ได้ใช้ชีวิตบั้นปลายด้วยกันแล้ว
หยวนชิงหลิงถามว่า "อู๋ซ่างหวงกับเซียวเหยากงจะไปด้วยหรือไม่เจ้าคะ?"
พระชายาตอบว่า “ทันทีที่พวกเขาได้ยินว่าจะพาฉู่เสี่ยวอู่ไปตรวจร่างกาย ก็รีบเก็บข้าวของกันทันทีเลยเชียวล่ะ”
หยวนชิงหลิงหลุดหัวเราะ ใช่แล้ว พวกเขาตกลงกันไว้แล้วว่า จะเดินหน้าหรือถอยหลังก็จะไปด้วยกัน พวกเขาย่อมตามไปด้วยเป็นธรรมดา
เมื่อเจ้าห้ากลับมากินมื้อกลางวัน หยวนชิงหลิงก็พูดเรื่องที่พระชายาจะกลับไปให้เขาฟัง แล้วถามเขาว่าเขามีคำพูดอะไรที่จะฝากไปให้เด็ก ๆ หรือไม่
หยู่เหวินเห้ามีคำที่อยากพูดเป็นหมื่นเป็นพันคำ แต่เมื่อเขาเขียนลงไป กลับบอกให้ทุกคนตั้งใจเรียน อย่าสร้างปัญหา และไม่ต้องคิดถึงทางบ้านกับพ่อมากจนเกินไปนัก จากนั้น เนื้อหาที่เหลือก็ใช้เรื่องของน้องสาวมาเขียนเติมพื้นที่ให้เต็ม เพื่อไม่ให้จดหมายดูมีคำที่น้อยจนเกินไป
หลังจากเขียนจดหมายเสร็จ ก็สั่งให้กู้ซือนำไปส่งให้พระชายาด้วยตัวเอง
วันรุ่งขึ้น กลุ่มของพระชายาก็ออกเดินทางไปทะเลสาบจิ้ง
สามวันต่อมา จดหมายก็ถูกส่งไปถึงมือเด็ก ๆ พวกเด็ก ๆ ต่างรีบเข้ามาแย่งกันอ่าน โดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับน้องสาว ที่อ่านซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบ ทำให้คิดถึงน้องสาวขึ้นมา
แต่สุดท้าย ซาลาเปากลับหลุดขำออกมา พูดว่า “พ่อบอกว่าพวกเราไม่จำเป็นต้องคิดถึงเขามากเกินไป พวกเราไม่ได้คิดถึงเขาเสียหน่อย พ่อชอบสำคัญตัวเองผิดอยู่เรื่อยเลย”
ทังหยวนเอามือท้าวคาง "ข้าคิดถึงน้องสาวมากเลย"
เมื่อทังหยวนพูดแบบนั้น เด็ก ๆ ที่เหลือก็พากันท้าวคาง จริงด้วย คิดถึงน้องสาวจังเลย ถ้าน้องสาวอยู่ที่นี่ด้วยจะดีสักแค่ไหนนะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...