บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1598

อะซี่เห็นทุกคนต่างก็ไม่เป็นห่วงความปลอดภัยของป้าเจ็ด จึงถามขึ้นว่า “ป้าเจ็ดส่งจดหมายมาแล้วใช่ไหม?”

“ฮูหยินสามหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “ใช่ ฉันเขียนจดหมายมาแล้ว บอกว่าจะท่องเที่ยวหลายวัน แล้วค่อยกลับเมืองหลวง””

อะซี่ค่อยโล่งอก พร้อมพูดขึ้นว่า “ทำไมไม่รอให้ป้าเจ็ดกลับมาเมืองหลวงแล้วค่อยสู่ขอ? หากนางไม่ยินยอม เรื่องนี้ก็จะต้องเก้อ”

เหล่าไท่จวินเมิน พร้อมพูดขึ้นว่า “ถูกคนอื่นกินจนหมดสิ้นแล้ว ยังคิดจะไม่ยอม? นางกล้าไม่ยินยอม ข้าก็จากแขวนคอตายไปเลย”

เริ่มตั้งแต่นางอายุสิบแปด ก็รอคอยวันที่นางจะได้แต่งงาน รอคอยจนผมขาวหมดแล้ว ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้แต่งงาน หากครั้งนี้ยังไม่ได้แต่งงานออกไป งั้นนางก็ไม่ขอมีชีวิตอยู่แล้ว

ทุกคนต่างก็คาดหวังรอคอยให้แม่นางเจ็ดได้แต่งงาน ดังนั้นเรื่องนี้จะต้องรีบจัดการให้สำเร็จ

“อะซี่ เขียนจดหมายให้นกกางเขนเอาไปให้ป้าของเจ้า บอกให้นางกลับมา บอกว่าข้าป่วยหนัก ใกล้จะตายแล้ว” เหล่าไท่จวินมีคำสั่งลงไป

เพื่อหลอกให้ลูกสาวกลับมา แม้แต่การสาปแช่งตนเองก็ต้องกระทำ ถือเป็นคนเฒ่าที่โหดเหี้ยมคนหนึ่ง

สวีอีพาทังหยางเข้าวัง หาแม่สื่อไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องไปหาฮองเฮา

ในตำหนักเสี้ยวเยว่ หยู่เหวินเห้าสองสามีภรรยาได้ยินว่า ทังหยางนอนกับแม่นางเจ็ดแล้ว ก็ตกตะลึงตาค้าง มองหน้ากันพูดไม่ออกอยู่เนิ่นนาน

สีหน้าหยู่เหวินเห้าค่อนข้างซับซ้อน พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าคิดว่า เจ้าควรเปิดใจคุยกับแม่นางเจ็ด แต่คิดไม่ถึงว่าเจ้า.... เจ้าไม่แสดงออกแต่เมื่อแสดงออกแล้วก็ต้องตะลึงงัน”

ทังหยางเอามือปาดเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่สบายใจ หากยังไม่เห็นนาง ในใจก็ยังกระวนกระวาย พูดขึ้นพร้อมเสียงสะอึกสะอื้นว่า “ฝ่าบาท ตอนนี้ไม่ใช่เวลาพูดเช่นนี้ ขอพระองค์ส่งคนไปตามหา ดูว่านางไปที่ไหน ข้าต้องมั่นใจว่านางปลอดภัย”

หยู่เหวินเห้ามองดูนาง แล้วก็พูดเตือนขึ้นอย่างอดไม่ได้ว่า “เจ้าโง่หรือ ร้อนใจจนเลอะเลือนแล้วใช่ไหม? ตระกูลหยวนให้เจ้าไปสู่ขอ แต่ไม่ใช่ให้เจ้ารีบออกไปตามหาคน แสดงว่าคนของตระกูลหยวนรู้ว่านางปลอดภัยดี ดังนั้นจึงใช้ให้เจ้าไปสู่ขอ”

สายตาทังหยางฉายแววดีใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “เป็นเช่นนี้จริงหรือ?”

หยวนชิงหลิงพูดขึ้นว่า “แม่นางเจ็ดเป็นถึงใคร? จะคิดฆ่าตัวตายเพียงเพราะเรื่องเช่นนี้หรือ?”

หลายปีที่ผ่านมานางเดินทางไปทางใต้ทางเหนือ พายุอะไรที่นางไม่เคยประสบมาบ้าง?

ทังหยางคิดว่าฝ่าบาทกับฮองเฮาพูดมีเหตุผล หัวใจที่ห้อยอยู่ก็ค่อยผ่อนคลายลง

“ฮองเฮา งั้นท่านเป็นแม่สื่อไหม?” สวีอีถามขึ้น

ตอนนั้นที่สวีอีแต่งงาน เจ้าหยวนก็เป็นคนไปเป็นแม่สื่อ ในใจสวีอีคิด ฮองเฮาไปเป็นแม่สื่อ จะต้องสมหวังอย่างแน่นอน

ดังนั้น เขาหวังอยากให้หยวนชิงหลิงไปช่วยเป็นแม่สื่อให้กับทังหยาง จัดการเรื่องนี้ให้สมหวัง

หยวนชิงหลิงพูดขึ้นว่า “ข้าเต็มใจทำให้ได้อยู่แล้ว ใต้เท้าทัง เจ้าคิดเห็นอย่างไร?”

ในใจทังหยางค่อนข้างหวาดกลัว พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าเพียงกลัวเพียงว่านางจะไม่ตกลง”

“นางตอบตกลงหรือไม่ นั่นเป็นเรื่องของนาง แต่เจ้าต้องแสดงท่าทีของเจ้า เหตุผลแค่นี้เจ้าไม่รู้แล้วหรือ?” หยู่เหวินเห้ามองดูทังหยาง คิดถึงเมื่อก่อนทังหยางยังสอนเขาเกี่ยวกับการอยู่ร่วมกันระหว่างชายหญิง โชคดีที่ไม่ได้ฟังเขาทุกอย่าง ไม่อย่างนั้นเขากับเจ้าหยวนไม่ได้มีความสุขขนาดนี้แน่

ทังหยางเหมือนคิดขึ้นมาได้ พยักหัวพร้อมพูดขึ้นว่า “ใช่ ใช่ ฝ่าบาทพูดมีเหตุผล ไปสู่ขอก่อน”

“เจ้าหยวน เรื่องนี้เจ้ารับเป็นธุระได้ไหม?” หยู่เหวินเห้าถามหยวนชิงหลิง

หยวนชิงหลิงหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “เรื่องใหญ่ในชีวิตของใต้เท้าทัง ไม่เป็นธุระให้จะได้หรือ? ข้าจะไปเตรียมตัวเดี๋ยวนี้ พรุ่งนี้เตรียมของฝากไปบ้านตระกูลหยวนกัน”

ทังหยางพูดขึ้นอย่างซาบซึ้งใจว่า “ขอบพระทัยฝ่าบาท ขอบพระคุณฮองเฮา”

“ไม่ต้องเกรงใจ รีบลุกขึ้นมา เราเป็นครอบครัวเดียวกันแต่แรกแล้ว” หยวนชิงหลิงพูดขึ้น

มายุคโบราณตั้งนานหลายปีขนาดนี้ ยังไงก็ยอมรับการแบ่งชั้นวรรณะไม่ค่อยได้ ทุกคนผ่านความเป็นความตายมาด้วยกัน ยังจะแบ่งชั้นวรรณะอะไรกัน

รายได้อันน้อยนิดของทังหยาง ไม่ได้มากมายอะไร ดังนั้นหยวนชิงหลิงจึงสั่งให้กรมวังจัดเตรียมของฝาก

หยวนชิงหลิงรู้ว่าทางด้านตระกูลหยวนจะต้องตอบตกลงแน่ เพียงแค่อยากให้มีพิธีการ เหล่าไท่จวินอยากที่จะให้แม่นางเจ็ดแต่งงานที่สุด สิ่งกีดขวางเพียงอย่างเดียวของตระกูลหยวน กลับเป็นแม่นางเจ็ดเอง ดีที่แม่นางเจ็ดยังไม่กลับมา ดังนั้นเรื่องนี้สำเร็วไปแล้วเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์

และแล้ว วันรุ่งนึ้นหยวนชิงหลิงพาทังหยางมาถึงตระกูลหยวน ทางด้านตระกูลหยวน แม้แต่หมอดูก็เตรียมพร้อมแล้ว บอกว่าให้ตรวจดวงอักษรแปดตัว(วันเดือนปีเกิด)กันเลย

หมอดูคำนวณอักษรแปดตัวของทั้งสองคนก่อนสักพัก หมอดูครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ขมวดคิ้วพูดขึ้นด้วยเสียงต่ำว่า “อักษรแปดตัวของทั้งสองคน ค่อนข้างขัดแย้งกัน"

หยวนเหล่าไท่จวินพูดขึ้นด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตรว่า “ขัดแย้งกันตรงไหน?”

“คนหนึ่งเกิดปีนะกา คนหนึ่งเกิดปีจอ ไก่สุนัขอยู่ไม่เป็นสุข เกรงว่าต่อไปหลังจากแต่งงานแล้วจะ...”

เหล่าไท่จวินตบโต๊ะ พร้อมพูดขึ้นว่า “งั้นก็แก้ ข้าจำได้ว่าลูกสาวข้าเกิดปีมะเมีย เมื่อกี้จำผิดไป”

“ปีมะเมีย? ปีมะเมียได้ คนเกิดปีปีมะเมีย แต่งงานปีนี้.....”

เหล่าไท่จวินไม่รอให้หมอดูพูดจบ ก็ยกมือพูดขึ้นว่า “ได้ก็พอ ไม่ต้องพูดแล้ว รบกวนท่านเลือกวันมงคลสักวัน”

หมอดูรีบเอากระดานขึ้นมาคำนวณอีกครั้ง พร้อมพูดขึ้นว่า “ปีนี้วันมงคลมีไม่มากแล้ว เร็วที่สุดก็ต้องรอถึงสิ้นปี....”

“ได้ งั้นก็เอาตามท่านบอก วันที่สิบห้าเดือนนี้ คืนวันเพ็ญพระจันทร์เต็มดวง ครองคู่กันในคืนวันเพ็ญ ดีไหม?”

“…..” หมอดูเก็บกระดานคำนวณ ก้มตาก้มตา พร้อมพูดขึ้นว่า “ดี”

ลูกสาวของท่านจะแต่งงาน ท่านว่าอย่างไรก็ว่าอย่างนั้น หากสามารถจัดเตรียมงานแต่งงานทัน

ตอนนี้ห่างจากวันที่สิบห้า เหลืออีกแค่ห้าวัน ลูกสาวตระกูลหยวนจะแต่งงาน ห้าวันจะเตรียมงานยังไง? แค่จัดเตรียมสินสอดทองหมั้นยังไม่พอ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงชุดแต่งงาน

ที่ไหนได้ ตระกูลหยวนเตรียมชุดแต่งงานให้แม่นางเจ็ดไว้แต่แรกแล้ว สามปีทำชุดหนึ่ง ตอนนี้ชุดแต่งงานกองอยู่ในหีบมากกว่าเจ็ดแปดตัว

ส่วนสินสอดทองหมั้นก็เตรียมไว้แต่แรกแล้ว รอเพียงคนตาบอดคนนั้นมาสู่ขอ

กว่าจะรอทังหยางมาสู่ขอ ยังกินนางแล้วจนหมดสิ้น จะให้นางบอกปัดไปได้ยังไง? ต้องแต่งให้ได้

หยวนชิงหลิงกับทังหยางต่างอ้าปากค้าง ดูท่าทีของตระกูลหยวน โดยเฉพาะเมื่อตอนที่เอาชุดแต่งงานออกมาให้หยวนชิงหลิงช่วยเลือกว่าชุดไหนเหมาะสมที่สุด หยวนชิงหลิงพูดไม่ออกอยู่นาน

สักพัก ค่อยพูดออกมาได้ว่า “ท่าน...เตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้วจริงๆหรือ แต่ชุดเจ้าบ่าวของทังหยาง ก็ต้องใช้เวลาในการสั่งตัด”

“ไม่ต้อง มีแล้ว” เหล่าไท่จวินตะโกนสั่งอีกครั้ง คนใช้ถือหีบมา ข้างในมีชุดเจ้าบ่าวมากกว่าแปดเก้าตัว ขนาดโดยทั่วไปเริ่มตั้งแต่น้ำหนักห้าสิบถึงร้อยโล

หยวนชิงหลิงหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “เหล่าไท่จวิน ท่านต้องทำถึงขนาดนี้เลยหรือ?”

“จะไม่ทำถึงขนาดนี้ได้อย่างไร?” เหล่าไท่จวินมองดูหยวนชิงหลิง พร้อมพูดขึ้นว่า “ฮองเฮาก็เป็นแม่คน รอเมื่อไหร่ที่เข้าหญิงอายุสามสี่สิบแล้วยังไม่แต่งงาน เกรงว่าท่านจะเตรียมมากกว่านี้”

หยวนชิงหลิงหัวเราะในใจ ลูกสาวนางไม่ต้องกังวล ตอนนี้ก็มีคนมาสู่ขอแล้ว

“มาลองชุดให้กับลูกเขย”

สาวใช้หลายคนเดินมา ปรนนิบัติทังหยาง ช่วยกันถอด แล้วลองสวมชุดเจ้าบ่าวทีละตัว จนเลือกได้ชุดที่เหมาะสม เหล่าไท่จวินค่อยพูดขึ้นอย่างพอใจว่า “ได้ เลือกชุดนี้แหละ พวกเจ้ารีบกลับไปจัดเตรียม งานเลี้ยงเตรียมหนึ่งร้อยโต๊ะ ส่วนสามสื่อหกพิธี งดได้ก็งด จะได้ไม่เสียเวลา”

ทังหยางอึ้งไปสักพัก พร้อมพูดขึ้นว่า “นี่....นี่จะดีหรือ?”

จัดงานมงคล แน่นอนว่าจะต้องใส่ใจทุกรายละเอียด ถึงจะสบายใจ

และที่สำคัญที่สุดก็คือ แม่นางเจ็ดยังไม่ตกลงแต่งงานเลย

“ไม่ดี?” เหล่าไท่จวินพูดขึ้นด้วยสายตาเฉียบคมว่า “เจ้าไม่อยากแต่ง? เจ้าไม่คิดจะรับผิดชอบหรือ?”

คนตระกูลหยวนต่างหันมาจ้องมองทังหยาง ดุร้ายอย่างกับจะกลืนกินเขา

ทังหยางตกใจ รีบโบกมือพร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่ใช่ ไม่ใช่ ข้ารับผิดชอบอย่างแน่นอน”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน