หยวนชิงหลิงกลับวังพูดเรื่องนี้กับเจ้าห้า เจ้าห้าเอ่ย “ที่จริงกลับมาสักครั้งก็ไม่เป็นไรกระมัง? ถึงจะแค่เดินในเมืองหลวงสักรอบก็เถอะ”
“ตอนส่งเด็กๆ ไป ฮ่องเต้ฮุยจงก็เศร้าใจอยู่บ้าง บอกว่าชาตินี้คงไม่ได้กลับมาอีก ตอนนั้นข้ามอบก้อนหินให้เขาก้อนหนึ่ง เขาถืออยู่ในมือ ยังร้องไห้ด้วยแน่ะ”
“น่าสงสารจริง!” เจ้าห้าสงสารเสด็จปู่ทวด แต่คิดแล้วก็เอ่ยอีก “แต่ข้าว่าที่เสด็จลุงมิให้เขากลับก็คงมีเหตุผลกระมัง? เพราะเราต่างไม่รู้จักเสด็จปู่ทวดดี ก็แค่ที่เรากลับไปเยี่ยมเยียนเขาสองสามครั้ง ด้วยนิสัยหลุดโลกของเขา ทำให้เรารู้สึกอย่างกับจะก่อเรื่องอย่างนั้นแหละ”
“ก็จริง” หยวนชิงหลิงก็รู้สึกอย่างนั้นเช่นกัน โดยเฉพาะตอนที่โทรศัพท์ เสียงปีศาจเข้าทรมานโสตหู น่ากลัวจริงๆ
“ที่บ้านยังปกติไหม? สุขภาพท่านพ่อท่านแม่เป็นอย่างไรบ้าง? น้าชายมีนางในดวงใจแล้วหรือ? การเรียนของซาลาเปาล่ะ?” เจ้าห้าถาม
“ที่บ้านปกติดี สุขภาพพ่อแม่ก็ใช้ได้ แต่พ่อความดันสูง กินยาระงับเป็นเวลานาน พี่ยังไม่มีนางในดวงใจ มิได้ข้ามเส้นเลื่อนขั้นกับฟางหวู ส่วนซาลาเปาก็มิต้องเป็นห่วง ปีหน้าก็กลับมาได้แล้ว”
“ดีจริง!” หยู่เหวินเห้าดีใจมาก เขารู้ความสามารถของซาลาเปาดี กลับมาแล้วก็ช่วยจัดการงานราชกิจบ้านเมืองได้
แม้ไม่แน่ว่าจะแบ่งเบาภาระเขาได้มากมาย แต่นั่นก็เป็นความหวัง ความหวังมักสวยงามเสมอ
“โรคของท่านยายชิวควบคุมได้แล้วหรือยัง?” หยู่เหวินเห้าถามอีก
“ตอนนี้อาการยังดีอยู่ มีชีวิตชีวาขึ้นมาก ขอเพียงไม่ดื้อยา เช่นนั้นโดยรวมก็ไม่ค่อยมีปัญหา” หยวนชิงหลิงตอบ
หยู่เหวินเห้าพยักหน้า “หวังว่าพวกเขาจะแข็งแรง”
คนทั่วไปมักถูกคนที่หอจัยซิงทำให้ประทับใจง่ายๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเขาที่เป็นฮ่องเต้เป่ยถัง
“กวากวาส่งจดหมายมาหรือยัง?” หยวนชิงหลิงเอ่ยถาม
“ส่งมาแล้ว เจ้าดูสิ!” หยู่เหวินเห้าล้วงจดหมายออกมาจากแขนเสื้อ ยับยู่ยี่ เป็นกระดาษที่พิราบสื่อสารส่งมา ตัวอักษรมีไม่มาก ไม่กี่ประโยคเท่านั้น
หยวนชิงหลิงกลั้นหัวเราะไม่อยู่ “ไยเจ้าต้องซ่อนไว้ในแขนเสื้อด้วย?”
“สะดวกดูได้ตลอดเวลา!” หยู่เหวินเห้าหัวเราะพลางเอ่ย
หยวนชิงหลิงเปิดออกอ่าน กวากวาบอกว่าการก่อสร้างใหม่ราบรื่นดี เงินของแม่นางเจ็ดก็เพียงพอมาก นางสบายดี ปลอดภัยทุกอย่าง สุดท้ายก็ทักทายทุกคน
กวากวามักทำงานได้ดีทุกด้าน ลำบากเด็กคนนี้จริงๆ
“นางเก้าขวบแล้ว!” จู่ๆ หยู่เหวินเห้าก็พูดขึ้นอย่างเศร้าสร้อย
“ใช่ เก้าขวบแล้ว” หยวนชิงหลิงรู้สึกว่าหลายปีนี้ช่างผ่านไปไวเหลือเกิน เมื่อก่อนหวังแต่จะให้เด็กๆ โตไวๆ ตอนนี้กลับหวังให้พวกเขาโตช้าหน่อย
“จริงสิ” ทันใดนั้นหยู่เหวินเห้าก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมา หันไปพูดกับหยวนชิงหลิง “วันนั้นข้าคุยกับใต้เท้าทัง เขากับแม่นางเจ็ดแม้จะแต่งงานกันแล้ว แต่ทั้งสองก็ยังไม่ได้ร่วมหอกัน เป็นสามีภรรยากันแต่ในนาม”
หยวนชิงหลิงชะงัก “เช่นนั้นหรือ? ทำไมเล่า?”
“เห็นว่าแม่นางเจ็ดยังมีปมในใจ ต้องรอให้ทั้งสองคนค่อยๆ คุ้นเคยกัน” หยู่เหวินเห้าเอ่ย
“เช่นนั้นก็ทำอะไรไม่ได้ นี่เป็นเรื่องของพวกเขา และในเมื่อเป็นสามีภรรยากันแล้ว อยู่ด้วยกันไปต้องค้นพบความรู้สึกเดิมได้แน่ เจ้ามิต้องเป็นห่วง”
“ข้าไม่ได้เป็นห่วง เมื่อก่อนเราอย่างกับศัตรูคู่แค้นกัน ตอนนี้ก็มิได้อยู่ด้วยกันแล้วหรือ?” หยู่เหวินเห้าหัวเราะอุ้มนางมา จากนั้นก็จุมพิตที่ริมฝีปาก
“เรื่องนี้ใต้เท้าทังพูดกับเจ้า เจ้าก็อย่าได้ให้คนอื่นรู้เป็นดี!” หยวนชิงหลิงเอ่ย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...