บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1603

สมัยก่อนตระกูลหยวนเคยย้ายไปอยู่ที่เมืองเจียงเป่ย

แม้ลมทะเลทรายทางเหนือจะแรง แต่สำหรับคนตระกูลหยวนกลับไม่แปลกสักนิด ไม่ใช่แค่ทนได้ ทั้งยังมีความรู้สึกราวกับเป็นบ้านเกิดอีก

ท่านชายสี่ช่วยรับการค้าของตระกูลหยวนไปส่วนหนึ่ง เหลือแต่ร้านที่ค่อนข้างดีจำนวนหนึ่งไว้

ทังหยางเคยถามแม่นางเจ็ด ว่านางเสียดายการค้าพวกนั้นหรือไม่

แม่นางเจ็ดกล่าว “ไม่ใช่เรื่องว่าเสียดายหรือไม่ ข้าได้พิสูจน์ความสามารถของตัวเองแล้ว ตอนที่ทำสุดกำลังก็ได้มามากมาย เพียงพอแล้ว จะยุ่งตลอดชีวิตไม่ได้ หาเงินมากมายขนาดนั้นเพื่ออะไร? ก็มิใช่เพื่ออยู่อย่างสุขสบายในอนาคตหรือ? ตอนนี้แยกครอบครัวแล้ว เงินในมือข้า ชาตินี้ก็ใช้ไม่หมด แล้วยังมีร้านให้ทำกำไร ไหนเลยยังจะเสียดายอีก?”

ทังหยางโล่งอก “ข้ากลัวว่าเจ้าจะเสียดาย เพราะบากบั่นจนเคยชิน แต่ที่จริงใจข้าก็ไม่อยากให้เจ้าลำบากขนาดนั้น ตอนนี้เจ้ายินดี เช่นนั้นก็ดีที่สุด”

แม่นางเจ็ดหัวเราะ ได้ยินว่าเขาไม่อยากให้นางลำบากแล้ว ในใจก็รู้สึกดีมาก

“หากว่างแล้ว ปีหนึ่งก็ไปอยู่เมืองโร่ตูสักสองสามเดือน ชีวิตแสนสุขสบาย”

ทังหยางขมวดคิ้ว ปีหนึ่งไปสองสามเดือน หากรวมระยะเวลาเดินทางไปๆ หยุดๆ แล้ว เช่นนั้นอย่างน้อยก็เกือบครึ่งปี หรือก็หมายถึง ช่วงเวลาอย่างนั้นเกือบครึ่งปีนางจะไม่ได้อยู่ข้างกาย

เขาย่อมไปหลายเดือนไม่ได้ ฮ่องเต้ทางนั้นไม่เห็นเขาวันเดียวก็ไม่ได้แล้ว

แต่ก็เอาเถอะ นางพอใจก็พอ เป็นสามีภรรยากันแล้วมิจำเป็นต้องตัวติดกันตลอด ถึงเขาอยากทำเช่นนั้นมากก็ตาม

เป่ยถังมั่งคั่งขึ้นมาแล้ว

ครั้งนี้ตระกูลหยวนขายกิจการไปส่วนหนึ่ง ก็สามารถรู้สึกได้ชัด

ว่าร้านค้าแทบจะเป็นการแย่งชิงกัน เพราะการค้าดี ตำแหน่งร้านดี นั่นมิใช่อยากก็ได้มา

เดิมทีตระกูลหยวนอยากขายให้ท่านขายสี่หมด แต่ตอนหลังท่านชายสี่กลับไม่เอา

นี่เพราะอ๋องชินเฟิงอันออกคำสั่ง บอกว่าท่านชายสี่มีร้านรวมมากแล้ว มีทุกสาขาอาชีพ โดยเฉพาะในเมืองหลวงกินสัดส่วนเป็นส่วนใหญ่ จะเพิ่มจนมากเกินไปไม่ได้ มิเช่นนั้นก็จะมีอำนาจในการผูกขาด ตลาดเช่นนี้ จะทำให้แข่งขันไม่เป็นธรรม

ทีแรกท่านชายสี่ไม่ได้คิดถึงจุดนี้ ครั้นถูกอ๋องชินเฟิงอันชี้แนะ ก็ไม่รับช่วงกิจการของตระกูลหยวน จะได้ไม่เกิดเป็นเรื่อง เพิ่มความยุ่งยากให้กับฮ่องเต้

มิเช่นนั้นหากมีคนร้องเรียนเขา ฮ่องเต้ยังต้องค้านขุนนางเพื่อเขาอีก

ตั้งแต่เจ้าห้าเป็นฮ่องเต้จนถึงปัจจุบัน ในช่วงเวลาห้าปี เป่ยถังเปลี่ยนแปลงแบบพลิกโฉมใหม่

ตอนแรกอ๋องชินเฟิงอันหลอก...กล่อมให้ฮ่องเต้หมิงหยวนลงจากตำแหน่ง บอกว่าช่วงเวลาแบบไหนก็ต้องใช้คนแบบนั้น บัดนี้คำพูดกลายเป็นจริง หยู่เหวินเห้าเหมาะที่จะปกครองเป่ยถังในตอนนี้มาก

เพราะหลังจากชายแดนไร้การศึก ก็ต้องเร่งพัฒนาก่อน เจ้าห้ามีความสามารถในด้านนี้

เป่ยถังกับต้าโจวมีความสัมพันธ์อย่างแน่นแฟ้นต่อกัน ดังนั้นแม่ทัพใหญ่จิ้งถิงแห่งต้าโจวและฮูหยินจึงพาลูกชายมาเป่ยถังอีกครั้ง

เวลานี้แม่ทัพใหญ่จิ้งถิงและฮูหยินเฝ้ากระบี่มังกร ไม่ค่อยสนใจเรื่องในราชสำนัก อีกทั้งยังไม่ใฝ่ในการสร้างผลงาน ดังนั้นจึงสามารถมาพบสหายเก่าได้แบบไม่มีความแอบแฝง

แน่นอน การที่แม่ทัพใหญ่จิ้งถิงมาครั้งนี้ยังมีความคิดหนึ่ง ก็คือช่วยลูกชายหาภรรยาในเป่ยถัง

ก่อนจะมาได้ส่งเทียบมาก่อน อธิบายความประสงค์นี้

เจ้าห้าถือเทียบสั่นพั่บๆ

เป็นครั้งแรกที่มีความคิด ว่าอยากอาศัยการป่วยไม่พบสหายเก่าผู้นี้

แต่เขาก็คิดถึงจิ้งถิงมากจริงๆ พวกเขาไม่พบกันหลายปีแล้ว บางครั้งยังฝันถึงตัวเองดื่มสุราสนทนาสนุกกับอีกฝ่าย

“ทำอย่างไรดี? เจ้าหยวน เขาคงไม่คิดมาขอกวากวากลับไปกระมัง?” หลังจากหยู่เหวินเห้ากลับถึงตำหนักก็เอาแต่เดินไปมา กระวนกระวายจนไม่เป็นอันสงบ

หยวนชิงหลิงหัวเราะพลางเอ่ย “เจ้าห่วงอะไรกัน? อย่างไรเรื่องแต่งงานก็ต้องพร้อมใจทั้งสองฝ่าย หลังจากเด็กๆ โตแล้วก็ไม่ค่อยได้เจอกัน ไม่มีความรู้สึกแล้วจะแต่งงานกันได้อย่างไร?”

“แต่เรารับปากไว้แล้ว”

“ที่รับปากเป็นพวกซาลาเปา ถ้าตอนนั้นที่ข้าตั้งท้องเป็นลูกสาว นั่นถึงจะเกี่ยวดองกัน ถ้าเป็นลูกชาย ก็เป็นพี่น้องกัน จำไม่ได้แล้วหรือ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน