บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 163

ฉู่หมิงชุ่ยมองไม่เห็นหยวนชิงหลิงสองพี่น้องที่ยืนอยู่บนประตูเมือง นางถูกหญิงคนใช้ กับมามาประคองไปข้างหน้า และก็ไม่ได้รีบแจกโจ๊กในทันที แต่ได้สั่งให้มามามาพูดคุยกับคนที่รอทานโจ๊กว่า

“ขอทุกคนอย่าใจร้อน เดี๋ยวจะรีบแจกโจ๊กให้กับทุกคน นอกจากโจ๊กแล้ว พระชายาฉียังได้สั่งคนเตรียมซาลาเปาไส้เนื้อไว้ สักพักก็จะถูกส่งมา หลังจากรอซาลาเปาไส้เนื้อมาถึงแล้ว ก็จะแจกพร้อมกับโจ๊ก”

ได้ยินว่ามีซาลาเปาให้กิน ผู้คนด้านล่างต่างส่งเสียงร้องกึกก้อง ไม่เหลือความกระวนกระวายหงุดหงิดเหมือนดั่งเมื่อกี้แล้ว

แล้วก็รออีกสักพัก แล้วก็เห็นรถม้าเคลื่อนมาอย่างไม่ขาดสาย

ฮูหยินหลายท่านถูกประคองลงมาจากรถม้า ยังมีหญิงสาวอีกหลายคน ต่างก็พากันมาในกระโจมโจ๊ะ พูดทักทายฉู่หมิงชุ่ย

หยวนชิงหลิงนอกจากฉู่หมิงหยางกับฉู่หมิงเฟิ่งแล้ว คนอื่นพวกนั้นต่างก็ไม่รู้จักสักคน จึงหันไปถามว่าลู่หยาว่า “ต่างเป็นใครกันหรือ?”

ลู่หยามองดูสักครู่ พร้อมพูดขึ้นว่า “นอกจากฮูหยินที่สวมชุดผ้าไหมสีเหลืองแอปริคอทคนนั้นแล้ว คนอื่นบ่าวก็ไม่รู้จัก”

“งั้นคนที่สวมผ้าไหมสีเหลืองแอปริคอทคนนั้นคือใคร?”หยวนชิงหลิงถามขึ้น

“เป็นท่านแม่ของพระชายาฉี ฮูหยินใหญ่ฉู่”ลู่หยาพูดขึ้น

หยวนชิงผิงหรี่ตามองดู พร้อมพูดขึ้นว่า “คนอื่นข้าก็รู้จักสักคน ผ้าไหมสีซาตินคนนั้นคือลูกสะใภ้ของเซียวเหยากงฮูหยินเหลียง ส่วนอีกคนคนนั้น....”

หยวนชิงผิงมองดูนาง พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าไม่รู้จักหรือ? พระชายาอ๋องชินลุ่ยกับจวิ้นจู่หงเติงไง”

หยวนชิงหลิงอึ้ง แล้วพูดขึ้นว่า “ใช่หรือ?”

นางเคยเห็นพระชายาอ๋องชินลุ่ยที่พระตำหนักฉินคุนของไท่ซ่างหวง แต่ตอนนั้นคิดแต่เรื่องรักษาอาการป่วย จึงไม่ได้สนใจอย่างอื่น ส่วนจวิ้นจู่หงเติงยังไม่เคยเห็น รู้เพียงว่านางเป็นบุตรสาวของอ๋องชินลุ่ย

การแสดงของฉู่หมิงชุ่ย จะต้องพาผู้ที่มีอิทธิพลมาบ้าง และพวกฮูหยินพวกนี้ ครอบครัวของพวกนางล้วนต่างก็มีคนที่มีอิทธิพลในราชสำนัก

หยวนชิงหลิงเห็นฉู่หมิงชุ่ยคารวะฮูหยินทุกท่าน มองจากหอประตูเมือง รู้สึกถึงเพียงใบหน้าที่เลือนรางของนาง เหมือนกำลังสวมหน้ากากไว้หนึ่งชั้น

ถึงแม้จะรู้ว่าเป็นกิจกรรมการแสดงอย่างหนึ่ง แต่ในใจหยวนชิงหลิงกลับรู้สึกไม่ค่อยพอใจ

เพราะคนพวกนั้นรออยู่นานมากแล้วจริงๆ

ต่อให้เป็นการแสดงก็ควรที่จะมีขีดจำกัด

คนที่หิวจนถึงที่สุด จะก่อให้เกิดความวุ่นวายได้ง่าย

“พวกเราไปเถอะ ไม่มีอะไรน่าดูแล้ว”หยวนชิงผิงไม่อยากเห็นความโดดเด่นของฉู่หมิงชุ่ย หลังจากเรื่องเจ้าพระยาหุ้ยติ่ง นางรู้สึกว่าตระกูลฉู่ไม่มีใครดีสักคน

หยวนชิงหลิงกลับพูดพึมพำขึ้นว่า “กลัวว่าเดี๋ยวสักพักจะเกิดเรื่องวุ่นวายแล้ว”

“เกิดความวุ่นวายอะไรก็เรื่องของนาง เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเรา...” หยวนชิงผิงคิดขึ้นมาได้ในทันใด “เกิดเรื่องวุ่นวาย? ดี งั้นพวกเรารอดูว่าจะเกิดเรื่องวุ่นวายอย่างไร?”

ลู่หยาหัวเราะ คุณหนูรองน่ารักจริงๆ

ฉู่หมิงชุ่ยเหมือนจะมองเห็นหยวนชิงหลิงแล้ว ดวงตาหันมามอง ด้วยระยะห่างตั้งไกล

น่าจะรู้ว่าเป็นหยวนชิงหลิง เพราะนางมองอย่างแน่นิ่งก่อน แล้วค่อยๆหันไปทางอื่น จากนั้นก็ก้มหน้าพูดคุยกับฉู่หมิงหยางฉู่หมิงเฟิ่งสองพี่น้อง สักพัก ฉู่หมิงหยางกับฉู่หมิงเฟิ่งต่างก็เงยหน้าหันมามองทางพวกนาง

หยวนชิงผิงขนลุกซู่ไปทั้งตัว กัดฟันพูดขึ้นว่า “อีดอกสองคนนั้น ต้องมีสักวัน ข้าจะฉีกปากของพวกนาง”

แววตาหยวนชิงหลิงมองดูใบหน้าของฉู่หมิงหยาง

รูปร่างใบหน้าของนางเป็นร่องลึกและชัดเจนกว่าฉู่หมิงชุ่ย ที่จริงทั้งสองพี่น้องหน้าตาคล้ายกันมาก แต่หน้าตาฉู่หมิงชุ่ยหรือการแต่งหน้าค่อนข้างอ่อน บวกกับรอยยิ้มที่อ่อนโยน ทำให้ผู้คนจะให้ความสนใจกับท่าทีอารมณ์ของนางมากกว่ารูปร่างหน้าตาของนาง

ฉู่หมิงหยางมีรูปร่างหน้าตาที่เหนือกว่าอย่างแน่นอน ยืนอยู่ตรงนั้น ริมฝีปากแดงสดเหมือนดั่งกุหลาบ เผด็จการและเคร่งขรึม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน