บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1632

รวมตัวกับลูก ๆ แล้วทั้งคืน ทั้งได้ทำความเข้าใจแต่ละเมืองปราการไปบ้างพอสมควรแล้ว วันรุ่งขึ้น หยวนชิงหลิงก็จะเดินทางกลับเมืองหลวงแล้ว

นางแทบจะอดใจรอไม่ไหว อยากดูว่าในเลือดของจิ่งเทียน กับน้ำแข็งที่เก็บมาจากทะเลสาบน้ำแข็งนั่น จะมีตัวหนอนน้ำแข็งแฝงมาด้วยหรือไม่

เนื่องจากฉีฮั่วยังไม่กลับไป ดังนั้น หยวนชิงหลิงเลยดึงตัวฉีฮั่วออกไป แล้วกำชับกำชาหลายครั้งว่าเรื่องนี้ต้องปิดบังกวาเอ๋อไปก่อนเป็นการชั่วคราว

ฉีฮั่วตบหน้าอกผาง ๆ รับประกันเป็นมั่นเหมาะว่าเขาจะไม่พูดอะไรทั้งนั้น เพื่อให้หยวนชิงหลิงรู้สึกวางใจ

แต่พอหยวนชิงหลิงเห็นท่าทางซีเรียสจริงจังของเขาแล้ว ไม่รู้ว่าเพราะอะไรกลับรู้สึกวางใจไม่ลงเอาเสียเลย

นางเอาแต่รู้สึกอยู่ตลอดเวลาว่าเขาจะปากสว่าง

นางอดพูดย้ำซ้ำ ๆไปอีกสองสามประโยคไม่ได้ จนฉีฮั่วเริ่มมีท่าทางโกรธ ๆ ขึ้นมาบ้างแล้ว "นี่คุณไม่เชื่อฉันรึไง? ฉันบอกว่าไม่พูดก็คือไม่พูดไงเล่า!"

หยวนชิงหลิงทำได้แค่พูดว่า "ถ้างั้นก็ดี คุณจำไว้ดี ๆ ล่ะ"

“ ได้ คุณไปบอกลาเด็ก ๆ เถอะ” ฉีฮั่วยกมือขึ้นโบกใส่ ด้วยท่าทางที่เหมือนกำลังไล่แมลงวัน

ฮองเฮาคนนี้อายุก็ยังไม่มากสักหน่อย ก็จู้จี้ขี้บ่นเสียแล้ว

หลังจากหยวนชิงหลิงบอกลาเด็ก ๆ แล้ว ก็ออกเดินทางกลับเมืองหลวง

ภายในเวลาไม่ถึงวัน ก็กลับถึงเมืองหลวง แล้วตรงกลับวังไปทันที

หลังจากอธิบายสถานการณ์แบบง่าย ๆ ให้เจ้าห้าฟังครู่หนึ่ง นางก็พุ่งเข้าไปในห้องทดลองทันที

เมื่อวางเลือดของจิ่งเทียนไว้ใต้กล้องจุลทรรศน์แล้ว ผลคือพบว่ามีหนอนน้ำแข็งจริง ๆ ซึ่งเหมือนกับหนอนน้ำแข็งที่อยู่ในเลือดของเจ้าห้า แต่มีความกระตือรือร้นมากกว่าเจ้าห้านิดหน่อย

จากนั้นก็หยิบน้ำจากทะเลสาบน้ำแข็ง นำมาแต้มบนเลนส์เพื่อทำการสังเกต แต่กลับไม่พบ

ในตัวอย่างที่เก็บมาจากหลาย ๆ สถานที่นั้นตรวจไม่พบ อาจเป็นไปได้ว่าไม่ได้เกิดการติดเชื้อมาจากทะเลสาบน้ำแข็งนั่น

ไม่สามารถสืบหาที่มาของหนอนน้ำแข็งได้ ทำให้หยวนชิงหลิงค่อนข้างท้อแท้พอสมควรทีเดียว

แต่ขั้นแรก ยังสามารถสังเกตหนอนน้ำแข็งในเลือดของจิ่งเทียนได้ โดยแยกพวกมันออก วางไว้ในอุณหภูมิที่ต่างกัน เพื่อดูความสามารถในการสืบพันธุ์ และการอยู่รอดของหนอนน้ำแข็ง

หลังจากจัดการเรื่องนี้เสร็จ นางก็คิดว่าสมควรให้เจ้าห้ารู้ถึงความสามารถของตัวเองได้แล้ว

หวังว่าจะไม่ทำให้เขาตกใจกลัวไปเสียก่อนล่ะ

หยวนชิงหลิงลากฝีเท้าอันเหนื่อยล้ากลับไปที่ตำหนักเสี้ยวเยว่ เจ้าห้ายังไม่กลับมา ลู่หยาพูดว่า “ฮองเฮา เมื่อครู่ฝ่าบาทเพิ่งสั่งให้มู่หรูกงกงกลับมาบอกว่า คืนนี้พระองค์อาจต้องรอจนถึงยามจื่อถึงจะกลับมาเพคะ”

“ดึกขนาดนั้นเชียวรึ? พระองค์ได้บอกหรือไม่ว่ายุ่งเรื่องอะไรอยู่?” หยวนชิงหลิงนั่งลงถาม

วันนี้ตอนที่นางกลับมาถึงเป็นเวลาช่วงบ่าย ๆ แค่ได้พูดคุยกันคร่าว ๆ สองสามคำ นางก็ไปยุ่งกับงานตัวเองแล้ว ส่วนเจ้าห้าก็ไปยุ่งกับงานของตัวเองด้วยเช่นกัน

“ ไม่ได้บอกเพคะ บอกแค่ว่าจะทำงานอยู่ในห้องทรงพระอักษรเท่านั้น” ลู่หยาตอบ

“ได้” หยวนชิงหลิงเก็บเสื้อผ้าแล้วไปอาบน้ำ หลังจากกินมื้อเย็นแบบง่าย ๆ เสร็จ ก็สั่งให้ลู่หยาไปดูที่ห้องทรงพระอักษรว่าเจ้าห้าได้กินข้าวแล้วหรือยัง

ในช่วงสองปีที่ผ่านมา จะมีบางครั้งที่ยุ่งมาก ๆ จนละเลยการกินข้าว ปีที่แล้วก็ละเลยจนปวดกระเพาะอยู่หลายครั้ง หลังจากนั้นมา นางจึงกำหนดว่าต้องกินข้าวให้ครบสามมื้ออย่างเคร่งครัด

แต่บ่อยครั้งที่เขาก็ยังทำไม่ได้ บางครั้งพวกเขาคุยเรื่องงานราชการกัน ตัวนางก็ไม่เหมาะจะเข้าไปรบกวน จึงส่งอาหารไปให้ ทั้งต้องรอนานกว่าหนึ่งชั่วยามกว่าจะกิน ทำให้อาหารเย็นไปหมดก็ไม่สนใจโดยสิ้นเชิง

เมื่อไหร่ที่เจ้าห้ายุ่ง เขาจะกลายเป็นเจ้าห้าจอมทุ่มเทสุดชีวิตเสมอ

ลู่หยาพูดด้วยรอยยิ้ม "วางใจเถอะเพคะ แม่นมสี่เป็นคนนำไปส่งให้ด้วยตัวเองเลยเพคะ"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน