บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1661

หยวนชิงหลิงและหยู่เหวินเห้าสบตากับแวบหนึ่ง แล้วหัวเราะออกมา

อันที่จริง ตอนนี้อู๋ซ่างหวงพวกเขาสามคนก็เหมือนเด็กๆเช่นนั้น ความคิดไม่ได้อยู่ที่ราชสำนักแม้แต่น้อย และไม่ได้สนใจ กระทั่งพูดกับพวกเขา พวกเขาก็ล้วนไม่อยากฟัง รีบร้อนต้องการเปลี่ยนหัวข้อสนทนา

หยวนชิงหลิงก็เคยเห็นพวกเขาเลียนแบบการเคลื่อนที่ของดวงดาวในลาน

หยวนชิงหลิงมองดูเด็กๆ กล่าวว่า“ไม่เป็นไร พวกเจ้าอยากจะไปทำอะไร ก็ไปทำได้เต็มที่ ยกเว้นเรื่องไม่ดี ที่เหลือสามารถทดลองได้ก็ไปลองทำดูสักหน่อย

เซเว่นอัพกล่าว“อันที่จริงก็ไม่ได้รีบร้อน ผ่านไปร้อยปีค่อยทำก็ได้”

หยู่เหวินเห้าหัวเราะฮ่าๆยกใหญ่ “หลังจากนี้ร้อยปีหรือ? หลังจากนี้ร้อยปีจะทำอย่างไร?”

คนก็ไม่มีแล้ว

ทุกคนล้วนมองดูเขา

เดิมทีหยู่เหวินเห้าคิดว่าทุกคนจะหัวเราะเซเว่นอัพพร้อมกัน แต่ว่าหัวเราะไปแล้วพักหนึ่งก็พบว่ามีเพียงตัวเองที่กำลังหัวเราะ คนที่เหลือล้วนมองดูเขาด้วยความประหลาดใจ เหมือนกับคำพูดของเซเว่นอัพไม่ได้มีจุดที่น่าหัวเราะโดยสิ้นเชิง

เขาหุบรอยยิ้ม “ไม่น่าขันหรือ?”

เจ๋อหลานเข้าไปด้านหน้ากอดคอเขาไว้ “ท่านพ่อ น่าขันเล็กน้อยเพคะ ฮ่าๆ!”

เจ๋อหลานหัวเราะสองที

“ฮ่าๆๆ!” คนอื่นๆก็หัวเราะตามสองที หลังจากหัวเราะเสร็จ พวกเขาก็มองดูหยวนชิงหลิง มีความกังวลใจเล็กน้อย

หยู่เหวินเห้ารู้สึกผิดปกติ แต่คิดแล้วคิดอีก “หรือว่ามุขนี้อยู่ทางนั้นเลยเวลาไปแล้วหรือ?”

“ไม่นี่ ไม่พูดเรื่องเหล่านี้ พวกเรามาพูดเรื่องเซเว่นอัพ เซเว่นอัพเจ้าอยากเป็นผู้กำกับก็ไปเถอะ อ๋อเป็นนักบินใช่หรือไม่? ได้ พวกเราล้วนสนับสนุน” หยวนชิงหลิงเปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันที เพียงแค่ร่องรอยมากเกินไป หยู่เหวินเห้าเหลือบมองนางแวบหนึ่งด้วยความสงสัย

จากการเฝ้าสังเกตร่างกายของนางและลูกๆพบว่า เซลล์สร้างขึ้นใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งหมายความว่าจะไม่เผชิญกับการแก่ชรา และระบบภูมิคุ้มกันก็แข็งแรงมาก ได้เคยลองไวรัสมาหลายชนิดแล้วล้วนไม่สามารถทำอะไรได้ แน่นอนว่า ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ตาย แต่สำหรับการต่อสู้กับอุบัติเหตุ พวกเขามีความสามารถเป็นของตัวเอง

เว้นแต่จะมีคนที่เก่งกาจกว่าพวกเขามาฆ่าพวกเขา หรือตัวเองคิดสั้นฆ่าตัวตาย

สำหรับเจ้าห้า ยังอยู่ระหว่างการศึกษา แต่ไม่มีผลจากการสังเกตในระยะยาว จึงไม่สามารถสรุปได้อย่างรวดเร็ว

แต่ว่า ก็เป็นไปในทางที่พวกเขาหวัง

รอผลที่แท้จริงออกมา ค่อยบอกเขาก็ไม่สาย

เซเว่นอัพบอกว่าต้องกลับไปอ่านหนังสือแล้ว เขากระตือรือร้นที่จะไล่ตามความฝันของตัวเองมากกว่าโค้กจริงๆ สำหรับนักบิน บางทีอาจจะปล่อยไว้ค่อยทำในร้อยปีให้หลัง แต่เขาอยากเป็นผู้กำกับถ่ายทำเรื่องราวครอบครัวของพวกเขามาก เขาอยากให้อู๋ซ่างหวงพวกเขาดู ดูเรื่องราวที่ครอบครัวของพวกเขาได้เผชิญ พวกเขาจะดีใจมาก

และเรื่องนี้ ไม่สามารถรอนานเกินไปได้

อายุของพวกเขามากแล้ว

แต่โค้กกลับบอกว่า จะกลับไปก็ได้ไม่กลับไปก็ได้

สองสามีภรรยาหารือกับลูกๆคนอื่น ซาลาเปาแสดงความคิดเห็นว่าจะกลับไปก็กลับไปด้วยกันสองคน สองพี่น้องไปด้วยกัน ก็จะดีกว่าให้เซเว่นอัพไปเองคนเดียว

สามีภรรยาทั้งสองก็คิดเช่นนี้ เช่นนั้นก็ตัดสินใจเช่นนี้แล้ว ให้ทังหยวนกับข้าวเหนียวช่วยแบ่งกันดูแลที่พระราชทานของพวกเขา พรุ่งนี้พวกเขาก็ติดตามฮ่องเต้ฮุยจงกลับไปดำเนินการตามระเบียบขั้นตอน

เพราะว่าจิ่งเทียนยังรักษาตัวอยู่ที่นี่ ดังนั้นหยวนชิงหลิงยังกลับไปไม่ได้ ให้อ๋องชินเฟิงอันสามีภรรยาพาพวกเขากลับไป

ขั้นตอนการดำเนินการโอนทรัพย์สมบัติ ไม่ใช่ว่าจะทำเสร็จได้ในวันเดียว

วันรุ่งขึ้น สามีภรรยาทั้งสองและพวกเด็กๆทั้งหมดเข้าไปที่จวนอ๋องซู่

หลังจากที่ฮ่องเต้ฮุยจงกลับมา ก็พูดเรื่องนี้แล้ว อู๋ซ่างหวงก็พูด ไม่สามารถเอาทรัพย์สมบัติให้เด็กเพียงแค่สองคนได้ ต้องแบ่งให้เด็กทั้งหกคนเท่าๆกัน ลำเอียงไม่ได้

เซียวเหยากงว่าเขาประโยคหนึ่ง “เช่นนั้นเหมืองทองคำทำไมท่านถึงให้แค่องค์หญิงน้องผู้เดียวล่ะพ่ะย่ะค่ะ?”

อู๋ซ่างหวงตะลึงเล็กน้อย “เด็กผู้หญิงต้องดูแลให้ดีหน่อยไม่ใช่หรือไง?”

เจ๋อหลานหัวเราะแล้วกล่าว“ข้าไม่ต้องการแล้วเพคะ ข้ามีเหมืองทองคำแล้ว อีกทั้ง ข้ากลับไปทางนั้นก็เพียงแค่ไปเยี่ยมคุณตาคุณยาย หากต้องใช้เงินจริงๆ ก็สามารถขอท่านพี่ได้”

เด็กสองสามคนหารือกันครู่หนึ่ง ซาลาเปาและทังหยวนก็บอกว่าไม่เอา เพราะว่าพวกเขาทั้งสอง คนหนึ่งอนาคตต้องเป็นฮ่องเต้ คนหนึ่งควบคุมดูแลกิจการของท่านชายสี่และสำนักเหลิ่งหลัง เงินของยุคปัจจุบัน กลับจะเป็นภาระอย่างหนึ่ง

ข้าวเหนียวเสนอออกมาว่าต้องการ

ทุกคนมองดูเขา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน