บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1667

คนทั้งตึกหอพักวิ่งออกมาดูเขาทั้งหมด เห็นเขาติดอยู่กับกำแพงผู้เดียว ยกขาขึ้นข้างหนึ่งท่าทางเหมือนสุนัขยืนฉี่เป็นที่สุด ทุกคนล้วนหัวเราะฮ่าๆยกใหญ่

หลี่เจี้ยนฮุยเป็นนักเรียนที่ไม่เอาไหนในบรรดาคนพวกมีอำนาจ ในเวลาปกติก็อวดดีใช้อำนาจบาตรใหญ่ คุ้นชินกับการผยอง ยังไม่เคยได้เผชิญกับเรื่องที่น่าอายครั้งใหญ่ต่อหน้าทุกคนขนาดนี้ ออกแรงหมดทั้งตัว เขาก็ไม่สามารถขยับได้ ทั้งตระหนกทั้งโกรธทั้งอาย

ผู้คุมหอพักวิ่งขึ้นมา เห็นว่าทางเดินเต็มไปด้วยผู้คน แยกเหล่านักเรียกออกแล้วพุ่งทะลุไปด้านใน เห็นหลี่เจี้ยนฮุยก็ปวดหัวแล้ว เป็นเขาอีกแล้ว

ไม่หยุดหย่อนเลยจริงๆ

ผู้คุมหอพักเดินไปด้านหน้าบิดไหล่ “เธอก่อความวุ่นวายอะไร”

ทันทีที่หลี่เจี้ยนฮุยถูกผู้คุมหอพักบิดไหล่ ทันใดนั้นก็สามารถขยับตัวได้แล้ว เคลื่อนไหวมือและเท้าเล็กน้อยกอดผู้คุมหอพักแล้วร้องไห้ขึ้นมาอย่างหนัก

เจ้าเด็กหัวโจกคนนี้ร้องไห้หนัก ยังเป็นครั้งแรกที่ได้เห็น แม้ว่าผู้คุมหอพักจะโมโหที่เมื่อก่อนเขามักจะชอบก่อความวุ่นวายเสมอ แต่ถึงยังไงก็ยังเป็นเด็กวัยรุ่น จึงปลอบใจสองสามคำ “พอแล้ว อย่าสร้างปัญหาอีก กลับไปล้างหน้าแปรงฟันนอน”

ลูกครึ่งเหยี่ยโซ่วพยุงเขาขึ้นมา หันกลับเข้าหอ

หยู่เหวินหวงนอนอยู่บนเตียงแล้ว สำหรับที่นอนที่เต็มไปด้วยยาสระผมอันนั้นตอนนี้เปลี่ยนไปอยู่บนเตียงของหลี่เจี้ยนฮุยแล้ว ขี้เหนียวหมิงเดินเข้ามากดเสียงต่ำแล้วกล่าว“คะแนนเลขตัวเดียวย้ายเข้ามาเรียน พวกเราไม่กล้ายั่วโมโหเขา”

หลี่เจี้ยนฮุยเหลือบมองที่นอนที่เต็มไปด้วยยาสระผม แล้วมองดูหยู่เหวินหวงที่ได้หลับตาลงแล้วแต่ยังคงสง่างามเย็นชาน่าเกรงขามอีกครั้ง นึกถึงเรื่องเมื่อครู่ที่ขยับตัวไม่ได้ ก็หวาดกลัวขึ้นมาในใจอย่างฉับพลัน ม้วนที่นอน นอนลงบนไม้กระดานบนเตียงโดยตรง

หลี่เจี้ยนฮุยเป็นหัวโจกของทั้งหอพัก จัดการเขาแล้ว คนอื่นๆก็ไม่กล้าทำอะไรหยู่เหวินหวงอีก เคารพและอยู่ห่างๆ

ในใจของหยู่เหวินหวงไม่มีความสุขเป็นอย่างมาก ความเป็นจริงชั้นเรียนนี้ย่ำแย่กว่าที่เขาคิดไว้มากเกินไป คนเหล่านี้บ้าไปแล้วหรือ? ปีสามแล้ว ยังจะมีเวลาก่อความวุ่นวายอีก ไม่คิดถึงอนาคตของตัวเองให้ดีๆ แม้ว่าการสอบเข้าวิทยาลัยจะไม่ใช่ทางออกเดียว แต่ว่า จะต้องเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญมากแน่ๆ

พวกเขาไม่มีความฝันหรือ?

ที่ไม่มีความสุขเหมือนกับหยู่เหวินหวงก็คือคุณครูประจำชั้นจางเฮงซวย

หลังจากที่เขาสอนซ่อมในตอนเย็นแล้ว ก็อยากจะไปห้องทำงานของหัวหน้าระดับชั้นพูดคุยเรื่องการสอบวัดความรู้ที่เรียนในวันพรุ่งนี้ ว่าอย่าเพิ่งให้หยู่เหวินหวงเข้าร่วมก่อนได้หรือไม่ เมื่อถึงหน้าประตูก็ได้ยินครูประจำชั้นไม่กี่คนกำลังพูดเรื่องการสอบวัดความรู้ที่เรียนมาในวันพรุ่งนี้ ครูประจำชั้นห้องสองพูดหยอกล้อว่าไม่รู้ครั้งนี้ห้องหกจะสร้างคะแนนต่ำครั้งใหม่หรือไม่

เมื่อเขาได้ยินคำพูดเหล่านี้ เขาก็รู้สึกทุกข์ใจเป็นพิเศษ

สอนหนังสือให้ความรู้แก่ผู้คนมาสิบแปดปีแล้ว สอนชั้นเรียนสมดุล ที่เรียกว่าชั้นเรียนสมดุล พูดตรงๆก็คือห้องนักเรียนเรียนแย่ นักเรียนที่ยอดเยี่ยมล้วนถูกเลือกไปชั้นเรียนทดลองหรือชั้นเรียนพิเศษแล้ว แม้ว่าเขาจะใช้ความชำนาญทั้งหมดที่มี ก็มีนักเรียนไม่กี่คนที่สามารถเอาออกมาอวดได้

เขารู้สึกว่าไม่มีความหมายเป็นอย่างมาก ก็ราวกับว่าใช้ชีวิตไปวันๆเช่นนั้น

อันที่จริงเหมือนเขาที่เป็นครูประจำชั้นของชั้นเรียนสมดุลเช่นนี้ โดยส่วนมากสภาพจิตใจล้วนผ่อนคลาย ทำสิ่งที่ควรทำแล้วก็ปล่อยไป

เขาไม่อยากผ่อนคลาย ในอนาคตตอนแก่เขาไม่อยากนึกย้อนถึงชีวิตความเป็นครูของตัวเองแล้วไม่มีคะแนนแม้สักนิดเดียว

ตั้งมั่นมาทุกๆปีเช่นนี้ ถึงปีนี้ สภาพจิตใจของเขาก็พังทลายแล้วจริงๆ

เขามีความคิดอยากจากไปอย่างฉับพลัน

กลับถึงบ้าน เขาปรึกษากับภรรยาบอกว่าอยากจะลาออกแล้ว

“แต่คุณดูแลชั้นปีที่สาม คุณลาออกแล้ว มีผลกระทบเด็กๆนะคะ อีกทั้งโรงเรียนก็จัดการคนไปดูแลชั้นเรียนของคุณได้ลำบากมาก กลัวแค่จะยิ่งทำอย่างขอไปทีมากขึ้น” ภรรยากล่าวด้วยความกังวล

เขาฟังประโยคนี้แล้ว อยากจะร้องไห้ คลำบุหรี่ออกมามวนหนึ่ง จุดขึ้นช้าๆ แม้ว่าพวกเด็กแสบกลุ่มนั้นจะทำให้เขาวางใจไม่ได้แบบนี้ แต่คิดถึงว่าตัวเองเริ่มดูแลตั้งแต่ชั้นปีที่สองแล้ว ต้องโยนให้คนอื่น ก็ยังตัดใจไม่ลง

“ฉันค่อยทบทวนดูละกัน” จางเฮงซวยกล่าว

แต่ว่า ทันทีที่เกิดความคิดอยากจะลาออกแล้ว ก็เหมือนกับไฟไหม้ทุ่งครั้งใหญ่ อย่างไรก็ยับยั้งไม่อยู่

จนถึงกลางดึก เขายืนอยู่หน้ากระจกห้องน้ำ มองดูจอมผมที่เป็นผมหงอกของตัวเอง เขาเพิ่งจะสี่สิบต้นๆ ก็เหมือนคนอายุห้าสิบปีเช่นนี้ เขาตัดสินใจแน่วแน่ ลาออก!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน