หยวนชิงหลิงยิ้มแย้มครู่หนึ่งก็พูดต่อไปว่า "ในแง่ของการเรียน แต่ไหนแต่ไรมาพวกเราสามีภรรยาก็ไม่เคยบังคับพวกเขา เพียงแค่แนะนำความรู้ด้านที่พวกเขาสนใจให้ เด็ก ๆ เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับโลกใบนี้ รวมถึงความรู้ในแขนงต่าง ๆ ก็สนใจมากไม่แพ้กัน ดังนั้น คำแนะนำที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
แต่ทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามา สิ่งสำคัญที่สุดแน่นอนว่าจะต้องเป็นคุณธรรม และสุขภาพจิตที่ดีของเขา คนที่มีสุขภาพดีและจิตใจแข็งแกร่งเท่านั้น ถึงจะใช้ชีวิตแบบมองโลกในแง่บวกได้อย่างมีความสุข สามารถผ่านการทดสอบความทุกข์ยากของชีวิตที่จะมีเข้ามาในอนาคตได้ "
ครูจางถึงกับน้ำตาไหลอาบแก้ม
เขาเป็นครู สั่งสอนให้ความรู้แก่ผู้คน ที่สอนไปคือความรู้ แต่สิ่งที่เขาอยากสอนยิ่งกว่า คือสอนหลักธรรมในการดำเนินชีวิต
ปัจจุบันโรงเรียนให้ความสำคัญในด้านจิตวิทยาและคุณธรรมเป็นอย่างมาก แต่ผู้ปกครองหลาย ๆ คนกลับคิดว่าสิ่งที่ควรต้องเรียนรู้ในโรงเรียน ก็คือความรู้ ส่วนความกดดัน คนเราทุกคนล้วนมีความกดดัน ในอนาคตความกดดันก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเมื่อออกไปทำงาน ช่วงเวลาในรั้วโรงเรียนนี่แหล่ะถึงจะเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุด
แต่ผู้ปกครองหลายคนมักมองข้ามไปว่า ในชีวิตของนักเรียนมัธยมปลาย โดยเฉพาะเด็ก ม.หก ความลำบากและความกดดันของพวกเขานั้น เทียบไม่ได้เลยกับชีวิตในการออกไปทำงานจริง
ต้องตื่นนอนเวลาตีห้าสี่สิบ พออาบน้ำอาบท่ากินข้าวเช้าเสร็จ จากนั้นก็ต้องรีบกลับไปที่ห้องเรียนเพื่อเริ่มต้นวันใหม่ที่วุ่นวายด้วยการร่ำเรียนเขียนอ่านตั้งแต่เช้า จนถึงห้าทุ่มถึงจะเข้านอนได้
ยิ่งไปกว่านั้น เด็ก ม.หกหลายคนต่างก็ไม่มีวันหยุดสุดสัปดาห์ มีแค่วันอาทิตย์ที่พอจะได้หยุดวันนึงหรือไม่ก็แค่ครึ่งวัน เมื่อได้เห็นดวงตาที่อ่อนล้าแต่ละคู่ ๆ ของนักเรียน เขาในฐานะครูก็รู้สึกเป็นห่วงและทุกข์ใจอย่างมาก
เด็กม.หกหลายคนที่ตื่นตัวดีอยู่แล้ว พวกเขาต่างรู้ว่าตนเองกำลังจะต้องเผชิญกับการสอบที่สำคัญที่สุดในชีวิต ส่วนบรรดานักเรียนที่ขี้เกียจทั้งหลาย ก็เริ่มจะพยายามตามให้ทันจนสุดชีวิต ในเวลานี้ สิ่งที่ผู้ปกครองควรให้ความสำคัญ คือความเข้าใจและรู้จักใช้ความอดทนมากขึ้น ไม่ใช่เอาแต่ถามถึงคะแนนของลูกอยู่ตลอดเวลา
ครูจางถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ได้เห็นคุณแม่ของหยู่เหวินหวงมองมาที่เขา ก็รีบยับยั้งสีหน้าเอาไว้ แล้วพูดว่า “พวกเราขอขอบคุณ สำหรับการแชร์วิธีการเลี้ยงลูกของคุณพ่อคุณแม่ของหยู่เหวินหวง ขอบคุณครับ!”
เขาเป็นผู้นำในการปรบมืออีกครั้ง หลังจากเชิญหยวนชิงหลิงลงไป เขาก็ขึ้นไปยืนบนแท่นโพเดียม ในใจยังคงซาบซึ้งอย่างมาก การอบรมสั่งสอนจากครอบครัวเป็นสิ่งที่สำคัญมากจริง ๆ
หลังงานประชุมผู้ปกครอง หยวนชิงหลิงก็ไปที่ระเบียงทางเดินเพื่อคุยกับหยู่เหวินหวง
ตอนนี้ได้รู้แล้วว่าเพื่อนร่วมชั้นของเขาต่างก็ชอบเขามากจริง ๆ คุณครูก็ชอบเขาเหมือนกัน หยวนชิงหลิงจึงรู้สึกชื่นใจมาก ทั้งยังมีความสุขมากจริงๆ
นับตั้งแต่แฝดสองเกิดมาจนถึงตอนนี้ เธอไม่มีเรื่องอะไรที่ต้องเป็นห่วงเป็นกังวลมากนัก ในทางตรงกันข้าม กลายเป็นว่าทั้งสองคนกลับต้องเป็นฝ่ายเป็นห่วงเป็นกังวลแทน เพราะตอนที่พวกเขาเกิด พลังเหนือธรรมชาติของพวกเขาสูงมาก ตอนที่ยังเป็นทารกแบเบาะ ก็ต้องเป็นห่วงเป็นกังวลคอยช่วยพ่อแม่ตลอด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...