จิ้งเหอรู้ดีว่าการตัดสินใจทั้งหมดของตนในตอนนี้มิใช่ความคิดชั่ววูบ
หลังจากเป็นแม่คน ก็น้อยนักที่จะคิดถึงความรู้สึกและลำบากของตน และความคิดส่วนมากก็อยู่กับเด็กๆ
นางพาเด็กๆ กลับมา ไม่ใช่แค่ให้เขากินอิ่มนอนอุ่น แต่หวังจะให้ครอบครัวที่แท้จริงกับพวกเขา
โดยเฉพาะหลังจากมีความรู้สึกลึกซึ้งกับเด็กแล้ว นางยิ่งรู้สึกว่าพวกเขาคู่ควรมีทุกสิ่งนี้ และควรมีทั้งหมดนี้ด้วย ทั้งหมดนี้รวมไปถึงบิดาและที่พึ่งพิง
นางไม่สาวแล้ว เส้นทางแห่งชีวิตก็เดินมาไกลแล้ว แต่ชีวิตของเด็กๆ เพิ่งเริ่ม บางทีต่อไปพวกเขาอาจได้พบกับความล้มเหลวหรือพบกับอุปสรรค ความล้มเหลวอุปสรรคบางอย่างนางอาจช่วยเหลืออยู่ข้างๆ ได้ และนางต้องใช้ความพยายามทั้งหมดไปช่วยพวกเขาแน่
แต่นางไม่มั่นใจว่าจะอยู่กับพวกเขาได้อีกนานเท่าไร
นางขึ้นอายุแล้วจริงๆ และสุขภาพนางก็ไม่ค่อยดี
หากนางเป็นอะไรจากไปก่อน เด็กที่เหลือกลุ่มนี้จะไม่มีที่พึ่งพิง เพราะเดิมพวกเขาก็เป็นเด็กกำพร้า ไม่มีญาติคนอื่นดูแลช่วยเหลือ
อ๋องเว่ยก็รู้ดีว่าใจนางคิดอะไร
ขณะที่ขบวนไปเมืองชายแดนกำลังหยุดพักระหว่างทาง หรงเยว่ก็ถามหยวนชิงหลิง “นี่ถือว่าจิ้งเหอคืนดีกับพี่สามแล้วหรือยัง?”
หยวนชิงหลิงเอ่ย “ข้าคิดว่าใช่นะ”
“เยี่ยมเลย” หรงเยว่เอ่ย
หยู่เหวินเห้ามายื่นอาหารให้หยวนชิงหลิง เอ่ย “กำลังพูดเรื่องพี่สามอยู่หรือ?”
“พูดไปเรื่อยนิดหน่อย” หยวนชิงหลิงรับมาแล้วยิ้มเอ่ย
หยู่เหวินเห้าเอ่ยขึ้นอย่างค่อนข้างจริงจัง “ที่จริงการเผชิญกับชีวิตเพียงลำพังน่ากลัวนัก หากข้างกายมีใครสักคน เช่นนั้นก็มีบ้าน อย่างน้อยจิตวิญญาณก็มีที่ให้พักและพึ่งพิง”
นี่เป็นท่าทีมนุษย์ที่หาไม่ได้ในกลียุค แต่จะปรากฏให้เห็นในยุคศิวิไลซ์ รวมไปถึงสมัยก่อนที่เมืองโร่ตูแผ่นดินไหว หยวนชิงหลิงมาที่นี่ สิ่งที่ตามองเห็นนั้นเป็นความโอดครวญและสิ้นหวัง กระทั่งมีความแค้นเป็นอริกับราชสำนัก แม้นจะไม่เห็นแววศัตรู แต่ก็เป็นแค่ความว่างเปล่า ไม่มีความหวังแห่งชีวิตสักนิด
แน่นอน ตอนนั้นเป็นเพราะแผ่นดินไหว แต่หากประชาชนเคยได้รับความสำคัญจากราชสำนักเป่ยโม่ เช่นนั้นก็จะไม่สิ้นหวังขนาดนี้เด็ดขาด เพราะพวกเขาจะมีความมั่นใจ แม้จะได้รับกับภัยพิบัติร้ายแรงขนาดไหน บ้านเมืองจะต้องอยู่เคียงข้างพวกเขา ไม่ทอดทิ้งพวกเขาแน่
หยวนชิงหลิงกระซิบกับหยู่เหวินเห้า “ที่นี่แตกต่างจากตอนแรกราวฟ้ากับดิน ลูกสาวเจ้ามีความดีความชอบใหญ่หลวง”
ทว่าครั้งนี้หยู่เหวินเห้ากลับไม่ยิ้มย่องเพราะความสามารถของบุตรี เขาเอ่ย “นางเป็นเจ้าหญิง ได้รับการเทิดทูนจากประชาชนก็ควรให้พวกเขาได้มีชีวิตที่ดี นี่เป็นหน้าที่ของนาง มิควรภูมิใจ”
ในใจเจ้าห้าย่อมดีใจอยู่แล้ว แต่แผ่นดินแลอาณาประชาราษฎร์เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในใจเขา
นี่เป็นความรับผิดชอบของคนในตระกูลเจ้าแผ่นดิน
เจ๋อหลานรู้นานแล้วว่าเสด็จพ่อและเสด็จแม่จะมา แต่ไม่ส่งคนไปต้อนรับนอกเมือง นางขี่ม้าไปด้วยตนเอง ไม่ได้บอกคนอื่น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
OMG ไม่คิดว่าจะอ่านจบ 2105 หน้าสุดปัง เรื่องสนุกมาก ดำเนินเรื่องได้น่าติดตาม มีความเรียลจนบางตอนมีน้ำตาซึมตามเพีาะความประทับใจ สนุกมากจริงๆทอยากให้มีภาคลูกไปบ้าง...
กลับมาอ่านอีกครั้ง สนุกจริง...
สนุกมากค่ะ มีต่อไหมคะ...
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...