ไม่ถึงครึ่งชั่วยามคนทั้งจวนก็รู้ข่าวที่อ๋องเว่ยจะตามทุกคนกลับเมืองหลวง
เป็นอ๋องอานที่ออกไปพูด
และเป็นอ๋องเว่ยที่ให้อ๋องอานออกไปพูด
อ๋องเว่ยกลัวว่าจิ้งเหอจะกลับคำ ดังนั้นจึงให้อ๋องอานออกไปพูด
อ๋องอานบอกกับอ๋องเว่ย ว่าพอจิ้งเหอใจเย็นลงแล้วอาจกลับคำ ดังนั้นอ๋องเว่ยจึงให้เขาออกไปบอกกับทุกคน ว่าเขาจะตามขบวนใหญ่กลับเมืองหลวง จากนั้นก็จะกลับไปอยู่ที่จวน
อ้อมค้อมไปหน่อย แต่เขาก็ทุ่มเทใจจริงๆ
ขณะที่พวกเจ้าห้าออกเดินทางไปหัวเมืองชายแดน อ๋องเว่ยก็ลุกขึ้นเดินได้แล้ว เดินไม่เป็นธรรมชาติ กะเผลกๆ ต้องทำกายภาพระยะหนึ่ง แต่เขาก็ไม่สนใจ จะพาจิ้งเหอออกไปดูทิวทัศน์ของเมืองเจียงเป่ยให้ได้
เวลานี้เป็นช่วงที่ต้นไม้ใบหญ้าเมืองเจียงเป่ยกำลังงอกงาม และเป็นช่วงที่มีอากาศเหมาะสมที่สุดของปี
พวกเขาไปกินอาหารมื้อหนึ่งก่อน มื้อนี้กินที่ภัตตาคารเค่อหลายที่ขึ้นชื่อที่สุดของเมืองเจียงเป่ย แม้เทียบไม่ได้กับเมืองหลวง แต่สำหรับที่นี่ก็ถือว่าเป็นภัตตาคารที่ค่อนข้างแพง
ทั้งสองสั่งอาหารมาสี่อย่างอย่างฟุ่มเฟือย
ที่นี่ไม่มีอาหารทะเล แต่ของป่ากลับมีเยอะมาก โดยเฉพาะในเวลานี้พวกเห็ดอวบอั๋นอุดมสมบูรณ์ที่สุด ดังนั้นอาหารสี่อย่างนี้จึงไม่ใช่ราคาถูก
เดิมเตรียมการไว้อย่างดี จิ้งเหอก็กินอย่างอารมณ์ชื่นบานมาก เพราะหากินเห็ดที่สดดีขนาดนี้ได้น้อยมากจริงๆ
เสียก็เสียแต่ตอนคิดเงิน
อ๋องเว่ยไม่ได้พกเงินมาด้วย
ขณะที่กำลังจะคิดเงิน เขาล้วงเงินอยู่นานถึงนึกขึ้นได้ว่าตัวเองไม่มีถุงเงินนานมากแล้ว เมื่อก่อนหากไม่อยู่ในกองทัพ ก็อยู่ที่ค่ายทหาร ไม่เช่นนั้นก็กินกับเจ้าสี่ เสื้อผ้า รองเท้า ถุงเท้าล้วนเป็นพระชายาอานจัดการให้หมด เขาตัวเปล่าเล่าเปลือย แม้แต่คนรับใช้สักคนก็ไม่มี ดังนั้นจึงแทบไม่ต้องออกไปซื้อของข้างนอก
เขาเคอะเขินมาก ทั้งอายทั้งโมโห โมโหที่ตอนออกมาตนไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ ตอนนี้อาหารก็กินแล้ว แต่กลับไม่มีเงินจ่าย น่าขายหน้าจริงๆ
จะขายหน้าตอนไหนก็ได้ แต่เขารับไม่ได้ที่จะขายหน้าต่อหน้าจิ้งเหอ
อ๋องเว่ยรีบรับมา แยกยิ้มเอ่ย “ได้ เช่นนั้นวันนี้เจ้าอยากกินอะไร อยากซื้ออะไร ข้าจะเป็นคนจ่าย”
จิ้งเหอเอ่ย “ไม่ต้องซื้อ ในบ้านไม่ขาดอะไร”
“ทำเสื้อผ้าให้เจ้าสักสองชุด? สองสามปีนี้ข้ากลับเมืองหลวง เห็นเจ้าแต่งตัวเรียบง่ายนัก” อ๋องเว่ยรู้สึกผิดมาก เดิมควรให้นางได้มีชีวิตอยู่ดีกินดี แต่กลับต้องอยู่เยี่ยงหญิงชาวเกษตร
“ไม่ พวกนี้ก็ดี ทนซัก” จิ้งเหอส่ายหน้า อึดใจหนึ่งแล้วจึงเอ่ย “เงินก็เก็บไว้มากหน่อย อีกหน่อยเด็กๆ ต้องแต่งงานออกเรือน นี่เป็นรายจ่ายก้อนโต”
“ครั้งนี้ข้าบาดเจ็บ ยื่นเรื่องขอชดเชยจากราชสำนักได้” ทันใดนั้นอ๋องเว่ยก็มีความคิดจะหาเงิน
“ไม่ต้อง บ้านเราไม่ได้ยากจนขนาดนั้น ข้ามีเงินเก็บ” จิ้งเหอเอ่ย
คำว่า ‘บ้านเรา’ พูดจนอ๋องเว่ยมีน้ำตาอุ่นคลอ เขาเอ่ยเสียงแผ่ว “เจ้าวางใจเถอะ มีข้าอยู่ เจ้ากับเด็กๆ ไม่ได้ลำบากหรอก ข้ารู้ว่าทุกอย่างที่เจ้าทำก็เพื่อเด็กๆ รวมถึงการให้ข้ากลับบ้าน...ก็เพราะพวกเขา”
จิ้งเหอลดสายตาลง ริมฝีปากยิ้มเรียบ ไม่ได้ปฏิเสธแต่ก็ไม่ได้ยอมรับ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
OMG ไม่คิดว่าจะอ่านจบ 2105 หน้าสุดปัง เรื่องสนุกมาก ดำเนินเรื่องได้น่าติดตาม มีความเรียลจนบางตอนมีน้ำตาซึมตามเพีาะความประทับใจ สนุกมากจริงๆทอยากให้มีภาคลูกไปบ้าง...
กลับมาอ่านอีกครั้ง สนุกจริง...
สนุกมากค่ะ มีต่อไหมคะ...
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...