บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1768

ไม่ถึงครึ่งชั่วยามคนทั้งจวนก็รู้ข่าวที่อ๋องเว่ยจะตามทุกคนกลับเมืองหลวง

เป็นอ๋องอานที่ออกไปพูด

และเป็นอ๋องเว่ยที่ให้อ๋องอานออกไปพูด

อ๋องเว่ยกลัวว่าจิ้งเหอจะกลับคำ ดังนั้นจึงให้อ๋องอานออกไปพูด

อ๋องอานบอกกับอ๋องเว่ย ว่าพอจิ้งเหอใจเย็นลงแล้วอาจกลับคำ ดังนั้นอ๋องเว่ยจึงให้เขาออกไปบอกกับทุกคน ว่าเขาจะตามขบวนใหญ่กลับเมืองหลวง จากนั้นก็จะกลับไปอยู่ที่จวน

อ้อมค้อมไปหน่อย แต่เขาก็ทุ่มเทใจจริงๆ

ขณะที่พวกเจ้าห้าออกเดินทางไปหัวเมืองชายแดน อ๋องเว่ยก็ลุกขึ้นเดินได้แล้ว เดินไม่เป็นธรรมชาติ กะเผลกๆ ต้องทำกายภาพระยะหนึ่ง แต่เขาก็ไม่สนใจ จะพาจิ้งเหอออกไปดูทิวทัศน์ของเมืองเจียงเป่ยให้ได้

เวลานี้เป็นช่วงที่ต้นไม้ใบหญ้าเมืองเจียงเป่ยกำลังงอกงาม และเป็นช่วงที่มีอากาศเหมาะสมที่สุดของปี

พวกเขาไปกินอาหารมื้อหนึ่งก่อน มื้อนี้กินที่ภัตตาคารเค่อหลายที่ขึ้นชื่อที่สุดของเมืองเจียงเป่ย แม้เทียบไม่ได้กับเมืองหลวง แต่สำหรับที่นี่ก็ถือว่าเป็นภัตตาคารที่ค่อนข้างแพง

ทั้งสองสั่งอาหารมาสี่อย่างอย่างฟุ่มเฟือย

ที่นี่ไม่มีอาหารทะเล แต่ของป่ากลับมีเยอะมาก โดยเฉพาะในเวลานี้พวกเห็ดอวบอั๋นอุดมสมบูรณ์ที่สุด ดังนั้นอาหารสี่อย่างนี้จึงไม่ใช่ราคาถูก

เดิมเตรียมการไว้อย่างดี จิ้งเหอก็กินอย่างอารมณ์ชื่นบานมาก เพราะหากินเห็ดที่สดดีขนาดนี้ได้น้อยมากจริงๆ

เสียก็เสียแต่ตอนคิดเงิน

อ๋องเว่ยไม่ได้พกเงินมาด้วย

ขณะที่กำลังจะคิดเงิน เขาล้วงเงินอยู่นานถึงนึกขึ้นได้ว่าตัวเองไม่มีถุงเงินนานมากแล้ว เมื่อก่อนหากไม่อยู่ในกองทัพ ก็อยู่ที่ค่ายทหาร ไม่เช่นนั้นก็กินกับเจ้าสี่ เสื้อผ้า รองเท้า ถุงเท้าล้วนเป็นพระชายาอานจัดการให้หมด เขาตัวเปล่าเล่าเปลือย แม้แต่คนรับใช้สักคนก็ไม่มี ดังนั้นจึงแทบไม่ต้องออกไปซื้อของข้างนอก

เขาเคอะเขินมาก ทั้งอายทั้งโมโห โมโหที่ตอนออกมาตนไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ ตอนนี้อาหารก็กินแล้ว แต่กลับไม่มีเงินจ่าย น่าขายหน้าจริงๆ

จะขายหน้าตอนไหนก็ได้ แต่เขารับไม่ได้ที่จะขายหน้าต่อหน้าจิ้งเหอ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน