บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1801

เมืองหลวง

วันนี้มีคนผู้หนึ่งมาที่จวนอ๋องซู่ เดินด้วยท่าทางกะโผลกกะเผลก เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง ผมเผ้ายุ่งเหยิงกระเซอะกระเซิง ปิดคลุมใบหน้ามิดชิด มีสภาพเหมือนถูกโจรปล้นมาอย่างไรอย่างนั้น

ประตูจวนอ๋องซู่ไม่ใช่ใครนึกจะเข้าก็สามารถเข้าไปได้ง่าย ๆ คนผู้นั้นเพิ่งไปถึงขั้นบันไดก็ถูกหยุดไว้ทันที เสียงคนร้องตะโกนถามเขาดังขึ้นว่า "เจ้ามาหาใคร?"

ไม่สำคัญว่าเสื้อผ้าจะขาดรุ่งริ่งแค่ไหน ผมเผ้ายุ่งเหยิง หรือปิดหน้าปิดตาจนมิดก็ไม่สำคัญ แต่พอมองเห็นสองมือที่ว่างเปล่าคู่นั้น กระทั่งของขวัญสักชิ้นก็ไม่มีมา ก็คิดจะก้าวขาเข้ามาในจวนอ๋องซู่แล้วอย่างนั้นรึ?

ที่แห่งนี้ เป็นสถานที่ที่ดูถูกคนที่สุดในเป่ยถังเลยเชียวนะจะบอกให้

อย่างน้อยพกหมั่นโถวมาสักสองลูกก็ยังดี

จากนั้นก็เห็นคนที่มาพลิกผ้าที่คลุมส่วนผมลง เผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาตามแบบฉบับชาวเป่ยถัง "กระทั่งข้าก็ไม่รู้จักกันแล้วรึ?"

คนเฝ้าประตูคือตาเฒ่าองครักษ์เงาดำ เมื่อเห็นเขาในสภาพนี้ ก็ตกใจจนผงะ “นายท่าน นี่ท่านถูกปล้นมาอย่างนั้นรึ?”

“เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วสิ” เป็นไปไม่ได้ที่จะมีใครกล้าปล้นเขา หรือต่อให้มีคนตาบอดอย่างที่ว่ามาจริง ๆ ก็เป็นไปไม่ได้ที่การปล้นนั้นจะประสบความสำเร็จ

“นี่ท่านยังบาดเจ็บด้วยรึ? มียอดฝีมือที่ไหนทำร้ายท่านหรือไร?” องครักษ์เงาดำเดินตามเข้าไป ปากก็ถามไถ่ไม่หยุด

อ๋องชินเฟิงอันโบก ๆ มือ “ไม่สำคัญ ที่สำคัญคือพวกเราจะได้ดื่มเหล้ากันอีกแล้ว”

“จริงรึ? ท่านร่ำรวยแล้ว?” องครักษ์เงาดำดีใจสุดขีด ร้องตะโกนทันทีว่า “นายท่านกลับมาแล้ว คืนนี้ดื่มเหล้ากินเนื้อย่างกัน”

ชายชราชุดดำก้าวเท้าออกมาข้างหน้า แสดงความเคารพตามพิธีการสูงสุดต่อท่านอ๋องที่เวลานี้มีสภาพดั่งชายเร่ร่อนก็ไม่ปาน มีมือหลายคู่ยื่นออกมา แล้วพากันอุ้มเขาเข้าไปข้างใน

ส่วนเหตุผลที่ว่า ทำไมเขาถึงได้รับบาดเจ็บ กับเหตุผลที่ว่าทำไมจะได้กินเหล้ากินเนื้อย่างนั้น ไม่มีใครถามอีก กระบวนการไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือผลลัพธ์ต่างหาก

หลังจากนำเหล้าออกมากว่ายี่สิบไห ก็ได้เห็นอ๋องชินเฟิงอันหยิบขวดโหลออกมาใบหนึ่ง หยิบยาเม็ดออกมาหลายเม็ด บิเม็ดยาหนึ่งเม็ดออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ สามสี่ชิ้น แล้วใส่ลงในเหล้า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน