บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1803

สรุปบท บทที่ 1803 คาดว่าน่าจะดังแน่: บัลลังก์หมอยาเซียน

ตอน บทที่ 1803 คาดว่าน่าจะดังแน่ จาก บัลลังก์หมอยาเซียน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1803 คาดว่าน่าจะดังแน่ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยาย จีน บัลลังก์หมอยาเซียน ที่เขียนโดย ลิ่วเยว่ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

หลังจากโทร 110 ไปไม่นาน ไม่กี่นาทีตำรวจก็มาถึง อีกทั้งประสิทธิภาพการทำงานของตำรวจก็ยังสูงมากอีกด้วย

เซเว่นอัพกับโค้กต่างก็ไม่ได้หนีไป เป็นเพราะมีคนมามุงดูมากขึ้นเรื่อย ๆ บวกกับสองคนที่ฝ่าไฟแดงเห็นว่าตาแก่สามคนนั้นเผ่นหนีไปแล้ว ก็รีบจับเขาไว้แน่นเพื่อไม่ให้เขาหนี ทั้งยังชี้ไม้ชี้มือใส่พวกเขา ก่นด่าพวกเขาว่าเป็นเด็กเป็นเล็กไม่รู้จักตั้งใจเรียน ถึงกับมารวมหัวกับตาแก่อีกสามคนดักจี้ดักปล้นคนอื่น

กลุ่มคนที่มามุงดูได้ยินดังนั้น มีบางคนร่วมผสมโรงกล่าวหาพวกเขาอย่างขุ่นเคืองไปด้วย อุตส่าห์เกิดมาหน้าตาดีขนาดนี้แท้ ๆ อย่างกับพวกดาราเลย ทำไมกลับทำเรื่องชั่วร้ายแบบนี้ได้นะ?

ในยุคของวิดีโอสั้น ใคร ๆ ก็มีมือถือ เห็นเรื่องแบบนี้ก็เหมือนแมวเห็นปลาย่าง ต่างพากันยกมือถือขึ้นถ่ายเก็บไว้อย่างสอดรู้สอดเห็น ขณะเดียวกันก็ทำท่าทำทางเป็นคนที่ยืนอยู่บนที่สูงมากด้วยคุณธรรม ปากก็ตำหนิด่าว่าหนุ่มน้อยสองคนที่ทำเรื่องชั่วร้ายไปด้วย

ภายในสิบนาทีที่ตำรวจมาถึง พวกเขาก็ถูกตราหน้าไปถึงเรื่องขาดการอบรมจากพ่อแม่ รวมถึงการละเลยหน้าที่ที่พ่อแม่ควรกระทำแล้ว

สร้างความชอบธรรมในการเป็นฮีโร่บนแป้นคีย์บอร์ดกันสลอน

หลังจากที่ตำรวจมาถึง อันดับแรกก็เข้าควบคุมที่เกิดเหตุ แล้วจึงค่อยถามถึงสถานการณ์

"เหยื่อ" ทั้งสองพูดอย่างกระตือรือร้นว่า พวกเขาไปลากตัวพวกตนเองออกมาในเวลากลางวันแสก ๆ ถึงขั้นลากพวกตนไปอีกด้านเพื่อพยายามจะปล้น

“ปล้นเหรอ?” ตำรวจหันไปมองสำรวจเซเว่นอัพกับโค้กพักใหญ่ เห็นว่าดวงตาของพวกเขาทั้งใสสะอาดและชัดเจน พวกเขาดูไม่เหมือนพวกวัยรุ่นชั่ว ๆ ที่คิดจะปล้นคนเลยจริงๆ

“ใช่ มันเป็นการปล้น พวกเขายังมีผู้สมรู้ร่วมคิดอีกสามคนด้วย แต่ตอนที่พวกนั้นได้ยินว่าผมโทรเรียกตำรวจก็รีบหนีไปเลย”

หนึ่งใน"เหยื่อ" พูดด้วยท่าทางตื่นเต้น ระหว่างนั้นคนที่มุงดูอยู่ก็ยังคงบันทึกวิดีโอไปเรื่อย ๆ ราวกับว่าในชั่วอึดใจเดียว เขาก็ได้กลายเป็นวีรบุรุษแห่งความยุติธรรมขึ้นมาทันที ต่อว่าต่อขานพ่อแม่ของเด็กสองคนต่อหน้าตำรวจว่า "ไม่รู้จริง ๆ นะว่าพ่อแม่ของพวกเขาสอนมายังไง เป็นเด็กเป็นเล็กไม่รู้จักตั้งใจเรียน คนแบบนี้ถ้าได้ออกมาสู่สังคม จะต้องเป็นหายนะของสังคมแน่ คุณตำรวจต้องลงโทษให้หนัก ๆ เลยนะครับ”

คำพูดประโยคนั้น พูดได้เสียงดังฟังชัด ชวนให้กลุ่มคนที่อยู่รอบ ๆ ข้างฮือฮาเห็นด้วย

ตำรวจถามเซเว่นอัพว่า "พวกเธอพยายามจะปล้นพวกเขาอย่างนั้นเหรอ?"

เซเว่นอัพพูดอย่างจนใจว่า “ผมไม่ได้คิดจะปล้นพวกเขานะครับ.…”

ตำรวจถามเวลาที่เกิดเหตุ จากนั้นก็โทรกลับไปที่สถานีตำรวจ สั่งให้คนตรวจสอบกล้องที่สัญญาณไฟจราจรดูหน่อย

มีเวลาที่แน่นอน การตรวจสอบก็ง่ายแล้ว

ผ่านไปไม่นานนัก ก็มีโทรศัพท์กลับมา ยืนยันว่าทั้งสองคนฝ่าไฟแดงจริง เลยถูกชายชราสามคนจับตัวแล้วลากกลับมาทางนี้

ภาพจากกล้องวงจรปิดถูกส่งไปยังโทรศัพท์มือถือของตำรวจ มีประชาชนที่อยู่ใกล้ ๆ บางเอาโทรศัพท์มือถือไปจ่อถ่ายใกล้ ๆ แม้ว่าจะถูกห้ามไว้ แต่ก็ถูกถ่ายภาพเหตุการณ์ไว้ได้อย่างชัดเจน ว่าทั้งสองคนฝ่าไฟแดงจริง ๆ

เมื่อมีความจริงอยู่ตรงหน้า ข้อกล่าวหาที่แสดงความยุติธรรมและเข้มงวดก่อนหน้าของพวกเขาจึงกลายเป็นเรื่องตลกไปทันที ประชาชนพากันชี้หน้าด่า บอกว่าพวกเขาเป็นพวกสับปลับเล่นไม่ซื่อ คิดจะใส่ร้ายเด็กสองคนนั้น ช่างชั่วช้าน่ารังเกียจจริงๆ

และด้วยเหตุการณ์คดีพลิกที่ว่ามานี้เอง ทำให้ไม่มีใครสนใจแล้วว่า ชายชราสามคนนั้นต้องการจะหยุดพวกเขาจากการฝ่าไฟแดงจริง ๆ หรือเปล่า

หลังจากตำรวจอบรมสองคนที่ฝ่าไฟแดงเสร็จ ยังหันไปยกย่องโค้กกับเซเว่นอัพเสียยกใหญ่ จากนั้นก็บอกให้พวกเขารีบกลับบ้าน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน