บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1814

สรุปบท บทที่ 1814 ข้าต้องการความช่วยเหลือของเจ้าอย่างมาก: บัลลังก์หมอยาเซียน

อ่านสรุป บทที่ 1814 ข้าต้องการความช่วยเหลือของเจ้าอย่างมาก จาก บัลลังก์หมอยาเซียน โดย ลิ่วเยว่

บทที่ บทที่ 1814 ข้าต้องการความช่วยเหลือของเจ้าอย่างมาก คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยาย จีน บัลลังก์หมอยาเซียน ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ลิ่วเยว่ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

การสอบเอนทรานซ์ได้เริ่มขึ้นแล้ว

บรรดาพ่อแม่ที่กังวลใจต่างรออยู่ข้างนอก ทั้งเคร่งเครียดวิตกและไม่สบายใจ ไม่รู้ว่าสถานการณ์ข้างในจะเป็นอย่างไรบ้าง

แต่กลับกลายเป็นว่า พวกเขากังวลจนเกินเหตุไปจริง ๆ ผู้ที่เดินออกจากสนามสอบเป็นคนแรก ก็คือสองคุณชายตระกูลหยู่เหวิน

สีหน้าของทั้งสองคนดูผ่อนคลาย คล้ายว่าเตรียมตัวมาพร้อมจนมั่นใจอย่างยิ่ง ราวกับว่าสำหรับพวกเขา นี่ไม่ใช่การสอบที่สำคัญหรือยากลำบากอะไร แต่เป็นเพียงข้อสอบของเด็กประถมเท่านั้น

อู๋ซ่างหวงดึงเด็ก ๆ มาแล้วเอาแต่ถามว่ายากหรือไม่? รู้สึกว่าตอนสอบทำได้เป็นอย่างไร? ทั้งสองคนต่างก็แสดงท่าทางในทำนองละเว้นประโยคที่สำคัญไป แล้วพูดออกมาสองสามคำว่า "ก็พอไหวนะครับ!"

เซียวเหยากงก็ถามด้วยว่า "มีที่ทำไม่ได้กี่ข้อ?"

เมื่อทุกคนได้ยิน ก็คิดว่านี่ล่ะคือคำถามสำคัญ จึงพากันหันไปมองสองพี่น้องอย่างพร้อมเพรียง

สองพี่น้องส่ายหน้าพร้อมกันอีกครั้ง “ทำได้หมด!”

นี่ออกจะไม่ค่อยแยแสไปหน่อยแล้วนะ อายุยังน้อยก็ควรรู้จักอ่อนน้อมถ่อมตนเสียบ้างสิ

สุดท้ายคนเป็นพ่อก็ยังพึ่งพาได้เสมอ เดินเข้ามาโอบไหล่ลูกทั้งสองคนแล้วพูดว่า “สอบเสร็จแล้วก็ทิ้งมันไปเถอะนะ ไม่ต้องไปคิดถึงอีก ไม่ว่าจะสอบได้ดีหรือสอบได้ไม่ดี จากนี้ก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้ว แค่รอการประกาศผลก็พอ”

สองวันมานี้ เขารอคอยด้วยใจที่ร้อนรนเล็กน้อย อยากรีบกลับไปที่เป่ยถังให้เร็วขึ้นอีกหน่อย

อันที่จริง จากที่ได้สังเกตเด็ก ๆ ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา เขาก็พบว่าครั้งนี้ไม่ว่าพวกเขาจะมาหรือไม่มาที่นี่ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะทุกคนต่างบอกว่าการสอบเอนทรานซ์นั้นสำคัญมาก แต่พวกเขากลับดูผ่อนคลายไม่ได้ลำบากหรือกังวลอะไรเลย

นี่เป็นการแสดงออกถึงความมั่นใจในตนเองโดยธรรมชาติ พวกเขามีความสามารถและฉลาดหลักแหลมจริง ๆ แต่ตนเองในฐานะพ่อ ซึ่งส่งต่อมรดกทางพันธุกรรมอันโดดเด่นเลอเลิศเช่นนี้ไปให้กับลูก ๆ ก็ควรได้หน้าในเรื่องนี้ด้วยสินะ

หลังจากสอบเสร็จ ก็ต้องไปเลี้ยงฉลองมื้อใหญ่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะสองคนสามีภรรยาไม่สามารถพาพวกเขาไปเที่ยวได้ เลยตั้งใจให้อาหารมื้อนี้เป็นงานเลี้ยงฉลองไปด้วยเลย

แต่ถึงอย่างนั้น มาตอนนี้หลังจากสอบเสร็จ ความคิดของพวกเขาก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง ทุกอย่างเป็นไปตามพรหมลิขิต สอบเสร็จก็ถือว่าประสบชัยชนะแล้ว

หลังจากครอบครัวรวมตัวฉลองกันเล็ก ๆ เสร็จ หยู่เหวินเห้ากับหยวนชิงหลิงก็รีบกลับไปที่เป่ยถังโดยไม่มีการรั้งรอใด ๆ อีก

แต่ไม่ว่าจะยุ่งแค่ไหน ก่อนที่จะกลับไป เธอก็ยังไม่ลืมว่าต้องขอให้หยางหรูไห่ฉีดยายับยั้งให้ก่อนเข็มหนึ่ง

สำหรับเธอแล้ว สารยับยั้งไม่ได้เป็นเพียงการยับยั้งความสามารถของเธอเท่านั้น แต่ยังเป็นยาที่ช่วยชีวิตไว้ได้อีกด้วย ถ้าเธอไม่ใช้ยาตัวที่มีผลยับยั้งต่อไป ร่างกายของเธอก็จะไม่สามารถทนต่อผลที่ตามมาของการพัฒนาสมองได้

ตอนที่หยวนชิงหลิงได้เห็นเขาครั้งแรก ก็เกิดความรู้สึกแปลกประหลาดบางอย่างขึ้นมาเล็กน้อย เหมือนกับว่าเคยรู้จักเขามาก่อน

จากนั้นสายตาก็ย้ายจากชายร่างสูงคนนี้ ไปที่แขกอีกสองคนที่อยู่ถัดกัน

ชายหนึ่งหญิงหนึ่ง ผู้หญิงดูงดงามและขี้เล่น ส่วนผู้ชายหล่อเหลาดูท่าทางตรงไปตรงมา ทั้งสองคนจับมือกันเดินเข้ามาหา เห็นได้ชัดว่า เป็นคู่สามีภรรยาที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกันอย่างมาก

ในเวลานี้เอง หยู่เหวินเห้าก็จับมือของหยวนชิงหลิงไว้เช่นกัน จากนั้นก็ค่อย ๆ เดินเข้าไปหาพวกเขาอย่างช้า ๆ

อ๋องชินเฟิงอันพาพวกเขามาที่นี่ ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเฮือกใหญ่"พวกเจ้ากลับมาได้เสียที"

เขายืนอยู่ข้าง ๆ หยู่เหวินเห้ากับหยวนชิงหลิง เริ่มแนะนำสถานะของพวกเขาในฐานะฮ่องเต้กับฮองเฮาแห่งราชวงศ์เป่ยถังก่อน จากนั้นค่อยแนะนำให้พวกเขารู้จักอีกฝ่าย "สองท่านนี้มาจากแคว้นต้าซุ่น ท่านผู้นี้ชื่อว่าตงฟางจิ้ง มีตำแหน่งเป็นอ๋องจิ้งแห่งแคว้นต้าซุ่น ส่วนท่านนี้คือพระชายาจิ้ง นามว่าหลงชิงรั่ว หรือก็คือผู้พัฒนา LR คนนั้นนั่นเอง”

หยวนชิงหลิงหันไปมองพระชายาจิ้งอย่างตื่นเต้น "ในที่สุดข้าก็ได้พบท่านแล้ว นี่มันช่างวิเศษเหลือเกิน"

“ในที่สุดข้าก็รอจนเจ้ากลับมาได้พบหน้ากัน นี่มันช่างวิเศษเหลือเกิน!”

มือสี่ข้างของหญิงสาวสองคนประสานเข้าหากันแน่น ดวงตาของทั้งสองฝ่ายต่างเผยให้เห็นข้อความประโยคหนึ่ง นั่นคือ ข้าต้องการความช่วยเหลือของเจ้าอย่างมาก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน