บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1854

สรุปบท บทที่ 1854 ถ้าแพ้แล้วต้องรับใช้มู่หรูกงกง: บัลลังก์หมอยาเซียน

สรุปเนื้อหา บทที่ 1854 ถ้าแพ้แล้วต้องรับใช้มู่หรูกงกง – บัลลังก์หมอยาเซียน โดย ลิ่วเยว่

บท บทที่ 1854 ถ้าแพ้แล้วต้องรับใช้มู่หรูกงกง ของ บัลลังก์หมอยาเซียน ในหมวดนิยายนิยาย จีน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ลิ่วเยว่ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

หลังกินข้าวกลางวันเสร็จ ซาลาเปาก็เสนอให้พาพวกน้อง ๆ ไปพายเรือเล่น

อันที่จริง พวกเขาไม่ค่อยมีช่วงเวลาที่ได้เที่ยวเล่นในเมืองหลวงมากนัก ครั้งนี้เป็นโอกาสที่หาได้ยากที่พวกเขาจะได้มารวมตัวกัน จึงอยากลองไปเที่ยวเล่นตามแผนการทั้งหมดที่พวกเขาไม่เคยลอง

ก่อนหน้านี้เคยได้ไปล่องเรือสำราญมาแล้ว แต่ก็รู้สึกว่าถ้าได้พายเรือเองคงจะสนุกกว่า การที่พาแม่ออกมาด้วยมีข้อดีอยู่อย่างหนึ่งคือ แม่รู้ถึงความสามารถของพวกเขา ดังนั้น ย่อมวางใจให้พวกเขาเล่นโปรแกรมอะไรที่มันเสี่ยง ๆ หน่อยได้ แต่พ่อจะเหมือนบรรดาแม่แก่ ๆ ที่หัวโบราณ เอาแต่กังวลนั่นกังวลนี่อยู่เรื่อย

อันที่จริงพ่อเองก็มีความสามารถพิเศษ แต่เพราะความสามารถเหล่านั้น เป็นสิ่งที่เขาไม่อาจควบคุมได้ดั่งใจ จึงทำให้รู้สึกไม่มั่นคง จนถึงตอนนี้ นอกจากการพูดคุยกับพวกเขาแล้ว พ่อจะไม่ยอมใช้ความสามารถเหล่านั้นออกมาง่าย ๆ

พ่อบอกว่า มันเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกับชีวิต เขาเป็นคนที่มีครอบครัวใหญ่ให้ต้องดูแล ต้องรู้จักทะนุถนอมใส่ใจตัวเองให้มาก

พวกเขาเช่าเรือท้องแบนมาสี่ลำ แม่คู่กับฮูหยินเหยา พวกเขาแบ่งกันเอง แฝดสองหนึ่งลำ ซาลาเปากับน้องสาวหนึ่งลำ ข้าวเหนียวกับทังหยวนหนึ่งลำ

“เราพายเรือข้ามไปจนถึงทะเลสาบฝั่งตรงข้ามแล้วกลับมา ใครเร็วกว่าคนนั้นชนะ แต่ต้องใช้แค่แรงกายธรรมดาเท่านั้นนะ ใครที่ใช้ลูกไม้เล่นตุกติกจะถูกตัดสิทธิ์ทันที” ซาลาเปาประกาศเสียงดัง

“คนที่ชนะจะได้รางวัลอะไรล่ะ?” ทังหยวนถาม

ซาลาเปามองเขาพลางยิ้มจนตายิบหยี “คนที่ชนะอาจไม่ได้รางวัลอะไร แต่ถ้าแพ้ล่ะก็ ต้องปัดกวาดลานพระตำหนักเสี้ยวเยว่เป็นเวลาเจ็ดวัน ระหว่างการปัดกวาดทำความสะอาดห้ามโกงด้วยล่ะ บอกไว้ก่อนแล้วกัน ว่าแม่จะ ไม่เข้าร่วมการแข่งนี้ด้วย ส่วนความหมายของคำว่าแพ้ ไม่ใช่คนที่ไปถึงเป็นคนสุดท้ายถึงจะนับว่าแพ้ แต่นับที่ใครก็ตามที่ไม่ได้ที่หนึ่งคือแพ้หมด”

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ขอแค่ไม่ชนะเป็นที่หนึ่ง ก็เท่ากับแพ้หมด ต้องไปกวาดพื้น

เมื่อฮูหยินเหยาได้ยินดังนั้น ก็นึกสนุกสุดขีด "ให้พวกเขากวาดพื้น? มู่หรูกงกงต้องเป็นบ้าแน่!"

หยวนชิงหลิงก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน ปกติมู่หรูกงกงก็แทบจะป้อนข้าวถึงปากพวกเขาอยู่แล้ว จะตัดใจปล่อยให้พวกเขากวาดพื้นได้อย่างไรกัน?

“เช่นนั้นก็ช่วยมู่หรูกงกงซักเสื้อผ้า” เจ๋อหลานพูดพลางหัวเราะเสียงดัง “แล้วก็ทำอาหารให้เขาด้วย”

“ฮะ ๆ ๆ!” หยวนชิงหลิงกระชับไม้พายในมือ ทันทีที่ออกแรงจ้วง เรือก็แล่นออกไปข้างหน้า “แม่เห็นด้วย พวกลูก ๆ ควรรับใช้มู่หรูกงกงให้ดีนะ”

เรื่องให้รับใช้มู่หรูกงกงนั้น พวกเขายินดีทำอยู่แล้ว แต่ยินดีก็ส่วนยินดี อย่างไรก็ยังต้องแข่งขันกันให้เต็มที่เพื่อคว้าที่หนึ่งมาให้ได้

ต้องเคารพการแข่งขัน

ฮูหยินเหยาตกใจจนกรีดร้องเสียงแหลม แต่หยวนชิงหลิงกลับหัวเราะงอหายจนตัวส่ายโอนเอน

ฮูหยินเหยายื่นมือออกมาตบนาง "ยังจะหัวเราะอีก เด็ก ๆ ตกน้ำกันไปแล้วนะ น้ำลึกจะแย่"

“ไม่เป็นไรหรอก พวกเขาเล่นกันสนุกออกนะ” หยวนชิงหลิงพูดพลางหัวเราะ นางพายเรือช้า ๆ ไม่ได้ใช้แรงมากนัก แต่เรือยังคงแล่นไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ไล่ตามเด็ก ๆ ไป หนุ่มน้อยทั้งสี่ที่ตกน้ำไป ตัดใจสละการพายเรือแล้ว ตัดสินใจว่าจะว่ายน้ำกลับไปแทน

ซาลาเปากับเจ๋อหลานมั่นคงอย่างยิ่ง ถึงอย่างไรพวกเขาสี่คนก็ตกน้ำไปหมดแล้ว ต่อให้จะว่ายน้ำไปแล้วว่ายกลับมาก็แพ้อยู่ดี

พวกเขากำลังนำอยู่หน้าสุด น้องชายสี่คนไล่ตามมาข้างหลัง ผิวน้ำกระเพื่อมไหว เผยหัวคนสามสี่หัวลอยกันสลอน ทุกคนต่างร่าเริงสนุกสนาน หัวใจของซาลาเปาเกิดสั่นไหว จูงมือน้องสาวแล้วกระโดดตามลงน้ำไปด้วย

“เฮ้อ ซาลาเปานี่ล่ะก็ ทำไมถึงได้ลากน้องสาวกระโดดลงไปด้วยล่ะนี่? น้องสาวเป็นเด็กผู้หญิงบอบบางนะ” ฮูหยินเหยารู้สึกปวดใจมาก “ถ้าโดนความหนาวเล่นงานจนเป็นไข้จะทำอย่างไรล่ะ?”

“ร้อนขนาดนี้ ไม่ถูกความหนาวเล่นงานหรอก” หยวนชิงหลิงกลับมีความสุขมาก พระอาทิตย์ตกสาดแสงบนทะเลสาบเหมือนดั่งทองคำที่แตกกระจายเป็นริ้ว ๆ ช่วงอายุที่ดีที่สุด ได้อยู่ร่วมกับพี่น้อง โอกาสแบบนี้ค่อนข้างหาได้ยากสำหรับพวกเขา ดังนั้น ขอแค่พวกเขามีความสุข ก็ปล่อยให้พวกเขาได้เล่นกันให้เต็มที่เถอะ

ยกเว้นพี่ใหญ่กับน้องสาว คนอื่นๆ ต่างก็เป็นทีมแพ้ ต้องกลับไปกวาดพื้นและรับใช้มู่หรูกงกงตามที่ตกลงกันไว้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน