บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1855

สรุปบท บทที่ 1855 มู่หรูคิดว่าตัวเองฝันไป: บัลลังก์หมอยาเซียน

บทที่ 1855 มู่หรูคิดว่าตัวเองฝันไป – ตอนที่ต้องอ่านของ บัลลังก์หมอยาเซียน

ตอนนี้ของ บัลลังก์หมอยาเซียน โดย ลิ่วเยว่ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยาย จีนทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1855 มู่หรูคิดว่าตัวเองฝันไป จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ในวังเช้าวันนี้ มู่หรูกงกงยังไม่ตื่นนอน องค์ชายใหญ่ก็ยกน้ำร้อนมา บอกว่าจะดูแลปรนนิบัติกงกงล้างหน้าหวีผม

เขาคิดว่าตัวเองคงได้ยินผิดไป "หมายถึงจะให้ข้าน้อยปรนนิบัติท่านล้างหน้าหวีผมใช่หรือไม่? ได้พ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยจะรีบลุกขึ้นเดี๋ยวนี้"

เขาดีใจอย่างยิ่ง คิดว่าองค์ชายองค์หญิงเติบโตกันหมดแล้ว คงไม่ต้องการให้เขารับใช้อีกต่อไป คิดไม่ถึงว่าองค์ชายจะยกน้ำร้อนมาเพื่อให้เขาดูแลรับใช้ถึงที่ อั้ยหยา เขายังไม่แก่สินะ เขายังเป็นที่ต้องการขององค์ชายอยู่ เขารู้สึกดีเหลือเกินแล้วจริงๆ

ขณะที่เขายกผ้าห่มขึ้น องค์ชายรองก็เข้ามาด้วย ในมือถือถ้วยชามาใบหนึ่ง เอ่ยขึ้นว่า "หลังจากล้างหน้าหวีผมเสร็จแล้ว ก็ดื่มชาสักถ้วยก่อน น้องสามกับน้องสาวกำลังทำอาหารเช้าให้ท่านอยู่"

“อะไรนะ?” มู่หรูกงกงตกใจจนตัวสั่นเทิ้ม “องค์หญิงกับองค์ชายสามกำลังทำอาหารเช้าอยู่? จะให้ทำอย่างนั้นได้อย่างไรกัน?”

องค์หญิงผู้บอบบางน่าทะนุถนอมของเขา จะให้ไปอยู่ในสถานที่อย่างห้องครัวได้อย่างไรกัน?

เขารีบสวมรองเท้าทันที ทำท่าจะออกไปข้างนอก แต่ซาลาเปาคว้าตัวเขาไว้ "กงกง มาล้างหน้าก่อนสิ"

หลังจากที่ทังหยวนวางถ้วยชาลงแล้ว ก็ถอดเสื้อนอกของเขาออก ตั้งใจจะช่วยเขาสวมใหม่ให้ดี ๆ

“ไม่ต้อง ๆ ข้าน้อยทำเองดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ”

“กงกง วันนี้ท่านไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น พวกเราจะรับใช้ท่านเอง” ซาลาเปาพูดด้วยรอยยิ้ม

“นรกกจะกินหัวข้าน้อยแล้ว จะให้องค์ชายมารับใช้ข้าน้อยได้อย่างไรกัน?” มู่หรูกงกงตกใจแทบตายแล้ว รีบก้าวถอยหลัง ดวงตากลอกไปมาประหนึ่งจะหลุดจากเบ้าด้วยความสยดสยองให้ได้แล้ว

“กงกง!” ซาลาเปาวางของลง เดินเข้าไปจับมือเขา แล้วยื่นมือไปลูบที่เส้นผมหงอกขาวของมู่หรูกงกง มองดูรอยยับย่นที่มุมคิ้ว ซาลาเปาก็ตระหนักขึ้นมาได้ว่ากงกงแก่มากแล้ว คอยปรนนิบัติรับใช้พวกเขามานานหลายปีขนาดนี้ แต่พวกเขากลับไม่เคยพูดขอบคุณเลยสักคำ “นั่งลงเถอะ วันนี้ให้พวกเรารับใช้ท่าน ท่านก็รู้ใช่หรือไม่ ว่าพวกเราไม่เคยถือว่าท่านเป็นบ่าวรับใช้ในวัง พวกเรานับถือท่านเป็นหนึ่งในผู้อาวุโส ท่านก็ช่วยตอบรับความรู้สึกที่อยากตอบแทนบุญคุณจากพวกเราสักครั้งเถอะนะ "

มู่หรูกงกงมองดูองค์ชายใหญ่ ในดวงตาเริ่มมีน้ำตาคลอเบ้า ได้ยินคำพูดประโยคนี้ ต่อให้สั่งให้เขาไปตาย เขาก็เต็มใจไปตายเดี๋ยวนี้ได้เลยจริงๆ

“แต่... จะมีเจ้านายที่ไหนมาทำหน้าที่ปรนนิบัติคนรับใช้กันล่ะ? นี่มันผิดธรรมเนียมปฎิบัติ ..…” มู่หรูกงกงรู้สึกซาบซึ้งก็จริง แต่ในใจก็เอาแต่รู้สึกว่านี่มันไม่ถูกต้อง

เจ๋อหลานวางอาหารเช้าลงบนโต๊ะ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า "กงกง ก็แค่ยกอาหารเช้าเข้ามาเอง ทำไมจะหกล้มเสียแล้วล่ะ? ตอนที่ข้าอยู่ที่เมืองโร่ตู ข้ายังตักน้ำแบกน้ำเองเลยด้วยนะ"

ดวงตาของมู่หรูกงกงเปลี่ยนเป็นแดงเรื่อขึ้นมาทันที “องค์หญิงผู้น่าสงสารของข้า เหตุใดข้างกายท่านถึงไม่มีข้ารับใช้เลยแม้แต่คนเดียว ไยฝ่าบาทถึงได้โหดร้ายเหลือเกิน ปล่อยให้องค์หญิงไปตกระกำลำบากในที่ที่ไกลแสนไกลเช่นนั้น”

“อย่าพูดอะไรมากมายขนาดนั้นเลย มาลองชิมเกี๊ยวที่ข้าทำดูสิ ข้าห่อเองกับมือเชียวนะ เป็นไส้กุ้งกับเนื้อสับ” ที่ข้างแก้มของเจ๋อหลานเหมือนจะเปื้อนคราบแป้งเป็นดวง ๆ ยกยิ้มละไม ตักเกี๊ยวใส่ชามแบ่งเล็ก ๆ ด้วยมือตัวเอง แล้วยกไปให้มู่หรูกงกง "ลองชิมดูเร็วเข้า ระวังจะลวกปากล่ะ"

มู่หรูกงกงเห็นว่ามีควันสีขาวลอยกรุ่นอยู่เหนือชาม ก็กลัวว่าจะร้อนจนลวกมืออันบอบบางขององค์หญิง จึงรีบรับชามมา ภายใต้การจ้องมองของดวงตาที่สุกใสราวผลองุ่นดำขลับขององค์หญิง เขารีบตักเกี๊ยวขึ้นมาตัวหนึ่ง แล้วกินเข้าไปเต็มปากเต็มคำ พลันรู้สึกว่าในปากมีกลิ่นหอม รับรู้ถึงรสชาติที่สดใหม่จนน้ำลายสอ

เขาตื่นเต้นมากจนแทบจะร้องไห้ “ข้าน้อยไม่เคยกินเกี๊ยวที่อร่อยขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต ไม่เพียงแต่เกี๊ยวเท่านั้น แต่ไม่ว่าอาหารจานไหนก็เทียบไม่ได้กับอาหารจานนี้”

“จริงหรือ? ถ้าอย่างนั้นข้าจะทำให้ท่านทุกวันเลย” เจ๋อหลานพูดอย่างมีความสุข

มู่หรูกงกงตกใจจนแทบขวัญหนีดีฝ่อ “อย่างนั้นไม่ได้ ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน