ในใจเจ้าตาทับทิมมีความสุขอย่างยิ่ง คิดถึงช่วงเวลาที่ตัวเองเคลียเคล้าแนบชิดอยู่ในวงแขนของซาลาเปา ก็ใกล้ชิดกันขนาดนี้เช่นกัน
“ที่ค่ายทหารตอนนี้ยุ่งหรือไม่?” นางเอียงหน้ากลับไปถาม ใบหน้าขาวผ่องเต็มไปด้วยรอยยิ้มพอใจ
“ยังพอไหว ช่วงนี้ข้าไม่ได้ไปที่ค่ายทหารแล้ว เสด็จพ่อให้ข้ามาเรียนรู้การทำงานที่เมืองหลวง” ซาลาเปาพูดด้วยรอยยิ้ม
“เจ้าจะไม่กลับไปที่ค่ายแล้วหรือ?” เจ้าตาทับทิมครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วหันมองเขา “ไม่กลับไปก็ดีนะ ค่ายทหารเหนื่อยเหลือเกินแล้ว ท่านต้องเหนื่อยมากทุกวันเลย”
นางได้แต่รู้สึกสงสารเขาอยู่เสมอ
“ไม่เหนื่อยหรอก!” ริมฝีปากของเขายกขึ้นน้อย ๆ นึกขึ้นได้ว่าเมื่อก่อนหลังกลับจากทำงาน นางจะรีบพุ่งออกไปต้อนรับเขา วิ่งวนไปรอบ ๆ ตัวเขาหลาย ๆ รอบ จากนั้นค่อยไปเอนกายแนบชิดเขา เงยหน้าขึ้นมองด้วยแววตาเป็นประกายระยิบระยับ แววตานั้นช่างเหมือนกับว่ามีอะไรมากมายที่อยากจะพูดด้วย
เขาเองก็เคยคิดเหมือนกันว่า ถ้ามันพูดได้ ตอนนี้มันอยากจะพูดอะไร?
ตอนนี้ก็ยังเป็นแววตาแววนั้นเหมือนเดิม แท้จริงแล้ว นางเพียงแค่ห่วงใยเขาเท่านั้น
นี่ทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นมากทีเดียว
เจ้าตาทับทิมคุยกับเขาอยู่เนิ่นนาน พูดถึงเรื่องราวต่าง ๆ มากมายที่เกิดขึ้นในทุกวันที่ผ่านมา เรื่องที่ไม่เคยได้พูดก่อนหน้านี้ ตอนนี้มีโอกาสแล้ว จึงพูดออกมาทั้งหมดในคราวเดียว
แต่เพราะคำศัพท์ที่นางรู้ค่อนข้างจำกัด บ่อยครั้งที่ต้องหยุดคิดก่อน ถึงจะพูดออกมาได้
แต่อันที่จริง ไม่ว่านางจะพูดอะไร หยู่เหวินหลี่ก็สามารถฟังได้เข้าใจทั้งหมด ระหว่างทางเขาแทบไม่พูดอะไร แค่ตั้งใจฟังที่นางพูดเท่านั้น
น้องชายหันไปมองพวกเขา ทังหยวนอดพูดพลางหัวเราะไม่ได้ว่า "ที่เขาว่ากันว่า หากมีวาสนาห่างกันพันลี้ยังได้พบหน้า แต่หากไร้ซึ่งวาสนา แม้อยู่เพียงตรงข้ามก็ไม่อาจได้พานพบ ได้รับการยืนยันแล้วสินะ"
"นี่ไม่ใช่เพราะมีวาสนา อยู่ห่างกันพันลี้ยังได้มาพบหน้าหรอกหรือ? วาสนามาแล้ว ต่อให้อยากหยุดก็หยุดไม่อยู่หรอกนะ" ข้าวเหนียวก็หันไปมองด้วย ภาพฉากนี้ช่างเจริญตาเจริญใจนัก หนุ่มหล่อกับสาวสวย เหมาะสมกันราวกิ่งทองใบหยก
เจ๋อหลานพาพวกหมาป่าหิมะไปวิ่งเสร็จแล้วกลับมา เหนือหัวของพวกเขา เจ้าฟีนิกซ์น้อยสยายปีกเหินบิน เจ๋อหลานเหนื่อยจากการวิ่ง หอบใจหอบฮั่ก ๆ แต่เจ้าเสือ หมาป่าหิมะ กับเจ้าฟีนิกซ์น้อยที่อยู่ข้างหลังกลับมีความสุขสุดขีด วิ่งจนหมดมาดของสัตว์ผู้มีปัญญาอันเจริญแล้วไม่มีเหลือ
เจ้าตาทับทิมได้เห็นแล้ว รู้สึกอิจฉาอย่างยิ่ง แทบอดใจไม่ไหวอยากจะแปลงร่างเป็นจิ้งจอกน้อย แล้ววิ่งตะบึงตามพวกเขาขึ้นไปบนยอดเขาให้สุดแรงจริง ๆ
ภูเขาแบบนี้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนมีหรือจะทำให้นางเจอความลำบากได้?
“เจ้าอยากไปวิ่งหรือ?” หยู่เหวินหลี่ได้เห็นความอิจฉาในแววตาของนาง จึงเอ่ยถาม
“อยาก!” เจ้าตาทับทิมพยักหน้าอย่างรวดเร็ว มองดูเขาอย่างกระตือรือร้น
“แต่ว่าไม่ได้” หยู่เหวินหลี่ยิ้มละไม ละลายความคิดของนางอย่างอ่อนโยน “ยังต้องเดินช้า ๆ ไปก่อนนะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...