วังบูรพาอยู่ระหว่างการก่อสร้างเป็นการใหญ่
หลังจากที่หยู่เหวินเห้าได้รับแต่งตั้งเป็นรัชทายาท เขาก็อาศัยอยู่ที่จวนอ๋องฉู่มาตลอด ต่อมาเมื่อขึ้นครองราชย์ ก็มีการไปมาที่วังบูรพาบ้าง แต่ไม่นับว่าเคยอาศัยอยู่ที่วังบูรพา
สมัยก่อนเงินในคลังขัดสนมาก ไม่ได้มีมากพอจะนำออกมาใช้จ่ายตกแต่งบูรณะได้
แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว ประเทศร่ำรวยมั่งคั่งผู้คนเข้มแข็ง นับตั้งแต่หยู่เหวินเห้าขึ้นครองราชย์ เขาไม่ได้ทำการก่อสร้างใหญ่โตใด ๆ อาทิเช่น การสร้างอุทยานเอย ต่อเติมบูรณะพระราชวังเอย ซ่อมแซมสุสานหลวงเอย ไม่มีอะไรที่ว่านี้เลยแม้แต่อย่างเดียว
บวกกับเรื่องที่ไม่มีค่าใช้จ่ายในส่วนของบรรดาพระสนมในวังหลัง เงินที่จัดสรรให้กับคลังกิจการภายในของทุกปีจึงใช้ไม่หมด พูดได้เต็มปากว่าคลังกิจการภายในเวลานี้ถือว่าร่ำรวยฟู่ฟ่าอย่างมาก
เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายในรัชสมัยของฮ่องเต้หมิงหยวน ค่าใช้จ่ายในสมัยที่หยู่เหวินเห้าปกครองมีการนำออกมาใช้แค่ประมาณสองส่วนเท่านั้น เรียกได้ว่าประหยัดเงินไปได้เป็นพิเศษเลยทีเดียว
ดังนั้น การปรับปรุงวังบูรพาในครั้งนี้ จึงไม่ต้องการเงินจากคลังหลวง อาศัยแค่คลังกิจการภายในอย่างเดียว ก็สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ด้วยตัวเอง
แต่อย่างไรก็ตาม การซ่อมแซมวังบูรพานั้นหากราชสำนักไม่ออกเงินใด ๆ บ้างเลย ก็จะเหมือนกับทำตัวเป็นคนนอกที่วางตัวเหนือปัญหา หยู่เหวินเห้ายังมีคำสั่งไปยังกรมโยธาและกรมคลังด้วยว่า คิดเห็นอย่างไรก็สามารถตัดสินใจเองได้เลย
กรมโยธาทำงานล่วงเวลาอย่างต่อเนื่อง เพื่อจัดทำแบบร่างและส่งไปให้ฮ่องเต้ทรงพิจารณา
ในส่วนที่ว่าการลงมือทำต้องใช้เงินเท่าไหร่ กรมโยธาจะติดต่อกับกรมคลังก่อน กรมคลังให้เงินไปเท่าไหร่ กรมโยธาทำอะไรไปแค่ไหน ต้องใช้วัสดุเท่าไหร่ ทุกอย่างต้องเป็นระบบ
หลังจากหยู่เหวินเห้าได้ดูแล้ว ก็รู้สึกพอใจมาก ยังส่งต่อให้เจ้าหยวนกับเปาเอ๋อได้ดูด้วย
หยวนชิงหลิงไม่มีความคิดเห็นใด ๆ สุนทรียศาสตร์ของนางกับเจ้าห้านั้นต่างกันราวฟ้ากับเหว จึงส่งต่อให้เปาเอ๋อเป็นคนตัดสินใจ
หลังจากหยู่เหวินหลี่ได้ดู ก็รู้สึกว่าไม่มีปัญหาอะไร จึงส่งไปให้เจ้าตาทับทิมที่อยู่ข้าง ๆ เขาได้ดูด้วย
เจ้าตาทับทิมรับพิมพ์เขียวมา พลิกขึ้นพลิกลง พลิกซ้ายพลิกขวาอยู่ครู่หนึ่ง เอ่อ...ดูไม่รู้เรื่อง
ทันใดนั้นหยู่เหวินหลี่ก็รู้สึกว่า ควรจะสอนเจ้าตาทับทิมให้รู้หนังสือได้แล้ว
ไม่จำเป็นต้องถึงขั้นมีความรู้รอบด้าน แต่ควรต้องรู้จักตัวหนังสือ
ดังนั้นหลังจากดูพิมพ์เขียวแล้ว เขาจึงพาเจ้าตาทับทิมไปที่ห้องทรงอักษร
เมื่อเขาเขียนชื่อของเจ้าตาทับทิมลงบนกระดาษ เจ้าตาทับทิมก็เบิกตากว้างด้วยความปิติยินดี ชี้ไปที่คำนั้นแล้วพูดว่า "ซาลาเปา!"
หยู่เหวินหลี่ยิ้มแย้ม "ไม่ คือเจ้าตาทับทิม"
“ถ้าอย่างนั้นข้าเรียนชื่อหมาป่าซาลาเปาก็ได้ ” เจ้าตาทับทิมสมองหาทางซิกแซก เรียนคำว่าหมาป่าซาลาเปาแล้ว นางก็จะเขียนคำว่าซาลาเปาเป็นแล้วอย่างไรล่ะ
“ไม่ได้!” หยู่เหวินเห้ายิ้มพลางใช้นิ้วจิ้มที่หน้าผากของนาง “เรียนคำว่าเจ้าตาทับทิมก่อน”
“อย่างนั้นก็ได้” เจ้าตาทับทิมยอมประนีประนอมในที่สุด แต่นางก็แอบวางแผนเป็นลิงหลอกเจ้าไว้แล้วว่า วันพรุ่งนี้นางจะไปหาเจ๋อหลาน ขอให้เจ๋อหลานช่วยสอนนางเขียนคำว่าซาลาเปา
หยู่เหวินหลี่สอนนางจับปากกาครั้งแรก หลังจากจับปากกาให้ตั้งตรงได้ ก็เริ่มเขียนลำดับขีดบนกระดาษ ไม่ได้รีบร้อนเขียน ค่อย ๆ ฝึกลำดับขีดก่อนค่อยเขียนชื่อก็ยังไม่สาย
เจ้าตาทับทิมไม่ได้โง่ สามารถพูดได้ว่านางฉลาดพอตัว หยู่เหวินหลี่คิดว่านางน่าจะเขียนเป็นได้ง่าย ๆ
แต่ผลสุดท้าย หลังจากที่สอนไปแล้วครึ่งค่อนวัน แม้แต่ขีดตรง ๆ ขีดเดียวนางก็ยังเขียนได้ไม่ดี ทันทีที่เขียนออกไป ถ้าไม่ยึกยือป้อแป้ ก็บิดเบี้ยวโค้งงอ หรือไม่ก็ขีดเส้นแนวนอนแบบนอนไปจนสุดทาง สุดท้ายเลยไม่มีหนทางเขียนให้ดีได้สักที
ท่าจับปากกาของนางมักจะผิดตลอด นางยืนกรานว่าจะจับด้วยมือเดียวอย่างนี้ ไม่ชอบขยับนิ้ว
นางยังมั่นอกมั่นใจอย่างยิ่ง "ไม่มีจิ้งจอกที่ไหนเขียนหนังสือเป็นหรอก มีข้านี่ล่ะเป็นคนแรก"
หยู่เหวินหลี่จ้องมองนางด้วยสายตาตกตะลึงอยู่เป็นนานสองนาน คำพูดประโยคนี้ ไม่มีอะไรมาหักล้างมันได้จริง ๆ นั่นล่ะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
OMG ไม่คิดว่าจะอ่านจบ 2105 หน้าสุดปัง เรื่องสนุกมาก ดำเนินเรื่องได้น่าติดตาม มีความเรียลจนบางตอนมีน้ำตาซึมตามเพีาะความประทับใจ สนุกมากจริงๆทอยากให้มีภาคลูกไปบ้าง...
กลับมาอ่านอีกครั้ง สนุกจริง...
สนุกมากค่ะ มีต่อไหมคะ...
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...