บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1907

ในเมื่อจะผ่าตัด ย่อมปิดบังเรื่องนี้กับคุณพ่อคุณแม่รวมถึงพี่ชายไม่ได้ ทันทีที่หยวนชิงหลิงกลับถึงบ้านไปคุยเรื่องนี้ให้ทุกคนฟัง หลังจากที่ทุกคนร้อนอกร้อนใจไปยกหนึ่ง ก็ค่อย ๆ สงบสติอารมณ์ลงมาได้

พี่ชายพูดว่า "หลายปีมานี้คุณย่าได้ออกกำลังกายกับพวกเขาตลอด พื้นฐานร่างกายต้องแข็งแรงดีมากแน่ เราต้องเชื่อมั่นในตัวท่าน ว่าท่านจะต้องทนจนผ่านมันไปได้"

ความหวาดหวั่นสับสนมาเยือนเพียงชั่วครู่ก็ค่อย ๆ หายไป ในฐานะหมอ ย่อมรู้ว่าเมื่อเผชิญกับโรคภัย ความตื่นตระหนกไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น แต่การรักษาอย่างสม่ำเสมอ แรงสนับสนุนและความไว้วางใจจากคนในครอบครัว รวมถึงความแน่วแน่และความเชื่อมั่นในตัวเองของผู้ป่วยต่างหาก ถึงจะเป็นวิธีการเอาชนะโรคภัยที่ดีที่สุด

ทุกคนออกเดินทางไปโรงพยาบาลทันที หลังจากบรรดาคุณหมอแห่งบ้านตระกูลหยวนเข้าใจเกี่ยวกับอาการของโรคแล้ว พวกเขาก็พร้อมจะสนับสนุนแผนการรักษาดังกล่าวอย่างเต็มที่

เพราะทุกคนเชื่อมั่นว่า คุณย่าจะต้องทนจนผ่านมันไปได้

อู๋ซ่างหวงไม่ได้กลับไปพักที่บ้าน แต่อยู่เฝ้าไข้ที่โรงพยาบาล เมื่ออยู่ต่อหน้าคุณย่าหยวน เขายินดีที่จะเป็นน้องชาย

เขาเรียนรู้คำศัพท์จากอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือมาได้คำหนึ่ง คือคำว่า ชายแบ๊ว ๆ เขาเป็นชายแบ๊ว ๆของพี่จูตี้ ย่อมต้องดูแลคลอเคลียอยู่ข้างกายนางไม่ห่าง แล้วพานางกลับไปด้วยกัน

จวนอ๋องซู่จะขาดใครไปไม่ได้แม้แต่คนเดียว

ย่าหยวนขอร้องเขาแค่เรื่องเดียว คืออย่าเรียกตัวเองว่า “กู” ส่วนเรื่องอื่นคุณย่าล้วนตามใจเขา

อู๋ซ่างหวงเรียกตัวเองว่า "เจิ้น" มาหลายปีแล้ว กว่าจะเปลี่ยนมาเป็นคำว่า “กู” ได้ก็ลำบากลำบนแทบแย่ มาตอนนี้ต้องเรียกแทนตัวเองว่า “ฉัน” อีกแล้ว อะไรที่ติดเป็นนิสัยนี่มันแย่เสียจริง ช่างเปลี่ยนยากแท้!

แต่พี่จูตี้ต้องต่อสู้กับอาการเจ็บป่วยร้ายแรง การที่เขาสามารถเปลี่ยนคำเรียกแทนตัวเองได้ ก็นับว่าเป็นการร่วมทุกข์ร่วมสุข ร่วมเดินหน้าร่วมถอยหลังไปด้วยกันอย่างหนึ่ง

ก่อนการผ่าตัด ย่าหยวนไม่อนุญาตให้พวกหยวนชิงหลิงมาเฝ้าไข้ บอกให้แต่ละคนกลับไปพักผ่อนให้ดี

อู๋ซ่างหวงไม่ยอมไป เรียกว่าจะตีให้ตายก็ไม่ยอมไป ในฐานะที่เคยเป็นถึงฮ่องเต้ของประเทศหนึ่ง ความดื้อรั้นของเขาย่อมไม่อาจมีใครมาสั่นคลอนได้ ย่าหยวนก็จนปัญญาจะไล่เขากลับไป จึงทำได้แค่ต้องปล่อยให้เขาอยู่ที่โรงพยาบาลต่อ

ช่วงงดน้ำและอาหารก่อนการผ่าตัด อู๋ซ่างหวงรู้สึกว่าพี่จูตี้น่าสงสารมาก ต่อให้หิวแค่ไหนก็กินอะไรไม่ได้ จึงแอบไปซื้อของกินมาให้เธอ โดยพยายามหลบเลี่ยงไม่ให้พวกคนที่ใส่ชุดขาวเห็น

แต่บรรดาขนมปังที่เขาซื้อมาให้ พี่จูตี้กลับไม่ยอมกิน ได้แต่มองเขาพร้อมด้วยรอยยิ้ม

เขาพลันรู้สึกว่า ถ้าพี่จูตี้มีท่าทางที่เคร่งเครียดจริงจังกว่านี้คงจะดีเสียกว่า นางยิ้มแบบนี้ทำเอาเขารู้สึกกลัวจนขนพองสยองเกล้าไปหมด

แต่วันนี้พี่จูตี้อ่อนโยนมาก นางเอาขนมปังไปวางไว้อย่างเรียบร้อย แล้วพูดด้วยท่าทางจริงใจว่า "ขอบคุณนะ"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน