ของขวัญของพระชายาจี้กับพระชายาฉีก็ส่งมาถึงแล้ว
พระชายาจี้มอบพระโพธิสัตว์กวนอิมปางประธานบุตรที่ทำจากหยกให้หนึ่งองค์ ซึ่งแกะสลักอย่างประณีต เป็นงานดีชั้นหนึ่ง คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปไม่น้อย พระชายาจี้ลงทุนหนักครั้งนี้ เสียเงินไปมากโขอยู่
นางมีของขวัญล้ำค่ามอบให้ หยวนชิงหลิงไม่แปลกใจเลยสักนิด เรื่องเอาหน้าของพระชายาจี้นั้น อย่างไรเสียก็ต้องทำให้ถึงที่สุด
เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ของขวัญของพระชายาฉีฉู่หมิงชุ่ยที่มอบให้นั้นก็ช่างยากไร้เหลือทน
เป็นโสมสองต้น แล้วก็มีตังกุยอีกบางส่วน
ฉู่หมิงชุ่ยเป็นพวกที่ทำอะไรตามความเป็นจริง ไม่ค่อยลงทุนลงแรงเรื่องเอาหน้าเอาตา นางไม่ชื่นชอบหยวนชิงหลิง ยิ่งไม่อยากเห็นนางตั้งครรภ์ ที่ส่งของเหล่านี้มา น่าจะมีขุนนางในจวนออกความคิดเห็น เพื่อแสดงถึงน้ำใจเล็กๆน้อยๆก็เท่านั้น
อย่างน้อย ก็เป็นสะใภ้ในบ้านเหมือนกัน หากไม่ส่งของขวัญอะไรมาเลย ไม่สนใจถามไถ่ อาจทำให้ดูใจแคบไร้น้ำใจเกินไป
ที่จริงมอบของกินหรือยาให้ ก็รู้อยู่แล้วว่าพระชายาฉู่คงไม่กิน เช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องให้ของที่ดีนักก็ได้
แม่นมฉีอยากหาที่ที่เหมาะสมในการวางองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม แต่ตอนที่เช็ดถูกเจ้าแม่กวนอิมองค์นั้น ก็พบว่าด้านหลังขององค์พระมีรอยร้าวเส้นหนึ่ง
รอยร้าวนี้ไม่เด่นชัดนัก หากไม่ตั้งใจดูอย่างละเอียด คงจะคิดว่าเป็นลายของหยก หยกจักรพรรดิ
แต่ถ้าเป็นงานแกะสลักองค์พระ ล้วนต้องสมบูรณ์ไร้ที่ติ
มอบองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมปางประธานบุตรที่มีรอยร้าวให้ หมายความว่าอย่างไรกันแน่ แม่นมฉีโกรธมาก จึงบอกให้แม่นมสี่ทราบ
แม่นมสี่พูดว่า “ช่างเถอะ วางเอาไว้ก่อน บอกกับท่านอ๋องก็พอ อย่าบอกพระชายา เกรงว่านางจะโมโหเอาได้”
แม่นมฉีเอ่ยอย่างโมโหว่า “พระชายาจี้ก็ทำเกินไปจริงๆ นี่ไม่เท่ากับเป็นการสาปแช่งหรอกหรือ ไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนใจดำขนาดนี้มาก่อนเลย”
แต่ไหนแต่ไรแม่นมฉีพูดจาระมัดระวังรู้จักกาลเทศะ การพูดจาโจมตีเจ้านายที่เป็นพระชายานั้น เมื่อก่อนไม่เคยทำเลย แม้กระทั่งบางครั้งที่ลู่หยาพูดจาไร้มารยาท นางยังจะตำหนิด้วยซ้ำ
แต่นางรู้สึกว่าเรื่องเช่นนี้ไม่สมควรมีความผิดพลาดเกิดขึ้น ละเมิดข้อห้าม
นี่คือเรื่องที่ไม่เป็นมงคลอย่างยิ่ง
หากไม่พบเข้า เอาพระโพธิสัตว์กวนอมที่มีรอยร้าวไปตั้งวางไว้ในห้อง ให้พระชายาเห็นอยู่ทุกวัน นั่นคงไม่ใช่เรื่องอันเป็นมงคลแน่
แม่นมสี่ก็โมโหขึ้นมาเช่นกัน
แต่ว่า โมโหก็คือโมโห เรื่องนี้จะพูดก็ไม่ได้ เพราะว่า ตอนที่ส่งของมาไม่ได้เห็นรอยร้าวนี้ ตอนนี้เพิ่งมาบอกว่ามีรอยร้าว ใครจะรู้อาจถูกกล่าวหาว่าจงใจหาเรื่องใส่ร้ายก็เป็นได้
นางพูดว่า “ช่างเถอะ ไปตั้งไว้ก่อน”
ตอนที่หยู่เหวินเห้ากลับมา แม่นมฉีก็ได้บอกเรื่องนี้กับเขา
เมื่อหยู่เหวินเห้าได้ยินแล้ว ก็โมโหเกรี้ยวกราด
หลายวันมานี้ยายหยวนอาเจียนเกือบตาย นอนซมอยู่กับเตียงแม้จะไม่มีเลือดออก แต่อาการก็ไม่ได้ดีขึ้นสักเท่าไหร่ เขาเจ็บปวดใจเหลือทน นี่พระชายาจี้ยังจงใจส่งของน่ารังเกียจมาให้ ตอนนี้ยายหยวนอาการไม่ดี จะโมโหไม่ได้ หากนางรู้เข้า แล้วเกิดโมโหขึ้นมา ก็เท่ากับสะเทือนลูกในครรภ์อีกครั้ง
ตอนที่หยู่เหวินเห้าถูกลอบสังหารเขายังไม่โมโหมากมายขนาดนี้
แตะต้องเขาได้ แต่หากจะแตะต้องยายหยวนก็ไม่ต้องคุยกัน
วันรุ่งขึ้น เขากลับไปที่ศาลาว่าการตั้งแต่เช้า พาหัวหน้าพลตระเวนและทหารที่อีกหลายนายไปที่จวนอ๋องจี้
บอกว่าการตายของชายารองหลิว ยังมีข้อสงสัย ต้องตรวจสอบให้ละเอียด
อ๋องจี้ได้ไปปราบจลาจลที่เมืองถิงเจียงแล้ว แต่ถึงแม้เขาจะอยู่ ความคับแค้นใจนี้หยู่เหวินเห้าก็กลืนไม่ลงอยู่ดี
แต่หากคดีนี้ยังคงตรวจสอบลงไปอีก ปัญหานี้ไม่รู้ว่าจะต่อเนื่องไปอีกนานแค่ไหน หากมีการตรวจสอบอย่างเปิดเผย แม้ว่าสุดท้ายจะเป็นการกล่าวหาเท็จ แต่ในสังคมคงกระจายข่าวเรื่องที่นางบีบบังคับให้พระชายารองฆ่าตัวตายไปทั่วแล้ว
นางแค้นในใจ แต่ไม่สามารถพูดออกไปได้
นิ่งขรึมอยู่ชั่วครู่ นางก็อ่อนลง กระแอมไอหนึ่งเสียง “น้องห้ากัดไม่ปล่อยอย่างนี้ เป็นเพราะเรื่องพระโพธิสัตว์กวนอิมปางประทานบุตรหรือ”
หยู่เหวินเห้ามองนางอย่างเยือกเย็น “พระโพธิสัตว์กวนอิมปางประทานบุตรอะไรกัน ข้าไม่เห็นรู้เรื่อง”
พระชายาจี้พูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด “พระองค์นั้น ข้าอยากจะมอบให้พระชายาฉู่ด้วยใจจริง ไหนเลยจะรู้ว่าพวกบ่าวรับใช้จะทำงานสะเพร่า พระองค์นั้นตกลงมาจนมีรอยร้าวข้าก็ไม่รู้ เมื่อส่งไปเป็นของขวัญแล้วจึงกลับมาขอขมาข้า หากน้องห้ามาเพราะเรื่องนี้ ข้าจะชดใช้ให้ก็ได้”
ขณะพูด นางก็ยืนขึ้น คำนับให้กับหยู่เหวินเห้า
หยู่เหวินเห้ามองนาง สีหน้าไม่ได้แสดงอาการใดๆทั้งสั้น “บ่าวรับใช้ทำงานผิดพลาด พี่สะใภ้ก็ควรอบรมสั่งสอนให้ดี”
พระชายาจี้รีบพูดเสียงดุว่า “เด็กๆ ไปเอาตัวเสี่ยวชิงมา”
จากนั้น ก็มีสาวรับใช้คนหนึ่งถูกลากตัวเข้ามา ถูกจับให้คุกเข่าตรงหน้าหยู่เหวินเห้า สาวรับใช้คนนั้นอายุไม่น่าเกินสิบห้าสิบหกปี แววตามีแต่ความตื่นตระหนกหวาดกลัว ร่างกายสั่นเทา
พระชายาจี้เอ่ยด้วยเสียงโกรธเคือง “พระโพธิสัตว์กวนอิมปางประทานบุตรที่ข้ามอบให้กับพระชายาฉู่ เจ้าไม่ระวังทำตกพื้น มีรอยร้าวแล้วยังบังอาจส่งไปให้กับพระชายาอีก เจ้ามีกี่ชีวิตให้ตาย เด็กๆ ลงโทษนาง ”
สาวรับใช้นั่งคุกเข่าอยู่กับพื้น ส่ายหน้าจากจิตใต้สำนึก ดวงตาเต็มไปด้วยน้ำตา
มีแม่นมร่างบึกบึนคนหนึ่งเดินเข้ามา คว้าคอเสื้อของสาวรับใช้ กางฝ่ามือออกจะฟาดลงไปสุดแรงเกิด ปากก็ก่นด่า “ตีเจ้าคนชั้นต่ำที่มันไม่รู้อะไรเอาซะเลย บังอาจล่วงเกินพระชายาฉู่”
หยู่เหวินเห้าตะคอกเสียงดุ “ช้าก่อน”
แม่นมนิ่งอึ้งไป ถอยหลังไปหนึ่งก้าวมองหยู่เหวินเห้า “ท่านอ๋อง ขอท่านได้โปรดอย่าขอร้องแทนนังคนชั้นต่ำนี้เลย นางสมควรได้รับการลงโทษ โชคยังดีคที่พระชายาฉู่ยังไม่โมโหจนเกิดอะไรขึ้นมา ไม่เช่นนั้น นางตายหมื่นครั้งก็ชดใช้ความผิดไม่ได้ ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
OMG ไม่คิดว่าจะอ่านจบ 2105 หน้าสุดปัง เรื่องสนุกมาก ดำเนินเรื่องได้น่าติดตาม มีความเรียลจนบางตอนมีน้ำตาซึมตามเพีาะความประทับใจ สนุกมากจริงๆทอยากให้มีภาคลูกไปบ้าง...
กลับมาอ่านอีกครั้ง สนุกจริง...
สนุกมากค่ะ มีต่อไหมคะ...
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...