บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 201

ของขวัญของพระชายาจี้กับพระชายาฉีก็ส่งมาถึงแล้ว

พระชายาจี้มอบพระโพธิสัตว์กวนอิมปางประธานบุตรที่ทำจากหยกให้หนึ่งองค์ ซึ่งแกะสลักอย่างประณีต เป็นงานดีชั้นหนึ่ง คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปไม่น้อย พระชายาจี้ลงทุนหนักครั้งนี้ เสียเงินไปมากโขอยู่

นางมีของขวัญล้ำค่ามอบให้ หยวนชิงหลิงไม่แปลกใจเลยสักนิด เรื่องเอาหน้าของพระชายาจี้นั้น อย่างไรเสียก็ต้องทำให้ถึงที่สุด

เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ของขวัญของพระชายาฉีฉู่หมิงชุ่ยที่มอบให้นั้นก็ช่างยากไร้เหลือทน

เป็นโสมสองต้น แล้วก็มีตังกุยอีกบางส่วน

ฉู่หมิงชุ่ยเป็นพวกที่ทำอะไรตามความเป็นจริง ไม่ค่อยลงทุนลงแรงเรื่องเอาหน้าเอาตา นางไม่ชื่นชอบหยวนชิงหลิง ยิ่งไม่อยากเห็นนางตั้งครรภ์ ที่ส่งของเหล่านี้มา น่าจะมีขุนนางในจวนออกความคิดเห็น เพื่อแสดงถึงน้ำใจเล็กๆน้อยๆก็เท่านั้น

อย่างน้อย ก็เป็นสะใภ้ในบ้านเหมือนกัน หากไม่ส่งของขวัญอะไรมาเลย ไม่สนใจถามไถ่ อาจทำให้ดูใจแคบไร้น้ำใจเกินไป

ที่จริงมอบของกินหรือยาให้ ก็รู้อยู่แล้วว่าพระชายาฉู่คงไม่กิน เช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องให้ของที่ดีนักก็ได้

แม่นมฉีอยากหาที่ที่เหมาะสมในการวางองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม แต่ตอนที่เช็ดถูกเจ้าแม่กวนอิมองค์นั้น ก็พบว่าด้านหลังขององค์พระมีรอยร้าวเส้นหนึ่ง

รอยร้าวนี้ไม่เด่นชัดนัก หากไม่ตั้งใจดูอย่างละเอียด คงจะคิดว่าเป็นลายของหยก หยกจักรพรรดิ

แต่ถ้าเป็นงานแกะสลักองค์พระ ล้วนต้องสมบูรณ์ไร้ที่ติ

มอบองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมปางประธานบุตรที่มีรอยร้าวให้ หมายความว่าอย่างไรกันแน่ แม่นมฉีโกรธมาก จึงบอกให้แม่นมสี่ทราบ

แม่นมสี่พูดว่า “ช่างเถอะ วางเอาไว้ก่อน บอกกับท่านอ๋องก็พอ อย่าบอกพระชายา เกรงว่านางจะโมโหเอาได้”

แม่นมฉีเอ่ยอย่างโมโหว่า “พระชายาจี้ก็ทำเกินไปจริงๆ นี่ไม่เท่ากับเป็นการสาปแช่งหรอกหรือ ไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนใจดำขนาดนี้มาก่อนเลย”

แต่ไหนแต่ไรแม่นมฉีพูดจาระมัดระวังรู้จักกาลเทศะ การพูดจาโจมตีเจ้านายที่เป็นพระชายานั้น เมื่อก่อนไม่เคยทำเลย แม้กระทั่งบางครั้งที่ลู่หยาพูดจาไร้มารยาท นางยังจะตำหนิด้วยซ้ำ

แต่นางรู้สึกว่าเรื่องเช่นนี้ไม่สมควรมีความผิดพลาดเกิดขึ้น ละเมิดข้อห้าม

นี่คือเรื่องที่ไม่เป็นมงคลอย่างยิ่ง

หากไม่พบเข้า เอาพระโพธิสัตว์กวนอมที่มีรอยร้าวไปตั้งวางไว้ในห้อง ให้พระชายาเห็นอยู่ทุกวัน นั่นคงไม่ใช่เรื่องอันเป็นมงคลแน่

แม่นมสี่ก็โมโหขึ้นมาเช่นกัน

แต่ว่า โมโหก็คือโมโห เรื่องนี้จะพูดก็ไม่ได้ เพราะว่า ตอนที่ส่งของมาไม่ได้เห็นรอยร้าวนี้ ตอนนี้เพิ่งมาบอกว่ามีรอยร้าว ใครจะรู้อาจถูกกล่าวหาว่าจงใจหาเรื่องใส่ร้ายก็เป็นได้

นางพูดว่า “ช่างเถอะ ไปตั้งไว้ก่อน”

ตอนที่หยู่เหวินเห้ากลับมา แม่นมฉีก็ได้บอกเรื่องนี้กับเขา

เมื่อหยู่เหวินเห้าได้ยินแล้ว ก็โมโหเกรี้ยวกราด

หลายวันมานี้ยายหยวนอาเจียนเกือบตาย นอนซมอยู่กับเตียงแม้จะไม่มีเลือดออก แต่อาการก็ไม่ได้ดีขึ้นสักเท่าไหร่ เขาเจ็บปวดใจเหลือทน นี่พระชายาจี้ยังจงใจส่งของน่ารังเกียจมาให้ ตอนนี้ยายหยวนอาการไม่ดี จะโมโหไม่ได้ หากนางรู้เข้า แล้วเกิดโมโหขึ้นมา ก็เท่ากับสะเทือนลูกในครรภ์อีกครั้ง

ตอนที่หยู่เหวินเห้าถูกลอบสังหารเขายังไม่โมโหมากมายขนาดนี้

แตะต้องเขาได้ แต่หากจะแตะต้องยายหยวนก็ไม่ต้องคุยกัน

วันรุ่งขึ้น เขากลับไปที่ศาลาว่าการตั้งแต่เช้า พาหัวหน้าพลตระเวนและทหารที่อีกหลายนายไปที่จวนอ๋องจี้

บอกว่าการตายของชายารองหลิว ยังมีข้อสงสัย ต้องตรวจสอบให้ละเอียด

อ๋องจี้ได้ไปปราบจลาจลที่เมืองถิงเจียงแล้ว แต่ถึงแม้เขาจะอยู่ ความคับแค้นใจนี้หยู่เหวินเห้าก็กลืนไม่ลงอยู่ดี

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน