บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 200

ฮูหยินใหญ่ทำเป็นไม่ได้ยินอะไร แล้วหันไปกำชับซุนมามาให้เตรียมรถม้า

เจ้าพระยาจิ้งรู้ว่ายังไงท่านแม่ก็ต้องคิดถึงอนาคตของเขา จึงไม่พูดอะไรมาก แล้วขอตัวออกไป

และก็เป็นอย่างที่เจ้าพระยาจิ้งเดาไว้

คนของเจ้าพระยาจิ้งไป หยู่เหวินเห้าไม่ยอมให้พบนางเลย แต่รู้ว่านางเป็นห่วงฮูหยินใหญ่ ครั้งนี้นางมาด้วยตัวเอง นี้เป็นการมาด้วยอาการป่วย จะไม่ให้เจอก็ไม่ได้

เขาออกไปเชิญด้วยตัวเอง พร้อมกับคารวะนางอย่างเป็นพิธี แถมยังเรียกนางว่าท่านย่า

นางเป็นเสี้ยนจู่ นางเข้าใจพิธีการ นางจึงรีบจับมือของหยู่เหวินเห้า แล้วพูดขึ้น: “ท่านอ๋องไม่ต้องมาพิธี”

ท่านย่าของอ๋องฉู่ก็คือไทเฮา ถ้าหากว่าสนิทมากหน่อย ก็คงไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ แต่เรื่องกฎต่างๆ ก็ต้องทำ จะได้ไม่มีปัญหา

สำหรับการเรียกนี้ หยู่เหวินเห้าก็ได้เรียกแล้ว นางก็ไม่ควรพูดอะไร ไม่อย่างนั้นอาจจะดูไม่เหมาะ

หยู่เหวินเห้าเชิญนางเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม พอหยวนชิงหลิงได้ยินว่าท่านย่ามาแล้ว ก็อยากจะลุกขึ้น

หยู่เหวินเห้ารีบดันนางลงไป: “ห้ามลุก นอนลงดีแล้ว ท่านย่าเองก็ไม่ใช่คนอื่น”

หยวนชิงหลิงจึงต่อว่าเขา “ข้านอนจนเอวจะขาดแล้ว”

“เดี๋ยวข้ามานวดให้เจ้า เจ้าพูดคุยกับท่านย่าก่อน ข้าจะไปกรมพระนคร”

ถ้าหากถามว่าใครในจวนเจ้าพระยาจิ้งที่เขาไม่เกลียด คนนั้นก็คือท่าย่า

และเพราะว่าท่านย่ามา เขาเลยสบายใจหน่อย ย่าหลานต้องการคุยกัน เขาอยู่ด้วยจะไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ แต่ถ้าหากว่าเขาไม่อยู่ดูแลในจวน ก็ดูจะไม่ดีเท่าไหร่ เขาจึงใช้โอกาสนี้ไปกรมพระนคร

หยวนชิงหลิงแทบอยากจะให้เขาออกห่างนาง นอนมาสองวันแล้ว และต้องอยู่ในสายตาของเขาตลอด จนนางจะคลั่งแล้ว

หลังจากที่หยู่เหวินเห้าไปแล้ว ฮูหยินใหญ่ก็นั่งลงที่เตียง พร้อมกับพูดขึ้นอย่างพอใจ : “เขาทำดีกับเจ้ามากเลย”

หยวนชิงหลิงหันไปมองนาง และไม่พูดต่อนาง เพียงแค่ขมวดคิ้ว: “อาการป่วยของท่านเป็นอย่างไรบ้าง อย่าออกมาไกลแบบนี้สิ”

ฮูหยินใหญ่ยื่นมือออกไปลูบผมนาง แล้วพูดขึ้นเสียงเรียบ: “ข้าก็ไม่ได้เดินมาเอง นั่งรถม้ามา”

หยวนชิงหลิงจึงพูดขึ้น: “รถม้าวิ่งกระตุกมาก ไม่ใช่ว่ายิ่งทำให้ทรมานหรือ?”

ท่านย่าทำเสียงสบถ “ทำไม?ข้ามาหาเจ้าไม่ดีใจหรือ?”

หยวนชิงหลิงหัวเราะ “จะไม่ดีใจได้ไง?ท่านมาหาข้าก็ต้องดีใจอยู่แล้ว และคิดถึงท่านด้วย”

“พอแล้ว ไม่ต้องทำตัวน่าเอ็นดูแล้ว เป็นอย่างไรบ้าง?มีอาการแพ้มากไหม?” ฮูหยินใหญ่ขมวดคิ้วแล้วมองหน้าซีดขาวของนาง

“ทั้งอ้วก ทั้งอาเจียน!” หยวนชิงหลิงหัวเราะออกมาอย่างน่าสงสาร “อีกอย่าง หมอหลวงยังกำชับว่าห้ามลงจากเตียง นอกจากอาบน้ำ ตอนนี้ข้าไม่สามารถไปไหนได้เลย”

“อย่างนั้นเจ้าก็นอนพัก การเป็นแม่คนจะเป็นกันง่ายๆ ได้อย่างไร?ต่างก็ต้องทรมานกันไม่ใช่หรือ?” ฮูหยินใหญ่พูดออกมาอย่างสบายๆ เพียงแต่สายตานั้นดูเป็นห่วงมาก

หยวนชิงหลิงกุมมือนางไว้ “ท่านพ่อบอกท่านมาใช่หรือไม่?”

“เขาไม่บอกให้มา ข้าก็ต้องมา ต้องมากำชับเจ้าสองสามความ เจ้าจะได้ไม่ดื้อรั้น” ฮูหยินใหญ่พูด

หยวนชิงหลิงจึงพูดขึ้น: “ไม่ต้องกำชับหรอก ตอนนี้คนในจวนต่างก็จับจ้องข้า ข้าอยากจะดื้อยังไงก็ไม่ได้”

“ท่านอ๋องทำดีต่อเจ้า อย่าได้ทำอะไรเขา” ฮูหยินใหญ่ได้ยินสองประโยคเมื่อครู่ก็ดูออกแล้ว หลานเขยผู้นี้ปฏิบัติต่อนางดีมากเลย

ที่นางไม่สนใจเพราะว่าตอนนี้นางมีเรื่องอื่น สรุปแล้วนางยังอยากทำอยู่

“ข้ารู้ว่าเขาทำเพื่อข้า ดังนั้นข้าก็ฟังเขาทุกอย่าง” หยวนชิงหลิงยิ้ม “แล้วท่านย่ามีเรื่องอะไรอยากจะกำชับหรือ?ท่านพูดได้เลย ข้าจะทำตามที่บอกแน่นอน”

ฮูหยินใหญ่ถอนหายใจ แล้วหันไปมองนาง: “ก็ไม่มีอะไรควรจะกำชับหรอก”

ที่จริง เพราะว่าไม่วางใจ จึงอยากมาดูว่านางสบายดีหรือไม่ และอยากรู้ว่าหยู่เหวินเห้าทำอย่างไรต่อนาง ตอนนี้เห็นแล้ว ก็ไม่มีอะไรต้องพูดแล้ว

หมอหลวงอยู่ในจวน ถ้ามีอะไรที่ต้องระวังก็ต้องฟังหมอหลวง

นางนิ่งไป และพูดขึ้น: “เพียงแต่มีอย่างหนึ่ง ข้าเองอาจจะบ่นนิดหนึ่ง หญิงที่กลายเป็นแม่ ตอนนี้เจ้าทุกข์ทรมานมันคุ้มค่ามาก พยายามอดทนไว้ให้ได้ก็พอ”

หยวนชิงหลิงรู้ว่านางเป็นห่วงตัวเอง ในใจลึกๆ ก็รู้สึกซาบซึ้งมาก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน