ตอนที่ 269 จงใช้กฎบ้านมาจัดการอย่างเหมาะสม – ตอนที่ต้องอ่านของ บัลลังก์หมอยาเซียน
ตอนนี้ของ บัลลังก์หมอยาเซียน โดย ลิ่วเยว่ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยาย จีนทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 269 จงใช้กฎบ้านมาจัดการอย่างเหมาะสม จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
หยู่เหวินเห้าคว้าแส้ของนางด้วยมือข้างหนึ่ง เหวี่ยงมันไปพันเข้าที่รอบคอของนาง จากนั้นจึงปลดเข็มขัดของสวีอีออกมา ผูกเข้ากับแส้แล้วโยนมันขึ้นไป เขาดึงเข็มขัดเส้นนั้นขึ้นไปบนฟ้า แล้วแขวนคอฉู่หมิงหยางจนห้อยต่องแต่งทั้งอย่างนั้น การเคลื่อนไหวทั้งหมดนี้เสร็จสิ้นในครั้งเดียว "ไม่จำเป็นต้องไปแขวนคอให้ตายที่ประตูหน้าจวนข้าหรอก เจ้าตายซะที่นี่ก็สิ้นเรื่องแล้ว"
สวีอีรีบร้อนตะครุบที่เอวตัวเองหมับ ป้องกันไม่ให้เสื้อผ้าของเขาคลายออกจากกัน
การกระทำนี้ ทำให้คนรับใช้กับองครักษ์ของจวนตระกูลฉู่พากันตกใจ ต่างก็รีบวิ่งกรูกันเข้าไปหมายจะช่วย หยู่เหวินเห้าแผดเสียงดังด้วยความโกรธเกรี้ยวว่า “ใครก็ตามที่กล้าออกหน้ามา ข้าจะกุดหัวมันผู้นั้นซะ”
ใบหน้าของฉู่หมิงหยางแดงก่ำ ดวงตาทั้งสองข้างเบิกโพลงจนแทบจะถลนออกมาอยู่แล้ว นางดิ้นรนสะบัดแขนขาเป็นพัลวัน แต่ยิ่งนางดิ้นรนมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งถูกรัดแน่นมากขึ้นเท่านั้น
ลำคอของนางถูกบีบรัดจนเกิดเสียงดังอึก ๆ อัก ๆ หลุบสายตาลงอย่างร้องขอความช่วยเหลือ ทันใดนั้นหมันเอ๋อ หญิงรับใช้ข้างกายนางก็รีบพุ่งออกมา แล้วพูดว่า “ท่านอ๋องถึงกับรังแกผู้หญิงอ่อนแอไร้ทางสู้เช่นนี้ ช่างชั่วร้ายไม่สมเป็นชายชาตรีแม้แต่น้อย!”
หยู่เหวินเห้ามองประเมินส่วนสูงของสาวใช้คนนี้คร่าว ๆ จึงสรุปในใจว่า นางผู้นี้คงจะเป็นคนที่ปลอมตัวเป็นโสวฝู่ฉู่ในตอนนั้น แล้วใช้ไสยศาสตร์มนต์ดำอะไรนั่นกับเขาแน่ ด้วยความโกรธที่ปะทุไปทั่วทุกอณูรูขุมขนแล้ว จึงเงื้อเท้าข้างหนึ่งขึ้น แล้วเตะออกไปทันที ฝ่าเท้านั้นเตะเข้าที่หน้าท้องของนาง เป็นการเตะที่รุนแรงมากจนนางกระเด็น ปลิวออกนอกโถงไปเลยตรง ๆ
แต่หลังจากที่นางปลิวออกไป นางใช้สองเท้ายันกับกำแพง แล้วเหินทะยานกลับมาราวกับลูกศรที่หลุดออกจากแล่ง ขว้างกริชเล่มหนึ่งออกจากมือไปตัดเข็มขัดเส้นนั้น ฉู่หมิงหยางร่วงลงพื้นไปตรงๆ นางทะยานเข้ามาหมายจะรับตัวเจ้านายไว้ หยู่เหวินเห้าก็คว้าจับแส้ขึ้นมา แล้วสะบัดฟาดเข้าใส่นางทันที
หากว่านางหลบหลีกมัน ฉู่หมิงหยางจะต้องร่วงลงไปกองกับพื้น
หรือจะไม่หลบ ยอมลิ้มรสแส้ที่ฟาดมาเต็มๆ นั่น แล้วตรงไปรับฉู่หมิงหยางให้ทัน
เมื่อแส้มาถึง นางยังคงไม่เคลื่อนตัวหลบ ยอมปล่อยให้แส้ฟาดเข้าที่หัวของนางจนเกิดเป็นรอยปื้นแดงแถบใหญ่ นางกัดฟันแล้วยื่นมือออกไปรับตัวฉู่หมิงหยางมา จากนั้นจึงค่อยๆ วางนางลงบนพื้นช้าๆ
หลังจากที่ฉู่หมิงหยางลงสู่พื้นได้ ก็หอบหายใจเอาอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่ หน้าอกของนางอึดอัด เจ็บปวดจนแทบจะระเบิดเสียให้ได้
หยู่เหวินเห้ายืนอยู่ตรงหน้านางอย่างเย็นชา สาวใช้ที่ชื่อหมันเอ๋อก็หยุดนิ่งอย่างระแวดระวัง แส้นั้นทรงพลังมาก ทั้งหน้าผากและหัวส่วนบน เกือบจะอาบไปด้วยสีแดงจากเลือดสด ๆ ที่ไหลออกมาอยู่แล้ว ดวงตาของนางมืดมนถมึงทึง “ ท่านอ๋อง อย่าได้รังแกจนเกินไปนัก มิฉะนั้น ข้าเองก็จะไม่เกรงใจอีกต่อไป "
หยู่เหวินเห้าหันไปมองโสวฝู่ฉู่อย่างเย็นชา ดวงตาแฝงแววเหี้ยมโหด
โสวฝู่ฉู่ทนรับสายตาแบบนี้ไม่ได้ หันไปร้องตวาดใส่สาวใช้ที่ชื่อหมันเอ๋อว่า "บังอาจนัก! ยังไม่รีบถอยไปอีกรึ?"
หมันเอ๋อคุกเข่าลงกับพื้น พูดอย่างเยือกเย็นว่า “นายท่าน สิ่งที่คุณหนูรองพูดเป็นความจริงเจ้าค่ะ ข้าน้อยได้เห็นและได้ยินมาด้วยตาตนเอง อ๋องฉุ่สัญญาว่าจะแต่งกับคุณหนูรองจริง ๆ ทั้งยังบอกกับคุณหนูรองว่าให้กลับมายกเลิกงานแต่ง แล้วรอเขามาสู่ขอ คิดไม่ถึงว่าวันนี้จู่ ๆ อ๋องฉู่กลับปฏิเสธไม่ยอมรับ ทั้งยังพลิกลิ้นกล่าวหาว่าคุณหนูรองไปล่วงเกินเขา คำพูดเช่นนี้จะเชื่อได้อย่างไรกัน? หากไม่มีจดหมายของเขาส่งมา จะเป็นไปได้หรือว่า คุณหนูรองจะไปหาเขาโดยไม่คำนึงถึงชื่อเสียงของตัวเองเช่นนี้ "
นางหันไปมองหยู่เหวินเห้า มีกระดิ่งอันหนึ่งอยู่ที่ข้อมือ นางสั่นมันด้วยท่าทีคล้ายไม่ได้ตั้งใจเล็กน้อย ดวงตาของนางเป็นประกายเหมือนเปลวไฟ เอ่ยถามอย่างเคร่งขรึมว่า “อ๋องฉู่ ท่านกล้าพูดหรือไม่ว่า เมื่อวานนี้ท่านไม่ได้สัญญาว่าจะแต่งงานกับคุณหนูรอง ? บอกข้าทีว่าท่านไม่ได้มอบของแทนใจให้กับคุณหนู? ท่านกล้าบอกหรือไม่ว่า เมื่อวานนี้เป็นท่านเองที่เป็นฝ่ายเข้าไปกอดคุณหนูรองก่อน?”
กระดิ่งที่ข้อมือของนางยังคงสั่นไหวไปมา ทำให้เกิดเสียงกริ๊งๆๆต่อเนื่องไม่หยุด
หยู่เหวินเห้าเดินเข้าไปช้า ๆ ใบหน้าไม่แสดงสีหน้าอารมณ์ใด ๆ ออกมาให้เห็น
เมื่อเข้าไปใกล้หมันเอ๋อกับฉู่หมิงหยางแล้ว เขาก็นั่งยอง ๆ ลงไป มองไม่เห็นอารมณ์อะไรในสายตาของเขา
ฉู่หมิงหยางจับข้อมือของค่อย ๆ นั่งตัวตรง ร่องรอยของชัยชนะและความตื่นเต้น ส่องประกายวาบผ่านขึ้นมาในดวงตาของนาง
เขากัดฟันถามไปรอบหนึ่ง คำตอบที่ได้เป็นเอกฉันท์ คือมีคนเห็นเขาเข้าไปในห้องข้าง ที่อ๋องฉู่ใช้พักกลางวันจริงๆ
ใบหน้าของโสวฝู่ฉู่เวลานี้เป็นสีดำสนิทไปแล้ว สันนิษฐานได้ว่า เขาคงไม่เคยรู้สึกอับอายในการทำงานรับราชการได้มากขนาดนี้มาก่อนในชีวิต เขาถึงกับถูกสาวใช้คนหนึ่งปลอมตัวเข้าไปล่วงเกินลูกชายบ้านอื่นคนหนึ่ง
เรื่องที่ยากที่สุดในเรื่องนี้คือ ไม่ว่าเขาจะยอมรับหรือปฏิเสธว่าวันนั้นถูกคนสวมรอย หรือจะยอมรับไปเลยตรง ๆ ว่าคนที่ไปวันนั้นคือตัวเขาเอง แท้ที่จริงแล้วผลสรุปก็จะเหมือนกัน นั่นคือถ้าเขาบอกว่าเขาไม่ได้ถูกสวมรอย ก็แปลว่าเป็นเขาเองที่พาหลานสาวเข้าไปล่วงเกินหยู่เหวินเห้า
เมื่อหยู่เหวินเห้าได้เห็นเจ้าจิ้งจอกเฒ่า ในสภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเช่นนี้ เขาก็นั่งลง ยกเท้าขึ้นไขว่ห้าง พูดอย่างเย็นชาว่า “วันนี้ ต่อหน้าเสด็จอากับเซียวเหยากง จวนตระกูลฉู่จะต้องให้คำอธิบายที่ชัดเจนแก่ข้า ฉู่หมิงหยางทำลายชื่อเสียงของข้าไปแล้ว เป็นการสร้างเงามืดอันเป็นบาดแผลทางใจอันใหญ่หลวงต่อข้า จะให้ข้าลงมือเอง หรือโสวฝู่ฉู่จะใช้กฎบ้านท่านมาจัดการให้เรียบร้อย ไม่ว่าใครก็อย่าได้คิดจะเกลี้ยกล่อมข้าให้สงบลง หรือให้ข้ายอมละเว้นโทษนางทั้งสิ้น พวกเจ้ายังไม่เคยถูกคนอัปลักษณ์เช่นนี้ล่วงเกิน ย่อมไม่รู้ถึงความลำบากใจ อับอายและความอัปยศอดสูเช่นข้า ถ้านางไม่ถูกลงโทษ ข้าก็ไม่อาจปล่อยวางความทุกข์ในใจได้เป็นแน่”
เซียวเหยากง จ้องมองเพื่อนร่วมงานเก่าของเขาอย่างเห็นอกเห็นใจ แล้วกล่าวว่า "พี่ฉู่ เรื่องนี้พวกเราไม่อาจสอดมือเข้าไปยุ่งด้วยได้ จะอย่างไร ท่านก็ไม่ควรให้อ๋องฉู่ต้องทนทุกข์กับความน้อยเนื้อต่ำใจเช่นนี้ไปเปล่า ๆ ได้"
โสวฝู่ฉู่ไม่อาจระงับความโกรธเกรี้ยวนี้ไว้ได้อีกต่อไป จึงตะโกนอย่างรวดเร็วว่า " เริ่มเถอะ ใช้กฎบ้านจัดการลงทัณฑ์เดี๋ยวนี้!"
ฉู่หมิงหยางเข่าอ่อนทรุดลงไปนั่งกับพื้น พูดอย่างโศกเศร้าว่า “ท่านปู่ เป็นหลานต่างหากที่เป็นคนต้องน้อยเนื้อต่ำใจ ทำไมท่านถึงไปช่วยคนนอกแต่ไม่ช่วยข้าล่ะ”
โสวฝู่ฉู่กัดฟันกรอด หันไปจ้องหน้านางทันที " หุบปากให้ข้าเดี๋ยวนี้! เจ้าทำข้าอับอายขายหน้าจนไม่รู้จะเอาไปเก็บไว้ตรงไหนดีแล้ว!"
กฎลงทัณฑ์ประจำบ้านปรากฏขึ้น เป็นไม้เท้าหนาขนาดใหญ่ท่อนหนึ่ง โสวฝู่ฉู่รับมาด้วยมือเดียว แล้วกระแทกมันลงกับพื้นอย่างแรง ถึงขั้นเกิดความรู้สึกว่าพื้นสั่นสะเทือนขึ้นมาเลยทีเดียว
ฉู่หมิงหยางตกใจมาก แต่ปากยังไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ นางจ้องมองหยู่เหวินเห้าตาเขม็ง แผดเสียงดังลั่นว่า "หยู่เหวินเห้า อย่าลำพองใจให้มันมากนัก กระทั่งสวะชั้นต่ำไร้ค่า ไร้ราคาอย่างหยวนชิงหลิงเจ้ายังยอมแต่งด้วยได้ ข้าดูถูกเจ้านัก แค่ยอมลดตัวไปเป็นชายารองให้เจ้า ก็นับว่าไว้หน้าเจ้ามากแล้ว เจ้าอย่าได้อวดดีไม่รับน้ำใจนี้ไปหน่อยเลย สักวันเจ้าจะต้องเสียใจแน่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
OMG ไม่คิดว่าจะอ่านจบ 2105 หน้าสุดปัง เรื่องสนุกมาก ดำเนินเรื่องได้น่าติดตาม มีความเรียลจนบางตอนมีน้ำตาซึมตามเพีาะความประทับใจ สนุกมากจริงๆทอยากให้มีภาคลูกไปบ้าง...
กลับมาอ่านอีกครั้ง สนุกจริง...
สนุกมากค่ะ มีต่อไหมคะ...
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...