หลังจากอดอาหารมาสามวัน ทนหิวมาสามวัน นางที่นอกจากดื่มน้ำแล้ว ก็ไม่กินอะไรเลย
ตลอดชีวิตนี้นางไม่เคยลองดิ้นรนเช่นนี้เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตนเองต้องการมาก่อน
แม้ในตอนที่หยู่เหวินเห้าจะผูกนางไว้กับเสาบ้านอย่างแน่นหนาจนนางแทบจะขาดอากาศหายใจ หรือในตอนที่นางได้รับโทษสามสิบไม้โบย ความรักที่มีต่อเขากลับไม่น้อยลงเลยทั้งยังเพิ่มพูนมากขึ้นอีกต่างหาก
เพราะว่าในตอนที่เขาโมโหนั้นทำให้ชีวิตของนางตกอยู่ในความเสี่ยง แต่นั่นทำให้นางรู้สึกราวกับได้เห็นตัวเองในเวลาที่ตนนั้นจับแส้ฟาดเหล่าสาวใช้ นางจึงคิดว่าแท้จริงแล้วพวกเขาก็มีนิสัยเช่นเดียวกัน
ฮูหยินใหญ่ฉู่นั่งลงข้างเตียง พูดทั้งน้ำตา : “เหตุใดเจ้าถึงได้ดื้อรั้นเช่นนี้?หยู่เหวินเห้าคนนั้นมีอะไรดีนักหนา?เจ้าถึงได้อยากอภิเษกกับเขาเพื่อยั่วโมโหเสด็จปู่ของเจ้าด้วย อภิเษกกับอ๋องจี้ไม่ดีกว่าหรือไร ?พระชายาจี้ดูเป็นคนอายุสั้น เจ้าอภิเษกเข้าไปไม่นานคงได้ขึ้นเป็นพระชายา เหตุใดถึงอยากไปทนรับความโกรธของอ๋องฉู่นั่นด้วยเล่า ?ตอนนี้หยวนชิงหลิงก็ตั้งครรภ์แล้ว และหากให้กำเนิดเป็นบุตรชาย เช่นนั้นตำแหน่งของนางก็จะยิ่งแข็งแกร่งดุจขุนเขา เจ้าไปทำร้ายไม่ได้หรอก”
สามวันมานี้ ทั้งเกลี้ยกล่อมก็แล้ว ทั้งด่าทอก็แล้ว แต่ยังไงก็ไม่เข้าหูนางเลย และนั่นยิ่งทำให้ฮูหยินใหญ่ฉู่ยิ่งเจ็บใจมากขึ้น
โดยเฉพาะในตอนที่ได้เห็นร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผล ถึงจะโกรธแต่ก็ยังรู้สึกสงสารจับใจ
ฉู่หมิงหยางนอนอยู่อย่างไร้ชีวิตชีวา ไม่ขยับตัวเลยแม้แต่น้อย
ฮูหยินใหญ่ฉู่หันไปมองคุณหนูใหญ่อย่างฉู่หมิงชุ่ยที่นั่งอยู่ไม่ไกล “เจ้ามาเกลี้ยกล่อมน้องสาวเจ้าหน่อยเถอะ อย่าเอาแต่นั่งนิ่งอยู่ตรงนั้น”
ที่จริงฉู่หมิงชุ่ยไม่คิดที่จะกลับมาที่นี่อีกแล้ว ถ้าหากไม่ใช่ว่าเพราะว่าเจ้าแม่ให้คนไปส่งจดหมายแก่นางถึงสามครั้ง นางก็ไม่มีทางที่จะเข้ามาเหยียบในห้องของฉู่หมิงหยางแม้แต่ครึ่งก้าวเด็ดขาด
เมื่อได้ยินเจ้าแม่พูดเช่นนี้นางได้แต่ตอบกลับอย่างเฉยเมย : “ข้าจะเกลี้ยกล่อมอะไรได้เล่าเจ้าคะ?หลายวันมานี้เจ้าก็พูดไปหมดแล้วไม่ใช่หรือ?นางฟังหรือ นางไม่ฟัง แล้วพูดไปจะมีประโยชน์อันใดเจ้าคะ?”
“งั้นเจ้าก็ไปซะ” ฉู่หมิงหยางพึมพำออกมา เสียงแม้จะไม่ได้ดังมากนัก แต่น้ำเสียงกลับเต็มไปด้วยความเย็นชา
ฉู่หมิงชุ่ยมองไปยังนางแล้วตอกกลับนางด้วยความเรียบเฉย: “ข้าก็ไม่ได้อยากกลับมานักหรอก หากไม่ใช่ว่าเห็นแก่เจ้าแม่ เจ้าคิดหรือว่าตอนนี้ข้าจะสนใจ ?เจ้าเองก็พอจะรู้จักตนเองดี แล้วเหตุใดเขาถึงต้องอภิเษกกับเจ้า?เหตุใดเขาจะต้องชอบเจ้า?เพราะว่าเจ้ายอมอดอาหารด้วยความไร้ยางอายหรือ?ข้าว่าเจ้าควรจะตัดใจเสีย ตอนนี้อ๋องจี้ยังไม่ทราบเรื่องนี้ จงเร่งจัดการเรื่องอภิเษกให้เร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นหากข่าวแพร่ออกไปแล้วแม้แต่อ๋องจี้เองก็จะไม่เอาเจ้าด้วยเช่นกัน”
“หุบปาก แล้วไสหัวออกไปซะ!” ฉู่หมิงหยางเงยหน้าขึ้นมองนางด้วยความบูดบึ้ง
ฉู่หมิงชุ่ยลุกขึ้นยืนแล้วมองด้วยสายตาที่เย้ยหยัน “ข้าไปแน่ แต่ข้าจะบอกกับเจ้าเอาไว้ ถึงต่อให้เจ้าจะอดตายอยู่บนเตียงนี้ เสด็จปู่ก็ไม่มีทางให้เจ้าอภิเษกเข้าไปอยู่จวนอ๋องฉู่หรอก แม่นมสี่ได้เข้ามาพบเสด็จปู่แล้วและยังบอกอีกว่าลูกสาวแห่งตระกูลฉู่ไม่ว่าใครก็ห้ามเข้าไปเหยียบจวนอ๋องฉู่เด็ดขาด ซึ่งนี่ก็เป็นคำมั่นที่เสด็จปู่มอบให้แก่แม่นมสี่ แต่ทว่าเจ้ายังมีโอกาส เจ้าลองไปวิงวอนต่อแม่นมสี่สิ เพียงนางพูดคำเดียว เสด็จปู่จะต้องยินยอมแน่นอน”
ฉู่หมิงชุ่ยกล่าวจบก็หันหลังจากไปด้วยความเย็นชาทันที
ฉู่หมิงหยางประหลาดใจพลางหันไปถามฮูหยินใหญ่ฉู่ : “เจ้าแม่ ที่นางพูดเป็นเรื่องจริงหรือ?เสด็จปู่ให้คำมั่นแก่แม่นมสี่คนนั้นหรือ?”
ฮูหยินใหญ่ฉู่โมโหขึ้นมา: “ใครจะรู้กัน?แต่ว่าแม่นมสี่คนนั้นเคยมาพบเสด็จปู่ของเจ้าจริง หลังจากที่นางเข้ามา เสด็จปู่ของเจ้าก็ยอมประนีประนอมไม่พูดถึงเรื่องอภิเษกของเจ้าและอ๋องฉู่อีกเลย แต่กลับวางตัวเป็นอ๋องจี้แทน เรื่องนี้เจ้าไม่รู้หรอกหรือ ?”
ฉู่หมิงหยางตอบอย่างเย็นชา: “ข้าคิดว่าที่เสด็จปู่ให้ข้าอภิเษกกับอ๋องจี้ เพราะเขาต้องการที่จะค้ำชูอ๋องจี้”
ฮูหยินใหญ่จู่ตอบกลับ : “ความคิดของเสด็จปู่ของเจ้า ใครก็ไม่อาจรับรู้ได้ แต่ต่อให้เขาจะไม่ช่วยอ๋องจี้ อ๋องจี้ก็มีความหวังที่มากกว่า เหตุใดเจ้าถึงได้อยากจะอภิเษกกับหยู่เหวินเห้าด้วย ?”
ฉู่หมิงหยางคร่ำครวญออกมาอย่างเศร้าสร้อย “ข้าเองก็ไม่รู้เช่นกัน ยิ่งเขาปฏิเสธข้า ข้าก็ยิ่งอยากที่จะอภิเษกกับเขา ข้ารู้ว่าตัวเองเอาแต่ใจยิ่งนัก แต่ข้าอยากอภิเษกกับเขา เดิมทีข้าคิดว่าตัวเองตัดใจจากเขาแล้ว แต่วันนั้นที่ได้จุมพิตกับเขา ข้าก็รู้ได้ทันทีเลยว่าทั้งชีวิตนี้ไม่มีผู้ใดที่จะสามารถเข้ามาอยู่ในใจของข้านอกจากเขาแล้ว เจ้าแม่ เจ้าช่วยข้าหน่อยเถอะ ลูกขอร้องเจ้าค่ะ”
หลายวันมานี้ฉู่หมิงหยางแสดงความแข็งกร้าวอยู่ตลอด แต่ตอนนี้นางกลับเผยให้เห็นถึงความอ่อนแอของตัวเองออกมา จึงทำให้ฮูหยินใหญ่ฉู่ไม่รู้จะทำเช่นไรดี “แม่จะไปทำสิ่งใดได้เล่า?ต่อให้แม่ไปคุกเข่าอ้อนวอนต่อหน้าเสด็จปู่ของเจ้า เขาก็ไม่มีทางเปลี่ยนความคิดได้หรอก”
“เจ้าไปร้องขอแม่นมสี่คนนั้น จะให้เงินก็ได้ หรือจะต้องข่มขู่ก็ได้ ขอเพียงนางมาพูดกับเสด็จปู่ เช่นนั้นความต้องการของข้าก็จะสำเร็จแล้ว”ฉู่หมิงหยางร้องไห้ออกมาอย่างน่าสงสาร “เจ้าแม่ เจ้าไม่ควรที่จะมามองดูข้าตายไปแบบนี้ เจ้าต้องช่วยข้า”
ฮูหยินใหญ่ฉู่ตอบกลับ “เจ้าย่าของเจ้าเคยกล่าวเอาไว้ว่าแม่นมสี่คนนั้นห้ามไปยุ่งด้วยเด็ดขาด”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...